ปัญหาการรับประทาน เด็กที่มีอาการปากแหว่งเพดานโหว่อาจไม่สามารถดูดนมแม่หรือขวดนมแบบตามปกติได้ อาจมีอาการสำลักนมได้ง่าย เนื่องจากอาจขึ้นจมูกได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการออกแบบจุกนมและขวดนมพิเศษสำหรับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ เพื่อช่วยให้รับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสมและได้รับสารอาหารที่เพียงพอจนกว่าจะได้เข้ารับการผ่าตัด ปัญหาด้านการพูด หากยังไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้พูดไม่ชัด เสียงอาจจะขึ้นจมูก ทำให้ยากต่อการสื่อสาร ควรรีบผ่าตัดแก้ไขก่อนที่เด็กจะเริ่มพูด ปัญหาด้านการได้ยิน อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อที่หูชั้นกลางหรือหูน้ำหนวก และหากไม่ได้รับการรักษาอาจสูญเสียการได้ยินได้ เด็กที่ปากแหว่งเพดานโหว่อาจจะต้องใส่ท่อที่บริเวณแก้วหูเพื่อระบายของเหลว และควรตรวจสอบการได้ยินปีละครั้ง ปัญหาด้านทันตกรรม ฟันอาจขึ้นผิดตำแหน่ง ฟันซ้อนซึ่งอาจทำให้มีความเสี่ยงสูงที่ฟันจะผุได้ง่ายกว่าปกติ รวมไปถึงอาจจะต้องจัดฟันเพื่อให้ฟันเรียงตัวกันอย่างปกติ ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด
ปากแหว่งเพดานโหว่มักสังเกตเห็นตั้งแต่แรกเกิด และคุณหมออาจเริ่มประสานการดูแลตั้งแต่ช่วงเวลานั้น ทั้งทันตแพทย์และคุณหมอผ่าตัด
สาเหตุ
สาเหตุของปากแหว่งเพดานโหว่
ปากแหว่งเพดานโหว่เกิดจากสาเหตุเนื้อเยื่อในใบหน้าและปากของทารกไม่ประสานกันอย่างปกติ ซึ่งปกติแล้วเนื้อเยื่อที่ประกอบเป็นริมฝีปากและเพดานปากจะหลอมรวมเข้าด้วยกันภายในเดือน 2-3 ของพัฒนาการทารกในครรภ์ แต่ทั้งนี้ ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดปากแหว่งเพดานโหว่ อาจมีความผิดปกติในโรคทางพันธุกรรม และกลุ่มอาการทางโรคพันธุกรรม
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของปากแหว่งเพดานโหว่
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสให้ทารกมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ได้แก่
- พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติโรคปากแหว่งเพดานโหว่
- สูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ยากันชัก
- ขาดกรดโฟลิกระหว่างตั้งครรภ์
- ปัญหาด้านสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย