ไม่ควรสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณแม่ผลิตน้ำนมได้น้อยลง และลูกอาจจะได้ผลกระทบจากนิโคตินและสารเคมีอันตรายอื่น ๆ และแอลกอฮอล์ก็สามารถส่งผ่านน้ำนมมายังทารก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกได้ และยังเสี่ยงให้เกิดโรคไหลตายในทารก (Sudden Infant Death Syndrome หรือ SIDS) และโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจได้
ลดปริมาณกาแฟระหว่างให้นม คุณแม่สามารถดื่มกาแฟได้ทุกวันเหมือนเดิม แต่ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ 200 มิลลิกรัม/วัน โดยเว้นช่วงสักพักก่อนให้นมลูก เพื่อเลี่ยงไม่ให้คาเฟอีนส่งผ่านจากนมไปยังร่างกายของลูก
สังเกตท่าทางเมื่อลูกหิว การให้นมลูกอาจจะไม่ต้องกำหนดเวลาตายตัว ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกเอง เมื่อลูกเริ่มหิวจะแสดงท่าทางที่ทำให้รู้ว่าต้องการกินนมแม่ เช่น การขยับเข้าใกล้และพยายามดูดหัวนมแม่ ดูดนิ้วมือ ดูดปากตัวเอง หรือมีอาการตื่นตัว คุณแม่ควรให้ลูกกินนมก่อนที่ลูกจะร้องไห้เพราะหิวเกินไป หากอุ้มลูกมาให้นมในขณะร้องไห้ ลูกอาจจะกินนมได้ไม่ถูกวิธีและได้รับน้ำนมไม่เต็มที่
มองเป็นช่วงเวลาผูกสัมพันธ์แม่ลูก ช่วงเวลาให้นมเป็นช่วงที่คุณแม่และลูกน้อยจะได้ใช้เวลาเงียบ ๆ อยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด ถือโอกาสนี้เป็นช่วงเวลาที่จะได้สื่อสารและส่งความรักให้กับลูก เป็นช่วงเวลาที่ควรใช้ความอดทน โดยลูกจะใช้เวลากินนมประมาณ 10-20 นาที/ข้าง
ไม่ควรให้กินจากขวดนมเร็วเกินไป การกินจากขวดนมตั้งแต่อายุยังน้อยเกินไป จะทำให้ลูกสับสนและลืมวิธีการดูดหัวนมแม่เมื่อต้องการสลับมาให้นมลูกเอง หากต้องการให้ลูกหัดกินนมจากขวด ควรรออย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังคลอด
ควรให้นมลูกอย่างน้อย 6 เดือน น้ำนมแม่เป็นอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกที่เพิ่งคลอดในช่วง 6 เดือนแรก ควรเป็นอาหารชนิดเดียวที่ให้ลูกกินในช่วงนี้ หากไม่สะดวกให้ลูกดูดหัวนมจากเต้า ก็สามารถที่จะปั๊มน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกกินจากขวดได้ หากเป็นไปได้ให้น้ำนมลูกจนอายุครบ 1 ปี แม้ว่าจะให้ลูกกินอาหารชนิดอื่นเป็นหลักแล้วก็ตาม
หัวนมแม่ต้องดูแลอย่างไร
วิธีการดูแลหัวนมแม่ในระหว่างช่วงให้นมลูก มีดังต่อไปนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย