โรคเด็กและอาการทั่วไป

วัยเด็กเป็นวัยที่เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิดถึงสามปี เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขายังไม่แข็งแรงดีนัก และนี่คือ โรคเด็กและอาการทั่วไป ที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบ จะได้รับมือได้อย่างถูกต้อง

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคเด็กและอาการทั่วไป

โนโรไวรัส สาเหตุอาการท้องเสียที่ระบาดในเด็ก

โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นเชื้อไวรัสก่อโรคในระบบทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยในเด็ก เชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่น น้ำลาย น้ำมูก อาเจียน อุจจาระ การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน ยิ่งหากเด็กอยู่ในพื้นที่ปิดและมีผู้คนพลุกพล่านอย่างโรงเรียน เนอสเซอรี สถานรับเลี้ยงเด็ก ก็ยิ่งเสี่ยงรับเชื้อได้ง่าย การรักษาโรคติดเชื้อโนโรไวรัสทำได้ด้วยการดูแลให้ผู้ติดเชื้อพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก ๆ และหลีกเลี่ยงการออกไปที่สาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น โดยทั่วไป หากดูแลถูกวิธี อาการจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัส คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเด็กเล็กหรือวัยเรียนจึงควรรักษาความสะอาดบริเวณพื้นที่อยู่อาศัยเป็นประจำ และฝึกให้ลูกดูแลสุขอนามัยของตัวเองให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโนโรไวรัส [embed-health-tool-vaccination-tool] โนโรไวรัส คืออะไร โนโรไวรัส เป็นชื่อกลุ่มไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ไวรัสชนิดนี้พบได้บ่อยและติดต่อได้ง่ายมาก มักระบาดในหมู่เด็กเล็กและเด็กวัยเรียนที่รวมตัวกันในสถานที่เดียวกันหรือรับประทานอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้กับคนจำนวนมาก เช่น เนอสเซอรี่ สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทหอยดิบหรือหอยที่สุกไม่ทั่วถึง ผักและผลไม้ที่ยังไม่ปรุงสุกหรือล้างไม่สะอาด นอกจากนี้ โนโรไวรัสยังสามารถแพร่กระจายผ่านวิธีต่อไปนี้ได้ด้วย การสัมผัสกับน้ำลาย อาเจียน หรืออุจจาระของผู้ติดเชื้อ การรับละอองอาเจียนของผู้ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย การสัมผัสกับมือที่ไม่ได้ล้างของผู้ติดเชื้อ การสัมผัสกับวัตถุที่ผู้ติดเชื้อสัมผัสมาก่อน การรับประทานอาหารและน้ำดื่มร่วมกับผู้ติดเชื้อ อาการของการติดเชื้อ โนโรไวรัส การติดเชื้อโนโรไวรัสอาจทำให้มีอาการต่อไปนี้ อาเจียน คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือน มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยทั่วไป ผู้ติดเชื้อโนโรไวรัสจะแสดงอาการภายใน 1-2 วันหลังรับเชื้อ […]

สำรวจ โรคเด็กและอาการทั่วไป

โรคเด็กและอาการทั่วไป

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยของเด็กวัยเรียน ที่พ่อแม่ควรระวัง

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยของเด็กวัยเรียน เป็นปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายและสติปัญญา เพราะเมื่อเกิดปัญหาสุขภาพ ร่างกายของเด็กก็จะอ่อนแอ เกิดความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย จนไม่สามารถเรียนหรือออกไปวิ่งเล่นได้ตามปกติ รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ จนทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเศร้าและโดดเดี่ยว ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยของเด็กวัยเรียน มีอะไรบ้าง ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยของเด็กวัยเรียน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัส ซึ่งติดต่อจากคนสู่คน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรทราบถึงสาเหตุของการเกิดโรคและวิธีรับมือเมื่อลูกเกิดความเจ็บป่วย ดังนี้ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้เช่นกัน พบได้บ่อยในเด็กวัยเรียน สามารถแพร่กระจายได้จากการไอหรือจาม ซึ่งมักทำให้เด็กมีอาการมีไข้ หนาวสั่น คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ คอบวมแดง ไอ จาม ปวดเมื่อยตามตัว เหนื่อยล้า เบื่ออาหาร และปวดท้อง การรักษา โดยทั่วไปสามารถทำได้ด้วยการให้เด็กนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และกินยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) พาราเซตามอล ยาแก้เจ็บคอ ยาฆ่าเชื้อ โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อปรสิต จากการเป็นหวัดหรือมีอาการในระบบทางเดินหายใจนำมาก่อน รวมถึงการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อก่อโรค จนทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบ […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ ในเด็ก เกิดจากสาเหตุอะไร

ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ ในเด็ก มีสาเหตุจากอาการระคายเคืองในลำคอหรือการสูดดมสิ่งแปลกปลอมเข้าไป จนทำให้เกิดอาการสำลักและไอออกมา หรืออาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้ร่างกายขับเมือกหรือสารคัดหลั่งออกมามากขึ้น จนเกิดอาการไอมีเสมหะ โดยปกติอาการไอที่เกิดจากการติดเชื้อมักมีไข้ร่วมด้วย แต่ในบางกรณี อาการไออาจเกิดขึ้นเป็นเวลานานแม้ว่าไข้จะหายดีแล้ว จึงยังอาจทำให้เด็กไอมีเสมหะ แต่ไม่มีไข้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรพาเด็กเข้าพบคุณหมอหากอาการไอไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไปหลายสัปดาห์ [embed-health-tool-vaccination-tool] ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ เกิดจากอะไร ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ การระคายเคืองในลำคอหรือระบบทางเดินหายใจ สภาพแวดล้อมอาจมีสารระคายเคืองที่อาจทำให้เกิดอาการไอได้ เช่น ควัน ฝุ่นละออง มลภาวะในอากาศ ซึ่งอาจทำให้ระบบทางเดินหายใจระคายเคือง ส่งผลให้ร่างกายผลิตเสมหะที่มากขึ้น จนเกิดอาการไอมีเสมหะและระคายคอ การรักษา อาการไอมีเสมหะจากสาเหตุดังกล่าว คุณพ่อคุณแม่อาจล้างจมูกให้เด็กด้วยการใช้หลอดฉีดยาดูดน้ำเกลือและฉีดเข้าไปในจมูก เพื่อให้น้ำเกลือเข้าไปล้างสิ่งสกปรกรวมถึงเมือกในจมูก ซึ่งอาจช่วยให้เด็กหายใจโล่งขึ้นและบรรเทาอาการไอมีเสมหะได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในพื้นที่ที่มีความแออัด มีฝุ่นควันหรือมลภาวะทางอากาศ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ เสมหะในคอ โดยปกติร่างกายจะผลิตเสมหะตามธรรมชาติ ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค แต่ในบางกรณี หากร่างกายผลิตเมือกหลังโพรงไซนัสมากเกินไปอาจทำให้เมือกไหลลงไปด้านหลังคอ จนทำให้มีอาการระคายคอ ไอมีเสมหะ เจ็บคอ คลื่นไส้ หรือมีกลิ่นปากได้ การรักษา เพื่อช่วยบรรเทาอาการเสมหะในลำคออาจทำได้ด้วยการดื่มน้ำมากขึ้นประมาณ 2-3 ลิตร/วัน หรืออาจใช้เครื่องทำความชื้นภายในบ้านเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในลำคอ นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถล้างจมูกให้เด็ก ด้วยการใช้หลอดฉีดยาฉีดน้ำเกลือเข้าทางจมูก เพื่อล้างเมือกและสิ่งสกปรกภายในจมูก ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณเสมหะและทำให้เด็กหายใจสบายขึ้น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เป็นการติดเชื้อในส่วนต่าง […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ไข้แดด เด็ก อาการ สาเหตุ และการรักษา

อาการของ ไข้แดด เด็ก มักเกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด มีแดดจัด หรืออุณภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งอาการของไข้แดดอาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่อาจพบได้บ่อยในเด็ก เนื่องจาก สภาพร่างกายของเด็กยังไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ทำให้ร่างกายสะสมความร้อนไว้ในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะภายในร้อนตาม จนอาจทำให้เด็กมีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ตัวร้อน อ่อนเพลีย ปวดหัว กระหายน้ำ เหงื่อออกมากและผิวแดง [embed-health-tool-vaccination-tool] คำจำกัดความ อาการของ ไข้แดด เด็ก คืออะไร อาการของ ไข้แดด เด็ก คือ อาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ตัวร้อน อ่อนเพลีย ปวดหัว กระหายน้ำ เหงื่อออกมากและผิวแดง ซึ่งเป็นอาการที่มักเกิดขึ้นในเด็ก เนื่องจาก ระบบประสาทส่วนกลางซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ จนอาจทำให้เด็กมีอาการไข้แดดได้ง่ายเมื่ออยู่ในสภาพอากาศร้อน มีแดดจัดหรืออยู่ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก นอกจากนี้ เด็กเป็นช่วงวัยที่ต้องการออกไปเรียนรู้ เล่นสนุก และใช้พละกำลังในการขยับร่างกายมาก จึงอาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหากต้องเล่นอยู่ในสภาพอากาศร้อนจัด มีแดดจัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการของไข้แดดได้เช่นกัน อาการ อาการของไข้แดด อาการของไข้แดดมักเกิดจากการสัมผัสกับความร้อนหรือแสงแดดจัดเป็นเวลานาน จนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและขาดน้ำ โดยอาการที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้ รู้สึกกระหายน้ำมากขึ้น คลื่นไส้หรืออาเจียน อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ เป็นลม ปวดหัว หงุดหงิด […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ร้อนในที่เหงือก ในเด็ก อาการและวิธีดูแล

ร้อนในที่เหงือก ในเด็ก อาการและวิธีดูแล ร้อนในที่เหงือก คือภาวะที่มีแผลเปิดบริเวณเหงือก หรือบางครั้ง อาจแผลร้อนในที่บริเวณอื่นภายในช่องปากได้ เช่น กระพุ้งแก้ม เพดานอ่อน ริมฝีปาก แผลร้อนในมักมีลักษณะเป็นแผลขนาดเล็ก สีขาวและอาจบวมแดง ภาวะร้อนในที่เหงือกอาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อย พันธุกรรม การติดเชื้อไวรัส การแพ้อาหารบางชนิด โรคประจำตัวบางอย่าง เป็นต้น ภาวะนี้สามารถเกิดได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่มักพบบ่อยในเด็ก โดยปกติแล้ว ภาวะร้อนในที่เหงือกสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ และอาจบรรเทาได้ด้วยการใช้ยา เช่น ยาลดกรด ยาป้ายแผลในปาก ร่วมกับการดูแลตัวเองเบื้องต้น เช่น การดื่มน้ำเยอะ ๆ การงดรับประทานอาหารรสจัด พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพช่องปาก แต่หากร้อนในที่เหงือกเรื้อรังและมีอาการนานเกิน 3 สัปดาห์ ควรพาเด็กไปพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม อาการของ ร้อนในที่เหงือก อาการที่เป็นสัญญาณว่าเด็กเป็นร้อนในที่เหงือก อาจมีดังนี้ มีแผลพุพองเล็ก ๆ บริเวณเหงือก ตรงกลางแผลเป็นสีขาว ขอบแผลเป็นสีแดง แผลมักมีขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร แต่บางครั้งก็อาจเป็นแผลลึกและกว้างได้ มีปัญหาในการเคี้ยวอาหารหรือแปรงฟัน รับประทานอาหารได้น้อยลง ในเด็กเล็กอาจมีน้ำลายยืด ไม่ยอมกลืนน้ำลาย หายใจทางปากบ่อยขึ้น […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

เมื่อลูกเป็น อีสุกอีใส ควรดูแลอย่างไร

อีสุกอีใส เป็นโรคติดเชื้อไวรัสบริเวณผิวหนังที่พบสามารถพบได้ในคนทุกวัย แต่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก อาจทำให้เกิดผื่น บวมแดง มีตุ่มน้ำพองทั่วร่างกาย ทั้งใบหน้าและลำตัว และอาจมีอาการคันร่วมด้วย อาการคันมักรุนแรงและอาจทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูก หากลูกมีไข้ เบื่ออาหาร และมีตุ่มน้ำเล็ก ๆ จำนวนมากขึ้นบนผิวหนัง อาจเป็นสัญญาณของโรคอีสุกอีใส ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน และควรแยกตัวลูกให้ห่างจากเด็กคนอื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค อีสุกอีใส คืออะไร อีสุกอีใส (Chickenpox) คือ โรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella Zoster Virus) ซึ่งเป็นเชื้อที่แพร่กระจายได้ง่ายผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรงและการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย ตุ่มน้ำพองที่เกิดจากการติดเชื้ออีสุกอีใสจะเริ่มขึ้นบนผิวหนังหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 10-21 วัน โดยระยะที่สามารถแพร่เชื้อได้ไวที่สุดอยู่ในช่วง 1-2 วันก่อนตุ่มน้ำจะขึ้นบนร่างกาย และจะหมดระยะแพร่เชื้อหลังจากที่แผลแห้งและตกสะเก็ดแล้ว เด็กที่สุขภาพดีมักจะมีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายจากอีสุกอีใสได้ภายใน 5-10 วัน แต่ในรายที่มีอาการรุนแรง ผื่นคันอาจลามไปทั่วร่างกาย หลังแผลแห้งและตกสะเก็ดอาจเกิดรอยโรคบริเวณลำคอ ดวงตา เนื้อเยื่อท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ไปจนถึงบริเวณช่องคลอด อีสุกอีใส อันตรายหรือไม่ ส่วนใหญ่แล้ว อีสุกอีใสไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสที่ส่งผลให้เกิดอีสุกอีใสจะไม่ได้หายไปเลย แต่จะซ่อนตัวอยู่ในปมประสาท ผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสจึงเสี่ยงเกิดโรคงูสวัด (Shingles) ซึ่งเกิดจากไวรัสชนิดเดียวกันได้ในอนาคต หากอยู่ในช่วงที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เชื้อที่ซ่อนตัวอยู่ตามปมประสาทใต้ผิวหนังจะแบ่งตัว เพิ่มจำนวน […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

เด็กนอนกัดฟัน สามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

เด็กนอนกัดฟัน เป็นภาวะที่เด็กขบฟันกรามซี่บนเข้ากับซี่ล่างในขณะนอนหลับเป็นประจำ จนเกิดเสียงดัง และอาจทำให้ฟันสึกและมีอาการปวดฟันและกรามตามมาได้ เด็กอาจเริ่มนอนกัดฟันตั้งแต่ช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นหรือตอนอายุประมาณ 6 ขวบ คุณพ่อคุณแม่อาจได้ยินเสียงฟันกรามกระทบหรือขบกันเมื่อเด็กนอนหลับในเวลากลางคืน หรือสังเกตเห็นความผิดปกติของฟัน เช่น ฟันแตก ฟันบิ่น หากพบว่าการนอนกัดฟันส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือกังวลว่าฟันหรือสุขภาพช่องปากของเด็กจะมีปัญหา ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ สาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสม เด็กนอนกัดฟันเกิดจากอะไร สาเหตุที่ทำให้เด็กนอนกัดฟัน อาจมีดังนี้ ปัญหาสุขภาพฟัน การมีฟันขึ้นซ้อนเก ฟันห่าง ความสูงของฟันผิดปกติ รวมไปถึงการติดเครื่องมือจัดฟันภายในช่องปาก อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กนอนกัดฟันได้ ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มยาต้านเศร้าเอสเอสอาร์ไอ (Selective serotonin reuptake inhibitors หรือ SSRIs) ที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล เป็นต้น ยาในกลุ่มนี้จะไปปรับระดับสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมในขณะนอนหลับได้ พันธุกรรม เด็กที่นอนกัดฟันอาจมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรม หากสมาชิกในครอบครัวมีประวัตินอนกัดฟัน ก็อาจทำให้เด็กมีอาการนี้ได้เช่นกัน ความเครียดในชีวิตประจำวัน เมื่อเครียดหรือวิตกกังวล ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีนและคอร์ติซอลออกมามาก ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดเกร็งโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจเป็นเหตุที่ทำให้เด็กนอนกัดฟันได้ ปัญหาด้านการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ภาวะต่อมอะดีนอยด์โต ภาวะหายใจทางปากขณะหลับ อาจส่งผลให้เด็กนอนกัดฟันได้ ปัญหาด้านสุขภาพร่างกายอื่น […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

วิธีรับมือเมื่อลูกลิ้นเป็นร้อนใน

ลิ้นเป็นร้อนใน คือ ภาวะที่มีแผลเปื่อยขนาดเล็กเกิดขึ้นบริเวณลิ้น ลิ้นบวมแดง หรือเป็นสีขาว รวมทั้งบนเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณอื่นภายในช่องปากได้ด้วย ทั้งริมฝีปากด้านใน กระพุ้งแก้ม เพดานปาก เหงือก หรือลิ้น เมื่อลิ้นเป็นร้อนในมักทำให้รู้สึกเจ็บหรือแสบ ภาวะนี้พบได้ทั่วไปในคนทุกเพศทุกวัย แต่อาจพบบ่อยในเด็ก เมื่อลูกเป็นร้อนใน คุณพ่อคุณแม่ควรบรรเทาอาการด้วยการให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เป็นต้น โดยทั่วไป ภาวะร้อนในไม่เป็นอันตราย ไม่ติดต่อไปยังบุคคลอื่น และสามารถหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้น หรืออาการไม่หายไปภายใน 3 สัปดาห์ ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการรักษาและวินิจฉัยอาการเพิ่มเติม [embed-health-tool-vaccination-tool] ลิ้นเป็นร้อนใน เกิดจากอะไร สาเหตุที่ทำให้ลิ้นเป็นร้อนในยังไม่แน่ชัดนัก แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ เกิดจากการทำทันตกรรม การแปรงฟันรุนแรงเกินไป การเผลอกัดลิ้น เป็นต้น ติดเชื้อโรคเอชไพโลไร (Helicobacter pylori หรือ H. pylori) ที่เป็นเชื้อเดียวกับแบคทีเรียที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้ลิ้นอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อเซลล์ปกติภายในช่องปากแทนการโจมตีเชื้อโรคแปลกปลอมอย่างไวรัสและแบคทีเรีย ใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารโซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดฟอง แต่มีฤทธิ์ค่อนข้างแรง อาจทำให้เนื้อเยื่อในปากระคายเคืองและทำให้เป็นแผลที่ลิ้นได้ ขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินบี […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ลูกนอนยาก เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง

ลูกนอนยาก เป็นภาวะที่พบได้บ่อยและสามารถพบได้ในเด็กในทุกช่วงวัย ซึ่งอาจสร้างความกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่ เพราะนอกจากจะกระทบกับเวลาพักผ่อนของคุณพ่อคุณแม่แล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการและสุขภาพของลูกที่อยู่ในวัยเจริญเติบโต ลูกนอนยากสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ยังเล็กเกินไปและยังนอนไม่เป็นเวลา เหนื่อยเกินไป ยังไม่ชินกับการนอนคนเดียว โดยวิธีแก้ไขปัญหาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงวัย คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจธรรมชาติของลูกในแต่ละวัย หาสาเหตุที่ลูกนอนยาก และหาวิธีช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่ายขึ้น [embed-health-tool-vaccination-tool] เวลานอนที่เหมาะสมของเด็กแต่ละช่วงวัย ทารกแรกเกิด-2 เดือน ต้องการเวลานอนประมาณ 14-15 ชั่วโมง/วัน ในวัยนี้ทารกยังไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน และยังต้องกินนมทุก ๆ 2 ชั่วโมง ทำให้ตื่นและนอนหลับไม่เป็นเวลา ทารก 3 เดือน-6 เดือน ต้องการเวลานอนประมาณ 14-15 ชั่วโมง/วัน รูปแบบการนอนหลับจะเหมือนของผู้ใหญ่มากขึ้น สามารถนอนติดต่อกันในเวลากลางคืนได้ประมาณ 6 ชั่วโมง อาจนอนกลางวันประมาณ 2-3 ครั้ง ทารก 6 เดือน-1 ขวบ ต้องการเวลานอนประมาณ 14-15 ชั่วโมง/วัน ทารกในวัยนี้สามารถจำเวลานอนของตัวเองได้แล้วและสามารถนอนติดต่อกันในตอนกลางคืนได้นานมากกว่า 6 ชั่วโมง แต่สำหรับบางคน อาจนอนไม่ถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีงานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Pediatrics พ.ศ. […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ลูกตื่นกลางคืนบ่อย ควรทำอย่างไร

ลูกตื่นกลางคืนบ่อย เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น รู้สึกหิว นอนกลางวันมากเกินไป การเจ็บป่วย ความเครียด หรืออาจมีฟันขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีช่วยให้ลูกนอนหลับสนิท เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับที่ดีของลูก ช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต และช่วยให้ลูกไม่รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าในเช้าวันถัดไป [embed-health-tool-vaccination-tool] สาเหตุที่ลูกตื่นกลางคืนบ่อย สาเหตุที่ลูกตื่นกลางคืนบ่อย อาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ รู้สึกหิว เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในเด็กทารก เนื่องจากลูกน้อยมีกระเพาะอาหารขนาดเล็ก ทำให้จุอาหารได้น้อย และย่อยอาหารได้เร็ว ส่งผลให้ลูกรู้สึกหิวบ่อยจนทำให้ตื่นช่วงกลางคืน ซึ่งอาจสังเกตได้จากอาการร้องไห้งอแงของลูก มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก ทารก อาจมีระบบย่อยอาหารที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้การย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี หรืออาจเป็นเพราะลูกกลืนอากาศมากเกินไปขณะกินนม ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร สำหรับเด็กในช่วงวัยอื่นที่กำลังห่วงเล่น อาจรีบร้อนรับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว ทำให้กลืนอากาศเข้าไปมาก นำไปสู่การเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด ไม่สบายท้อง จนตื่นกลางคืนบ่อย ๆ อยู่ในช่วงปรับตัว ทารกแรกเกิดอาจจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวกับโลกภายนอก จึงอาจยังไม่รู้ช่วงเวลาการนอนที่เหมาะสม และทำให้อาจตื่นช่วงเวลากลางคืนบ่อย โดยเฉพาะถ้าทารกนอนช่วงกลางวันนาน ฟันเริ่มงอก เมื่อลูกอายุได้ 6 เดือนขึ้นไป ฟันของลูกจะเริ่มงอก ส่งผลให้ลูกรู้สึกเจ็บและปวดเหงือก  คันเหงือก จึงอาจทำให้ลูกมักสะดุ้งตื่นตอนกลางคืนเมื่อมีอาการเจ็บจี๊ด ๆ […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

วิธีบรรเทาอาการไอของลูกน้อย ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

การที่ลูกน้อยไอ เป็นการตอบสนองของระบบทางเดินหายใจและเป็นกลไกเพื่อกำจัดเชื้อโรคและสารระคายเคืองที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ฝุ่น ละอองเกสร ไข้หวัด เชื้อโรค กรดไหลย้อน ภาวะไอกรน โรคหอบหืด คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษา วิธีบรรเทาอาการไอของลูกน้อย รวมถึงสังเกตอาการผิดปกติ เช่น อาการไอต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไอรุนแรง หายใจลำบาก หากพบอาการเหล่านี้ควรขอคำปรึกษาคุณหมอทันทีเพื่อสาเหตุที่แน่ชัดและหาวิธีรักษาต่อไป [embed-health-tool-vaccination-tool] อาการไอของลูกน้อย เกิดจากอะไร อาการไอเป็นปฏิกิริยาของระบบทางเดินหายใจของร่างกาย เมื่อมีสารระคายเคืองหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ อาการไอเฉียบพลัน เป็นอาการไอที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ อาจเกิดจาก ฝุ่น  สารระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ การสำลักอาหาร เครื่องดื่ม น้ำลายตัวเอง หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ที่ส่งผลให้เด็กมีอาการไอ เจ็บป่วยในระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 5-7 วัน สำหรับบางคนอาจใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ อาการไอเรื้อรัง อาการไอเรื้อรัง สังเกตได้จากการที่ลูกมีอาการไอต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ บางคนอาจมีอาการไอแบบมีเสมหะ หรือไอแห้ง ๆ ซึ่งอาจรบกวนการนอนหลับพักผ่อน ทำให้ลูกรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!


advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม