อยากอาหารมากขึ้น
คนท้องเมื่อพ้นระยะแพ้ท้องมักอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีพลังงาน ธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง เช่น ไอศกรีม ช็อกโกแลต ข้าว มันฝรั่ง นมและผลิตภัณฑ์นม สาเหตุที่ในระยะนี้คุณแม่ต้องการอาหารมากขึ้นยังไม่พบแน่ชัด แต่อาจเป็นเพราะอาหารเหล่านี้เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้คุณแม่และทารกในครรภ์ คนท้องบางคนอาจอยากรับประทานหรือดมอะไรแปลก ๆ เช่น อยากรับประทานของดองเค็ม อยากดมกลิ่นแก๊สหุงต้ม และอาจจะรู้สึกไม่ชอบอาหารที่เคยชอบมาก่อน ทั้งยังมักมีประสาทสัมผัสในการรับกลิ่นและรสที่ไวมากขึ้นด้วย เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอชซีจี (HCG) เพิ่มสูงขึ้น
มีอาการท้องผูก
ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่สูงขึ้นทำให้อาหารเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ได้ช้าลง และระบบขับถ่ายทำงานไม่ปกติ การดื่มน้ำให้มาก ๆ กินอาหารที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารสูง เช่น ผักและผลไม้ ร่วมกับการออกกำลังกายเบา ๆ อาจช่วยบรรเทาอาการนี้ได้
อารมณ์แปรปรวน
ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่จะแปรปรวนอย่างรุนแรง จนมักส่งผลให้มีอาการหงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่คงที่ ทั้งยังอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า ซึ่งหากปล่อยไว้เรื้อรัง อาจพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าได้ หากพบว่าอารมณ์และจิตใจเปลี่ยนแปลงไปในช่วงตั้งครรภ์ ควรรีบปรึกษาคุณหมอและรับการรักษาอย่างเร่งด่วน
มีเลือดออกจากช่องคลอด
ส่วนใหญ่ ภาวะเลือดออกจากช่องคลอดมักเกิดขึ้นตอนตั้งครรภ์ครั้งแรก อาจพบได้ในช่วง 6-12 วันหลังไข่ผสมกับอสุจิแล้วปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน ภาวะนี้เรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก ซึ่งอาจทำให้คนสับสนว่าเป็นประจำเดือนที่มาก่อนกำหนด แต่ความแตกต่างระหว่างเลือดล้างหน้าและประจำเดือนปกติ คือ เลือดล้างหน้าเด็กจะไหลออกมาในปริมาณเล็กน้อย กะปริบกะปรอย ไม่เยอะมากและอาจมีตกขาวที่เหนียวข้นร่วมด้วย
การฝากครรภ์ ขั้นตอนสำคัญสำหรับคนท้อง
เมื่อมีอาการคนท้องระยะแรก และตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าตั้งครรภ์ คุณแม่ควรเข้าฝากครรภ์กับคุณหมอที่โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของการตั้งครรภ์ คุณหมออาจนัดตรวจครรภ์ทุก 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของทารกในครรภ์
การฝากครรภ์ คือ การตรวจสุขภาพครรภ์เป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์แข็งแรงสมบูรณ์ดี ไม่มีความผิดปกติ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก ภาวะรกต่ำ หรือโรคทางพันธุกรรมที่อาจส่งต่อมายังลูก เช่น โรคธาลัสซีเมีย โรคฮีโมฟีเลีย
การฝากครรภ์ในช่วงไตรมาสที่ 1 คุณหมออาจใช้วิธีการดังต่อไปนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย