ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา เอสตราดิออล ใช้สำหรับ
ยาเอสตราดิออล (Estradiol) คือ ฮอร์โมนเพศหญิง ผู้หญิงจะใช้เพื่อช่วยลดอาการของวัยหมดประจำเดือน (menopause) เช่น อาการร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) น้อยลง หากคุณใช้ยาเอสตราดิออล เพื่อรักษาอาการแค่ช่วงบริเวณของช่องคลอดเท่านั้น ให้เลือกใช้ยาทายาด้านในช่องคลอดก่อนใช้ยาแบบรับประทาน แบบดูดซึมผ่านผิวหนัง หรือการฉีดยา
ผู้หญิงอาจใช้ผลิตภัณฑ์ฮอร์โมนเอสโตรเจนบางชนิดหลังจากช่วงวัยหมดประจำเดือน เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน (osteoporosis) แต่ควรพิจารณาใช้ยาอื่น เช่น ราโลซิฟีน (raloxifene) หรือยากลุ่มไบฟอสโฟเนตส์ (bisphosphonates) อย่างอะเลนโดรเนท (alendronate) ที่สามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้เช่นกัน และอาจมีความปลอดภัยมากกว่า ก่อนการรักษาด้วยเอสโตรเจน
นอกจากนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ยังอาจใช้ผลิตภัณฑ์ฮอร์โมนเอสโตรเจนบางชนิดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมากบางชนิด (prostate cancer) มะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นในร่างกาย และยังอาจใช้ในผู้หญิงที่ไม่สามารถผลิตเอสโตรเจนได้อย่างเพียงพอ เช่น เนื่องจากภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ (hypogonadism) หรือภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนกำหนด (primary ovarian failure)
วิธีการใช้ยา เอสตราดิออล
รับประทานยาเอสตราดิออลพร้อมกับอาหาร หรือรับประทานอาหารแยกต่างหาก ตามที่แพทย์กำหนด คุณสามารถรับประทานยาพร้อมกับอาหาร หรือตามหลังมื้ออาหารทันที เพื่อป้องกันอาการท้องไส้ปั่นป่วน
หากคุณใช้ยาในรูปแบบออกฤทธิ์นาน อย่าบด เคี้ยว หรือละลายยา เพื่อจะทำให้ยาออกฤทธิ์ทั้งหมดมาในคราวเดียว และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และไม่ควรแบ่งยาแบบออกฤทธิ์นาน นอกเสียจากจะมีเส้นแบ่งเม็ดยา และแพทย์หรือเภสัชกรสั่งให้ทำ กลืนยาลงไปทั้งเม็ด หรือเม็ดที่แบ่งแล้วโดยไม่ต้องบดหรือเคี้ยวยา
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์และการตอบสนองต่อการรักษา
รับประทานยาเอสตราดิออลเป็นประจำ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้ง่ายต่อการจำ ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันตามที่กำหนด ทำตามตารางการใช้ยาอย่างเคร่งครัด อย่าเพิ่มขนาดยา ใช้ยาบ่อยกว่า หรือใช้ยานานกว่าที่กำหนด
แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
การเก็บรักษายาเอสตราดิออล
ยาเอสตราดิออลควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเอสตราดิออลบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเอสตราดิออลลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยาเอสตราดิออล
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาเอสตราดิออลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด X โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ผลข้างเคียงของการใช้ยา เอสตราดิออล
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันทีหากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
หยุดใช้ยาเอสตราดิออล และติดต่อกพทย์ในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่ามีดังนี้ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ปวดท้องในระดับน้อย ที่เต้านมมีอาการปวด กดเจ็บ หรือบวม หน้าตกกระหรือคล้ำขึ้น ผมร่วง มีอาการคันหรือสารคัดหลั่งที่ช่องคลอด รอบการมีประจำเดือนเปลี่ยนแปลง ภาวะเลือดออกจากช่องคลอดมากผิดปกติ (breakthrough bleeding)
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาเอสตราดิออลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเจือจางเลือด เช่น ยาวาฟาริน (warfarin) อย่าง คูมาดิน (Coumadin) ยาไซเมทิดีน (cimetidine) อย่าง ทากาเมต (Tagamet) ยาคาร์บามาเซพีน (Carbamazepine) อย่าง คาร์บาทรอล (Carbatrol) หรือเทเกรทอล (Tegretol) ยาฟีโนบาร์บิทัล (phenobarbital) อย่าง ลูมินอล (Luminal) หรือซอลโฟทอน (Solfoton) ยาเฟนิโทอิน (phenytoin) อย่าง ดิลแลนทิน (Dilantin) ยาไรแฟมพิน (rifampin) อย่าง ไรฟาดิน (Rifadin) ไรฟาเทอร์ (Rifater) ไรฟาเมต (Rifamate) หรือไรแมคเทน (Rimactane) ยาริโทนาเวียร์ (ritonavir) อย่าง นอร์เวียร์ (Norvir) สมุนไพรเซนต์จอห์น (St. John’s wort) ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาคลาริโทรมัยซิน (clarithromycin) อย่าง ไบอาซิน (Biaxin) หรือยาอิริโทรมัยซิน (erythromycin) อย่าง อีมัยซิน (E-Mycin) อีอีเอส (E.E.S.) อิริโทรซิน (Erythrocin) อิริแท็บ (Ery-Tab) หรือยาต้านเชื้อราเอสตราดิออล เช่น ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) อย่างเอกซ์ทินา (Extina) คีโตโซน (Ketozole) ไนโซรอล (Nizoral) โซเลกอล (Xolegal)
รายชื่อนี้ไม่ใช่รายชื่อทั้งหมด และยังมียาอื่นที่อาจมีปฏิกิริยากับยาเอสตราดิออลได้ แจ้งให้แพทย์ทราบถึงยาทั้งหมดที่คุณใช้ ทั้งยาตามใยสั่งยา ยาที่หาซื้อเอง วิตามิน และสมุนไพรต่างๆ อย่างเริ่มใช้ยาใหม่โดยไม่แจ้งให้แพทย์ทราบ
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาเอสตราดิออลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาเอสตราดิออลอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
สภาวะบางอย่างอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ยานี้ได้ แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยา เอสตราดิออล สำหรับผู้ใหญ่
รับประทาน:
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ:
ซึมผ่านผิวหนัง:
ให้ยาทางช่องคลอด :
ขนาดยาเอสตราดิออลสำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้ :
ยาเม็ดสำหรับรับประทาน : 0.5 มก. 1 มก. 2 มก.
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย