backup og meta

มดลูกแตก อาการ สาเหตุ วิธีรักษา

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงนันทิวดี มาเมือง · สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 27/02/2023

    มดลูกแตก อาการ สาเหตุ วิธีรักษา

    มดลูกแตก หมายถึง ภาวะที่มดลูกขณะตั้งครรภ์มีการฉีดขาด หรือปริออก ทำให้มีการตกเลือดในช่องท้องจำนวนมาก และอาจทำให้ทารกในครรภ์และน้ำคร่ำหลุดออกจากมดลูกเข้าไปในช่องท้อง จนทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ได้ ซึ่งภาวะมดลูกแตกนี้พบมากในช่วงระหว่างคลอด แต่บางครั้งก็อาจเกิดในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้าย และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

    อาการของภาวะมดลูกแตก

    อาการต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณของภาวะมดลูกแตก

    • มีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ
    • กดหน้าท้องแล้วรู้สึกเจ็บ
    • ปวดบริเวณเหนือหัวหน่าว (ส่วนของร่างกายที่อยู่ระหว่างท้องน้อย กับอวัยวะสืบพันธุ์)
    • มดลูกหดรัดตัวไม่สัมพันธ์กัน ทำให้การคลอดแบบธรรมชาติเป็นไปได้ลำบากขึ้น
    • ศีรษะของลูกน้อยถดถอยเข้าสู่ช่องคลอด
    • ปวดรุนแรงอย่างฉับพลันเมื่อมดลูกบีบรัดตัว
    • อัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ผิดปกติ

    หากพบว่าผนังมดลูกผิดปกติ คุณหมออาจวินิจฉัยให้ผ่าตัดคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ

    สาเหตุของมดลูกแตก

    มดลูกแตก อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้

    • การบีบรัดตัวของมดลูกในขณะคลอดอาจทำให้มดลูกแตกได้
    • การใช้มดลูกมากเกินไป เช่น การมีลูกมากกว่า 3 คนขึ้นไป
    • การผ่าตัดผนังมดลูก หรือเคยขูดมดลูกมาก่อน
    • ทารกในครรภ์ตัวใหญ่เกินไป เมื่อเทียบกับความกว้างของอุ้งเชิงกราน
    • ทารกอยู่ในท่านอนขวาง หรือที่เรียกว่า “ลูกน้อยไม่ยอมกลับหัว”
    • อายุของคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ตอนมีอายุมาก ตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
    • เคยประสบอุบัติเหตุ และมดลูกได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
    • ผนังมดลูกอ่อนแอ หรือบางผิดปกติ
    • เคยมีการผ่าคลอดมาก่อน
    • ใช้ยาบางชนิดที่ทำให้มดลูกบีบตัวผิดปกติ หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับปริมาณยาชนิดนั้นมากเกินไป

    วิธีรักษาและป้องกันมดลูกแตก

    หากเกิดภาวะที่เสี่ยงมดลูกแตก คุณหมอจะทำการผ่าตัดคลอด เนื่องจากหากคลอดเองตามธรรมชาติอาจพบปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ตามมาได้ อย่างไรก็ตาม ควรพูดคุยเกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาที่เป็นไปได้ทั้งหมดกับคุณหมอ เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม และปลอดภัยสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์มากที่สุด

    นอกจากนั้น มดลูกแตก อาจป้องกันได้ด้วยการปฏิบัติตัว ดังนี้

    • หลีกเลี่ยงการทำแท้ง
    • วางแผนที่จะตั้งครรภ์ก่อนอายุ 30 ปี
    • หลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ภายใน 2 ปี หลังจากได้รับการผ่าตัดคลอด
    • ขณะตั้งครรภ์ ควรพบคุณหมอตามนัดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสสุดท้าย
    • หากรู้สึกผิดปกติอย่าลังเลที่จะปรึกษาคุณหมอ  เช่น ปวดท้องกะทันหัน ลูกดิ้นน้อยลง
    • เข้าพบคุณหมอทันทีหากเลยกำหนดการคลอดแล้วแต่ยังไม่มีสัญญาณเตือนคลอด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงนันทิวดี มาเมือง

    สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 27/02/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา