backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

Acetylcysteine หรือยา อะเซทิลซิสเทอีน

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 27/06/2023

Acetylcysteine หรือยา อะเซทิลซิสเทอีน

Acetylcysteine หรือยา อะเซทิลซิสเทอีน เป็นยาสำหรับใช้รักษาอาการจากการรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด ช่วยให้เสมหะเจือจางลง และขับออกจากร่างกายได้โดยการไอ

ข้อบ่งใช้

ยา Acetylcysteine ใช้สำหรับ

ยา อะเซทิลซิสเทอีน หากเป็นยาพ่นยาจะใช้เพื่อละลายเสมหะและขับเสมหะในทางเดินหายใจเนื่องจากโรคปอดต่างๆ เช่น โรคหลอดลมอักเสบ โรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคปอดบวม ยานี้จะช่วยขับเสมหะออกจากปอดทำให้หายใจได้ง่ายขึ้น

หากเป็นยารับประทาน จะใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ตับเสียหายจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด

วิธีใช้ยา Acetylcysteine

ให้ใช้ยานี้ตามที่แพทย์สั่ง โปรดอ่านข้อมูลทั้งหมด  และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

ยาน้ำสำหรับพ่นปาก

  • สำหรับพ่นปาก โดยใช้เครื่องพ่นละอองยา
  • หากรู้สึกเหนียวที่ใบหน้าหลังจากพ่นยา ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
  • หากยาตกตะกอนห้ามใช้ยานี้
  • ยาน้ำสำหรับรับประทาน

    • ผสมยากับโซดาหรือเครื่องดื่มที่ปราศจากน้ำตาล
    • ดื่มน้ำเปล่าตามในปริมาณมาก
    • หากอาเจียนหลังจากกินยาภายใน 1 ชั่วโมง ให้กินยาเพิ่มอีกครั้ง

    การเก็บรักษา ยาอะเซทิลซิสเทอีน

    ขวดที่ยังไม่เปิดใช้

    การเก็บรักษายาอะเซทิลซิสเทอีนที่ดีที่สุด ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาอะเซทิลซิสเทอีนไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง

    ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง

    ไม่ควรเทยาอะเซทิลซิสเทอีนทิ้งลงในโถส้วมหรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสม เมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย

    ขวดที่เปิดใช้แล้ว

    การเก็บรักษายาอะเซทิลซิสเทอีนที่ดีที่สุด ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาอะเซทิลซิสเทอีนไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีหลากหลายยี่ห้อซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง

    ไม่ควรเทยาอะเซทิลซิสเทอีนทิ้งลงในโถส้วมหรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสมเมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย

    ข้อควรระวังและคำเตือน

    ควรรู้อะไรก่อนใช้ยา อะเซทิลซิสเทอีน

    ก่อนใช้ยานี้ ให้แจ้งแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้

    • กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
    • กำลังใช้ยาตัวอื่น รวมถึงยาใด ๆ ที่กำลังใช้อยู่โดยที่สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา เช่น ยาสมุนไพรและอาหารเสริม
    • มีอาการแพ้ ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์และไม่ออกฤทธิ์ใดๆ ของยาอะเซทิลซิสเทอีนหรือยาอื่นๆ
    • มีอาการป่วย อาการผิดปกติ หรืออาการทางสุขภาพอื่นๆ
    • มีอาการแพ้ยาจำพวกนี้ ยาจำพวกอื่น อาหาร หรือสารอื่น ๆ ให้แจ้งคุณหมอเกี่ยวกับอาการแพ้และอาการบ่งชี้ต่าง ๆ เช่น ผื่น ลมพิษ คัน หายใจไม่อิ่ม  ไอ อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ หรือมีอาการบ่งชี้อื่นๆ

    ยานี้อาจทำปฏิกิริยากับยาหรือภาวะทางสุขภาพอื่นๆ

    หลังจากเปิดขวดยา ยานี้อาจจะเปลี่ยนสีได้

    ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงที่เพียงพอเพื่อระบุความเสี่ยง เมื่อใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เสมอเพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้ ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C ตามที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (US Food and Drug Administration: FDA) ได้กำหนดไว้

    ความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ตามองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ มีรายการอ้างอิงดังต่อไปนี้

    • A=ไม่มีความเสี่ยง
    • B=ไม่มีความเสี่ยงในงานวิจัยบางชิ้น
    • C=อาจมีความเสี่ยง
    • D=มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
    • X=ห้ามใช้
    • N=ไม่ทราบแน่ชัด

    ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงจากยาอะเซทิลซิสเทอีน

    สำหรับข้อบ่งใช้ทั้งหมดของสารละลายอะเซทิลซิสเทอีน

    • สิ่งบ่งชี้ของอาการแพ้ เช่น มีผื่น ลมพิษ คัน ผิวหนังมีรอยแดง บวม พุพอง หรืออาการลอกที่มีหรือไม่มีอาการไข้ร่วมด้วย อาการแน่นที่หน้าอกหรือคอ หายใจหรือพูดลำบาก เสียงแหบผิดปกติ หรืออาการบวมที่ปาก ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ
    • หายใจไม่อิ่ม
    • ปวดท้องหรืออาเจียน

    ยาน้ำสำหรับรับประทาน

    • อุจจาระมีสีคล้ำ ข้นหนืด หรือมีเลือดปน
    • อาเจียนเป็นเลือดหรืออาเจียนเหมือนผงกาแฟ

    ยาสำหรับพ่นปาก

    • มีน้ำมูกไหล
    • รู้สึกง่วงนอน
    • มีอาการระคายเคืองหรือแผลที่ปาก
    • ตัวเย็น
    • มีไข้

    อาการข้างเคียงเหล่านี้พบไม่ได้ในผู้ใช้ยาทุกคน และอาจมีอาการข้างเคียงที่ไม่ได้ระบุข้างต้น หากมีข้องกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียง ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

    ปฏิกิริยาของยา

    ปฏิกิริยากับยาอื่น

    ยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาชนิดอื่นที่ใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาของยาที่อาจเกิดขึ้น

    ควรแจ้งรายการยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด (ยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร) และแจ้งแก่แพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใด ๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

    ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    ยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจทำปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นของยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ ก่อนการใช้ยา

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่นๆ

    ยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจทำปฏิกิริยากับสภาวะทางสุขภาพ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจทำให้สภาวะทางสุขภาพเสื่อมลง หรือเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเสมอ เกี่ยวกับสภาวะทางสุขภาพทั้งหมดในปัจจุบัน

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาที่จะให้ใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนเสมอ

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่

    ขนาดใช้ยาปกติของผู้ใหญ่สำหรับการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด

    ยาฉีด: ขนาดยาโดยรวม คือ 300 มก./กก. แบ่งให้ 3 ครั้ง ภายใน 21 ชั่วโมง

    ขนาดใช้ยาปกติของผู้ใหญ่สำหรับการตรวจ Diagnostic Bronchograms

    พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก

    • ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง

    เครื่องพ่นละอองยา

    • ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
    • เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
    • เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
    • อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น

    การฉีดยาโดยตรง

    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล.  หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.

    การตรวจ Diagnostic Bronchograms

    • ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา

    ขนาดใช้ยาปกติของผู้ใหญ่สำหรับสารละลายเสมหะ (Mucolytic)

    พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก

    • ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง

    เครื่องพ่นละอองยา

    • ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
    • เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
    • เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
    • อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น

    การฉีดยาโดยตรง

    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล.  หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.

    การตรวจ Diagnostic Bronchograms

    • ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา

    ขนาดยาสำหรับเด็ก

    ขนาดใช้ยาปกติสำหรับการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด

    ยาฉีด: ขนาดยาโดยรวม คือ 300 มก./กก. โดยให้ยา 3 ขนาดแยกกันและใช้เปป็นเวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง

    ขนาดใช้ยาปกติสำหรับการตรวจ Diagnostic Bronchograms

    พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก

    • ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง

    เครื่องพ่นละอองยา

    • ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
    • เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
    • เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
    • อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น

    การฉีดยาโดยตรง

    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล.  หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.

    การตรวจ Diagnostic Bronchograms

    • ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา

    ขนาดใช้ยาปกติสำหรับละลายเสมหะ (Mucolytic)

    พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก

    • ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง

    เครื่องพ่นละอองยา

    • ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
    • เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
    • เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
    • อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น

    การฉีดยาโดยตรง

    • ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล.  หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
    • สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.

    การตรวจ Diagnostic Bronchograms

    • ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา

    รูปแบบยา

    ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีรูปแบบการใช้และปริมาณตัวยา ดังต่อไปนี้

    • สารละลายสำหรับฉีด
    • ของเหลวสำหรับสูดดม

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ให้โทรแจ้งบริการฉุกเฉิน หรือไปยังห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้บ้าน 

    กรณีลืมใช้ยา

    หากลืมใช้ยยาอะเซทิลซิสเทอีน ให้ใช้ยาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ดี หากใกล้เวลาใช้รอบถัดไป ให้ข้ามรอบที่ลืมใช้ไปแล้วใช้ยาในรอบถัดไปตามปกติที่กำหนดไว้ ห้ามใช้เพิ่มเป็นสองเท่า

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 27/06/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา