ช่วยลดน้ำหนัก
ในขณะที่ผู้หญิงบางคนดูเหมือนจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ให้นมบุตร แต่ผู้หญิงบางคนก็เหมือนจะน้ำหนัดลดลงได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะทำให้คุณแม่ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นประมาณ 500 แคลอรี่ต่อวัน แต่ความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายก็ยังแตกต่างจากปกติอย่างมาก
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้ จะทำให้ผู้หญิงที่ให้นมบุตรมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น และอาจมีแนวโน้มที่จะเก็บไขมันเอาไว้ใช้ผลิตน้ำนมอีกด้วย
ช่วยให้มดลูกหดตัว
ในระหว่างตั้งครรภ์ มดลูกของคุณแม่จะเจริญเติบโตอย่างมาก โดยจะขยายขนาดจากลูกแพร์ไปจนเต็มพื้นที่หน้าท้อง หลังคลอดทารกออกมาแล้ว มดลูกจะต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “มดลูกเข้าอู่ (Involution)” ซึ่งเป็นการช่วยให้มดลูกกลับมามีขนาดเท่าเดิม ฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนกระบวนการมดลูกเข้าอู่นี้
ร่างกายของคุณจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินในปริมาณที่สูงในระหว่างการคลอด เพื่อช่วยคลอดทารกและลดการตกเลือด ทั้งมันยังเพิ่มขึ้นในระหว่างการให้นมบุตร กระตุ้นการหดตัวของมดลูก และลดการตกเลือด ช่วยให้มดลูกกลับมามีขนาดเท่าเดิม จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า แม่ที่ให้นมบุตรโดยทั่วไปจะมีการสูญเสียเลือดน้อยลงหลังคลอด และมดลูกจะเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าลดลง
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เป็นภาวะซึมเศร้าประเภทหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่นานหลังการคลอดบุตร ซึ่งมีผลต่อมารดามากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้หญิงที่ให้นมบุตรดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอาการซึมเศร้าหลังคลอด เมื่อเทียบกับคุณแม่ที่ให้ทารกหย่านมก่อนกำหนด หรือไม่ได้ให้นมบุตร
อย่างไรก็ตาม ผู้ทีมีอาการซึมเศร้าหลังคลอด ในช่วงต้นหลังคลอดก็มีแนวโน้มจะมีปัญหาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แม้ว่าหลักฐานจะค่อนข้างหลากหลาย แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ส่งเสริมการดูแลและความผูกพันของแม่กับลูก
สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดอย่างหนึ่ง ก็คือ ปริมาณฮอร์โมนออกซิโทซินที่เพิ่มขึ้นระหว่างการคลอดและการให้นมลูก โดยฮอร์โมนออกซิโทซินมีฤทธิ์ต้านความวิตกกังวลในระยะยาว นอกจากนี้ยังกระตุ้มให้เกิดความผูกพัน โดยส่งผลต่อบริเวณสมอง โดยเฉพาะส่วนที่ส่งเสริมการเลี้ยงดูและการผ่อนคลาย
ลดความเสี่ยงของโรค
การเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ดูเหมือนจะช่วยป้องกันมะเร็งและโรคต่างๆ ให้แม่ได้ในระยะยาว ระยะเวลาทั้งหมดที่ผู้หญิงใช้ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นมีความเชื่อมโยงความเสี่ยงที่ลดลงของมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ โดยในความเป็นจริงผู้หญิงที่ให้นมบุตรนานกว่า 12 เดือน ในช่วงชีวิตของพวกเขาจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ลดลง 28 เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละปีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมที่ลดลง 4.3 เปอร์เซ็นต์
การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ ยังระบุด้วยว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาจป้องกันภาวะเมแทบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มภาวะที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ผู้หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเวลา 1-2 ปี ตลอดชีวิตจะมีความเสี่ยงของการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคข้ออักเสบ โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ลดลง 10-50 เปอร์เซ็นต์
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย