พาราตรามอล (Paratramol)

ยา พาราตรามอล (Paratramol) ใช้รักษาอาการปวด โดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั่วผิวที่สูญเสียความร้อนและทำงานหนักด และยับยั้งผลกระทบของสารที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด

ข้อบ่งใช้

ยา พาราตรามอล (Paratramol) ใช้สำหรับ

ยา พาราตรามอล (Paratramol) เป็นยาที่เป็นส่วนผสมของยาทรามาดอล (Tramadol) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มโอพิออยด์ (opioids) กับยาพาราเซตามอล (paracetamol) หรืออะเซตามิโนเฟน (acetaminophen) ใช้สำหรับจัดการกับอาการปวดในระดับปานกลางไปจนถึงระดับรุนแรงเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดฟัน ปวดหู ปวดข้อ อาการปวดไข้

ยาพาราตรามอล ทำงานโดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั่วผิวที่สูญเสียความร้อนและทำงานหนัก และปิดกั้นผลกระทบของสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด

ยาพาราตรามอลยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นนอกจากที่อยู่ในคู่มือการใช้ยาได้อีกด้วย

วิธีใช้ยา พาราตรามอล

ยาพาราตรามอลตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามแนวทางการใช้ยาบนฉลากยา อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่าหรือใช้ยานานกว่าที่กำหนด โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากยาของคุณทำงานได้ไม่ดีดังเดิม และอย่าหยุดใช้ยาเอง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงของยาได้ โปรดสอบถามแพทย์ถึงวิธีการหยุดใช้ยานี้อย่างปลอดภัย

ไม่ควรรับประทานยานี้ร่วมกับเกรปฟรุต และไม่ควรรับประทานยาหากคุณดื่มแอลกอฮอล์ทุกวัน

โปรดระมัดระวังในกรณีขับรถหรือใช้เครื่องจักรหนัก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดปรึกษาแพทย์

การเก็บรักษายาพาราตรามอล

ควรเก็บรักษายาพาราตรามอลที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาพาราตรามอลบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรทิ้งยาพาราตรามอลลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาพาราตรามอล

ก่อนใช้ยานี้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีภาวะดังต่อไปนี้

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาพาราตรามอล

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ มีดังต่อไปนี้

• ความรู้สึกไม่สบาย
• ผิวแดง
• ภูมิแพ้
• หายใจถี่
• ใบหน้าบวม
• ตับถูกทำลาย

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ยาพาราตรามอลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยาพาราตรามอล ได้แก่

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาพาราตรามอลอาจมีปฏิกิริยากับอาหาร หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาพาราตรามอลอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาพาราตรามอลสำหรับผู้ใหญ่

รับประทาน 1-2 เม็ดทุก 4-6 ชั่วโมงหรือตามความจำเป็นเพื่อบรรเทาอาการปวดได้สูงสุด 8 เม็ดต่อวัน

ขนาดยาพาราตรามอลสำหรับเด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยา มีดังนี้

• ยาเม็ด
• ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด