backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

โลเทเพร็ดนอล (Loteprednol)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 24/08/2020

โลเทเพร็ดนอล (Loteprednol)

ยา โลเทเพร็ดนอล (Loteprednol) ใช้บรรเทาอาการอย่างการบวม รอยแดง หรือคัน จากโรคเกี่ยวกับตาบางชนิดที่เกิดจากการอักเสบ หรือการบาดเจ็บ หรือใช้หลังจากการผ่าตัดตา

ข้อบ่งใช้

ยา โลเทเพร็ดนอล (Loteprednol) ใช้สำหรับ

ยา โลเทเพร็ดนอล (Loteprednol) ใช้เพื่อบรรเทาอาการบวม รอยแดง หรือคัน เนื่องจากเป็นโรคเกี่ยวกับตาบางชนิด ที่เกิดจากการอักเสบ หรือการบาดเจ็บ ยาโลเทเพร็ดนอลอยู่ในกลุ่มของยาที่เรียกว่ายาคอร์ติโคสเตอรอยด์ (Corticosteroid)

วิธีใช้ยา โลเทเพร็ดนอล

อย่าใส่คอนแทคเลนส์ขณะที่ใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์แนะนำ ควรฆ่าเชื้อคอนแทคเลนส์ตามคำแนะนำของผู้ผลิต และตรวจสอบกับแพทย์ก่อนใส่คอนแทคเลนส์อีกครั้ง

หากแพทย์ยินยอมให้ใส่คอนแทคเลนส์ระหว่างที่ใช้ยานี้  คุณต้องถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อนหยอดตา รออย่างน้อย 15 นาทีหลังจากหยอดยาแต่ละครั้งก่อนใส่คอนแทคเลนส์

ล้างมือก่อนหยอดตา เขย่าขวดให้ดีก่อนใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ อย่าสัมผัสหลอดหยดยา หรือทำให้ส่วนดังกล่าวสัมผัสกับตาหรือพื้นผิวใด ๆ

วิธีหยอดยาโลเทเพร็ดนอล

  • เงยหน้า มองขึ้นด้านบน และดึงหนังตาส่วนล่างลงให้เป็นถุงตา
  • จับที่หยดยาให้อยู่เหนือตา แล้วบีบยา 1 หยดลงไปในถุงตา
  • มองลงไปด้านล่าง แล้วค่อย ๆ หลับตาเป็นเวลา 1-2 นาที
  • วางนิ้วหนึ่งนิ้วที่มุมหนึ่งของตา (ที่ใกล้จมูก) และกดคลึงเบา ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ยาไหลออก
  • อย่ากระพริบตาหรือขยี้ตา หากแพทย์แนะนำให้หยอดตาทั้งสองข้าง หรือหยอดตามากกว่าหนึ่งหยด ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์

    หยอดยาบ่อย ๆ ตามที่แพทย์สั่ง เมื่อหยอดตาเสร็จแล้วอย่าล้างที่หยดยา และต้องปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้ยา

    หากคุณใช้ยารักษาตาประเภทอื่น (เช่น ยาหยอดตาประเภทอื่น ขี้ผึ้งป้ายตา) ต้องรออย่างน้อย 5-10 นาที ก่อนใช้ยาประเภทอื่น ใช้ยาหยอดตาก่อนทาขี้ผึ้งป้ายตา

    ใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด

    เพื่อให้จำง่ายขึ้น ควรใช้ยานี้ในเวลาเดียวกันทุกวัน

    ขนาดยาขึ้นอยู่กับโรคและการตอบสนองต่อการรักษา อย่าใช้ยานี้บ่อยเกินไป หรือใช้ยาในปริมาณมากกว่าที่แพทย์สั่ง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้

    ใช้ยานี้ตามระยะเวลาที่แพทย์สั่ง อย่าหยุดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ หากจำเป็นต้องค่อย ๆ ลดขนาดยาลง เพราะการหยุดยากะทันหันอาจทำให้อาการแย่ลงได้

    อย่าใช้ยานี้หากยานี้ติดเชื้อ (เช่น ยามีสีเข้มขึ้น) การใช้ยาหยอดตาที่ติดเชื้อ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ และความเสียหายต่อตาที่รุนแรงได้ เช่น สูญเสียการมองเห็น

    หากอาการไม่ดีขึ้น หรือแย่ลงหลังจากใช้ยา 2 วัน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที

    การเก็บรักษายาโลเทเพร็ดนอล

    ควรเก็บรักษายาโลเทเพร็ดนอลที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาโลเทเพร็ดนอลบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

    ไม่ควรทิ้งยาโลเทเพร็ดนอลนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร

    ข้อควรระวังและคำเตือน

    ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาโลเทเพร็ดนอล

    ก่อนใช้ยาโลเทเพร็ดนอล โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกร หาก

  • คุณแพ้ยาโลเทเพร็ดนอล แพ้ต่อยาอื่น หรือมีอาการแพ้อื่น ๆ รวมถึงการแพ้ส่วนผสมไม่ออกฤทธิ์ของยาโลเทเพร็ดนอล โปรดสอบถามเภสัชกรสำหรับรายชื่อส่วนผสมที่ไม่ออกฤทธิ์ และข้อมูลเพิ่มเติม
  • หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ หรือมีแผนจะใช้ยาอื่น ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์หรือหาซื้อเอง วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพร รวมถึงกัญชา
  • หากคุณเป็นหรือเคยเป็นโรคใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
  • หลังจากใช้ยานี้ คุณอาจมองเห็นไม่ชัดชั่วคราว ฉะนั้นจงอย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยความตื่นตัว จนกว่าคุณจะแน่ใจว่า คุณสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างปลอดภัย

    ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (รวมถึงยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา และผลิตภัณฑ์สมุนไพร)

    หากคุณเพิ่งติดเชื้อหรือบาดเจ็บที่ตา รวมถึงผ่าตัดตา โปรดสอบถามแพทย์ด้วยว่า คุณยังสามารถใช้ยายาโลเทเพร็ดนอลขวดเดิมได้หรือไม่ หรือควรใช้ขวดใหม่

    หากอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้ตามแพทย์สั่งภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น และโปรดปรึกษาแพทย์ถึงประโยชน์และความเสี่ยงของใช้ยา

    ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายาโลเทเพร็ดนอลสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมหรือไม่ หากใช้ยานี้ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

    ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

    ยาโลเทเพร็ดนอลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

    การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

    • A = ไม่มีความเสี่ยง
    • B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
    • C = อาจจะมีความเสี่ยง
    • D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
    • X = ห้ามใช้
    • N = ไม่ทราบแน่ชัด

    ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงจากการใช้ยาโลเทเพร็ดนอล

    หลังหยอดยานี้ คุณอาจปวดหรือแสบตาประมาณ 1-2 นาที และมองเห็นไม่ชัดชั่วคราว หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือแย่ลง โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที

    โปรดจำไว้ว่า แพทย์สั่งจ่ายยาตัวนี้ให้คุณ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และคนส่วนใหญ่ที่ใช้ยาตัวนี้ไม่เกิดผลข้างเคียงรุนแรงใด ๆ

    การใช้ยานี้เป็นระยะเวลานาน หรือในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตาที่รุนแรง (เช่น ความดันตาสูง ต้อกระจก) ฉะนั้น โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นแต่ถือเป็นอาการรุนแรงเหล่านี้

    • ปัญหาในการมองเห็น
    • ปวดตา

    ยานี้อาจบดบังสัญญาณของการติดเชื้อที่ตา และทำให้คุณเสี่ยงติดเชื้อที่ตาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน หากมีอาการเหล่านี้ หรืออาการที่เป็นอยู่แย่ลง โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพราะแพทย์จำเป็นต้องปรับการรักษา

    • ของเหลวไหลออกจากตา
    • ตาบวม
    • ตาแดง
    • ปัญหาในการมองเห็น
    • โรคเกี่ยวกับตาไม่ดีขึ้น

    แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่น่าเกิดขึ้นแต่รุนแรงเหล่านี้

    อาการแพ้ยานี้ที่รุนแรงพบได้ยาก อย่างไรก็ตาม หากคุณพบอาการแพ้ที่รุนแรงเหล่านี้ ควรเข้ารับการรักษาทันที

    • เกิดผื่น
    • คันผิวหรือผิวบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้นหรือลำคอ
    • วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
    • มีปัญหาในการหายใจ

    ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

    ปฏิกิริยาของยา

    ปฏิกิริยากับยาอื่น

    ยาโลเทเพร็ดนอลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

    ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    ยาโลเทเพร็ดนอลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

    ยาโลเทเพร็ดนอลอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงภาวะของโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    ขนาดยาโลเทเพร็ดนอลสำหรับผู้ใหญ่

    ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้ขึ้นตาตามฤดูกาล (Seasonal Allergic Conjunctivitis)

    • ยาน้ำแขวนตะกอน 0.2 เปอร์เซ็นต์ : 1 หยดลงบนตา 4 ครั้งต่อวัน

    คำแนะนำ

  • เขย่าขวดก่อนใช้
  • การใช้

    • บรรเทาสัญญาณและอาการของภูมิแพ้ขึ้นตาตามฤดูกาลชั่วคราว

    ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังบนใบหน้า (Acne Rosacea)

    • ยาน้ำแขวนตะกอน 0.5 เปอร์เซ็นต์ : 1-2 หยดลงบนถุงเยื่อตาขาว (Conjunctival sac) 4 ครั้งต่อวัน

    คำแนะนำ

    • เขย่าขวดก่อนใช้
    • ภายในสัปดาห์แรกของการรักษาขั้นแรก อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นเป็น 1 หยดทุกชั่วโมงหากจำเป็น

    การใช้ 

    บรรเทาสัญญาณและอาการของภูมิแพ้ขึ้นตาตามฤดูกาลชั่วคราว

  • ไม่ควรหยุดหยอดยาก่อนกำหนด
  • หากอาการหรือสัญญาณไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยา 2 วัน ควรประเมินอาการผู้ป่วยอีกครั้ง
  • การใช้

    ใช้รักษาโรคติดเชื้อที่เยื่อบุตา เยื่อบุตาขาว กระจกตาและส่วนหน้าของลูกตา เช่น ภูมิแพ้ขึ้นตา โรคผิวหนังบนใบหน้า กระจกตาดำเป็นจุดแผลเล็ก ๆ (Superficial punctate keratitis) งูสวัดที่ตา (Herpes zoster keratitis) ม่านตาอักเสบ ไซไคลตีส (Cyclitis) โรคตาแดงติดเชื้อบางส่วน (Selected infective conjunctivitis) ซึ่งตอบสนองต่อยาสเตอรอยด์ เมื่ออันตรายของการใช้สเตอรอยด์เป็นเรื่องยอมรับได้ เพื่อที่จะลดการบวมและการอักเสบ

    ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วยม่านตาอักเสบ

    • ยาน้ำแขวนตะกอน 0.5 เปอร์เซ็นต์ : 1-2 หยดลงบนเยื่อบุตา 4 ครั้งต่อวัน

    คำแนะนำ

    • เขย่าขวดก่อนใช้
    • ภายในสัปดาห์แรกของการรักษาขั้นแรก อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นเป็น 1 หยดทุกชั่วโมงหากจำเป็น
    • ไม่ควรหยุดหยอดยาก่อนกำหนด
    • หากอาการหรือสัญญาณไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยา 2 วัน ควรประเมินอาการผู้ป่วยอีกครั้ง

    การใช้

    ใช้รักษาโรคติดเชื้อที่เยื่อบุตา เยื่อบุตาขาว กระจกตาและส่วนหน้าของลูกตา เช่น ภูมิแพ้ขึ้นตา โรคผิวหนังบนใบหน้า กระจกตาดำเป็นจุดแผลเล็ก ๆ งูสวัดที่ตา ม่านตาอักเสบ ไซไคลตีส โรคตาแดงติดเชื้อบางส่วนซึ่งตอบสนองต่อยาสเตอรอยด์ หากอันตรายของการใช้สเตียรอยด์เป็นเรื่องยอมรับได้เพื่อที่จะลดการบวมและการอักเสบ

    ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วยโรคกระจกตาอักเสบ

    • ยาน้ำแขวนตะกอน 0.5 เปอร์เซ็นต์ : 1-2 หยดลงบนเยื่อบุตา 4 ครั้งต่อวัน

    คำแนะนำ

    • เขย่าขวดก่อนใช้
    • ภายในสัปดาห์แรกของการรักษาขั้นแรก อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นเป็น 1 หยดทุกชั่วโมงหากจำเป็น
    • ไม่ควรหยุดหยอดยาก่อนกำหนด
    • หากอาการหรือสัญญาณไม่ดีขึ้น หลังจากใช้ยา 2 วัน ควรประเมินอาการผู้ป่วยอีกครั้ง

    การใช้

    ใช้รักษาโรคติดเชื้อที่เยื่อบุตา เยื่อบุตาขาว กระจกตา และส่วนหน้าของลูกตา เช่น ภูมิแพ้ขึ้นตา โรคผิวหนังบนใบหน้า กระจกตาดำเป็นจุดแผลเล็กๆ งูสวัดที่ตา ม่านตาอักเสบ ไซไคลตีส โรคตาแดงติดเชื้อบางส่วนซึ่งตอบสนองต่อยาสเตอรอยด์ หากอันตรายของการใช้สเตอรอยด์เป็นเรื่องยอมรับได้ เพื่อที่จะลดการบวมและการอักเสบ

    ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วยโรคเยื่อบุตาอักเสบ

    • ยาน้ำแขวนตะกอน 0.5 เปอร์เซ็นต์ : 1-2 หยดลงบนบนเยื่อบุตา 4 ครั้งต่อวัน

    คำแนะนำ

    • เขย่าขวดก่อนใช้
    • ภายในสัปดาห์แรกของการรักษาขั้นแรก อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นเป็น 1 หยดทุกชั่วโมงหากจำเป็น
    • ไม่ควรหยุดหยอดยาก่อนกำหนด
    • หากอาการหรือสัญญาณไม่ดีขึ้น หลังจากใช้ยา 2 วัน ควรประเมินอาการผู้ป่วยอีกครั้ง

    การใช้

    ใช้รักษาโรคติดเชื้อที่เยื่อบุตา เยื่อบุตาขาว กระจกตาและส่วนหน้าของลูกตา เช่น ภูมิแพ้ขึ้นตา โรคผิวหนังบนใบหน้า กระจกตาดำเป็นจุดแผลเล็กๆ งูสวัดที่ตา ม่านตาอักเสบ ไซไคลตีส โรคตาแดงติดเชื้อบางส่วนซึ่งตอบสนองต่อยาสเตอรอยด์ หากอันตรายของการใช้สเตอรอยด์เป็นเรื่องยอมรับได้ เพื่อที่จะลดการบวมและการอักเสบ

    ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วยโรคไซไคลตีส

    • ยาน้ำแขวนตะกอน 0.5 เปอร์เซ็นต์ : 1-2 หยดลงบนเยื่อบุตา 4 ครั้งต่อวัน

    คำแนะนำ

    • เขย่าขวดก่อนใช้
    • ภายในสัปดาห์แรกของการรักษาขั้นแรก อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นเป็น 1 หยดทุกชั่วโมงหากจำเป็น
    • ไม่ควรหยุดหยอดยาก่อนกำหนด
    • หากอาการหรือสัญญาณไม่ดีขึ้น หลังจากใช้ยา 2 วัน ควรประเมินอาการผู้ป่วยอีกครั้ง

    การใช้

    ใช้รักษาโรคติดเชื้อที่เยื่อบุตา เยื่อบุตาขาว กระจกตาและส่วนหน้าของลูกตา เช่น ภูมิแพ้ขึ้นตา โรคผิวหนังบนใบหน้า กระจกตาดำเป็นจุดแผลเล็กๆ งูสวัดที่ตา ม่านตาอักเสบ ไซไคลตีส โรคตาแดงติดเชื้อบางส่วน ซึ่งตอบสนองต่อยาสเตอรอยด์ เมื่ออันตรายของการใช้สเตอรอยด์เป็นเรื่องยอมรับได้ เพื่อที่จะลดการบวมและการอักเสบ

    ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่ตาหลังการผ่าตัด (Postoperative Ocular Inflammation)

    • ขี้ผึ้งป้ายตา 0.5 เปอร์เซ็นต์ : ป้ายขึ้ผึ้งจำนวนน้อย (เป็นแถบยาวประมาณ 0.5 นิ้ว) ที่ถุงเยื่อตาขาว 4 ครั้งต่อวันก่อนผ่าตัด และทำไปเรื่อย ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
    • เจลหรือยาน้ำแขวนตะกอน 0.5 เปอร์เซ็นต์ : หยอดตา 1-2 หยด ที่เยื่อบุตา 4 ครั้งต่อวันก่อนผ่าตัดและทำไปเรื่อย ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด

    คำแนะนำ

    • เจล 0.5 เปอร์เซ็นต์ : คว่ำขวดแล้วเขย่าหนึ่งครั้งเพื่อให้ยาลงไปอยู่ที่ปลายขวดก่อนหยอดตา
    • ยาน้ำแขวนตะกอน 0.5 เปอร์เซ็นต์ : เขย่าก่อนใช้

    การใช้

    ใช้รักษาการติดเชื้อที่ตาหลังการผ่าตัดตา

    ขนาดยาโลเทเพร็ดนอลสำหรับเด็ก

    ไม่ได้มีการกำหนดขยาดยาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

    รูปแบบของยา

    รูปแบบของยาโลเทเพร็ดนอล มีดังนี้

    • ยาน้ำแขวนตะกอนสำหรับหยอดตา (Ophthalmic suspension)
    • ขึ้ผึ้งป้ายตา
    • เจลหยอดตา

    กรณีฉุกเฉินหรือการใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 24/08/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา