backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine)

ข้อบ่งใช้

ยา ไดเฟนไฮดรามีน ใช้สำหรับ

ยา ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) มักใช้เพื่อบรรเทาอาการไอ บรรเทาอาการคัดจมูก และบริเวณหลอดลมมีสารคัดหลั่งมาก

ยาไดเฟนไฮดรามีนยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดปรึกษากับแพทย์

วิธีการใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน

สำหรับยาแบบรับประทาน คุณควร

  • รับประทานยาไดเฟนไฮดรามีนตามที่แพทย์กำหนดเกี่ยวกับขนาดยา และตารางการใช้ยา
  • อ่านฉลากยาอย่างละเอียดก่อนใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน
  • ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมบนฉลากยาที่คุณไม่เข้าใจ

การเก็บรักษายาไดเฟนไฮดรามีน

ยาไดเฟนไฮดรามีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไดเฟนไฮดรามีนบางยี่ห้อ อาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยา หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยาไดเฟนไฮดรามีนลงในชักโครก หรือในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน

ก่อนใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน แจ้งให้แพทย์ทราบถ้าหากคุณ

  • มีอาการแพ้ต่อส่วนผสมอื่น ๆ (Excipients) ที่อยู่ในยาไดเฟนไฮดรามีน
  • มีอาการแพ้ยาอื่นๆ สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือสัตว์
  • การมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ หรือใช้ยาอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงว่าจะมีปฏิกิริยากับยาไดเฟนไฮดรามีน ได้แก่ โรคต้อหินมุมปิด โรคหืด (Asthma) ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคต่อมลูกหมากโต แผลในทางเดินอาหารตีบแคบ กระเพาะส่วนปลายและลำไส้เล็กตอนต้นอุดตัน กระเพาะปัสสาวะอุดตัน โรคพร่องเอนไซม์ G6PD
  • ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน ขณะการตั้งครรภ์และการให้นมบุตร โปรดปรึกษากับแพทย์เพื่อพิจารณาระหว่างประโยชน์กับความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน

    ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงของการใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน

    เช่นเดียวกับยาอื่น ยาไดเฟนไฮดรามีนสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ส่วนมากนั้นไม่ค่อยจะเกิดขึ้น และไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่ควรปรึกษากับแพทย์หากคุณเกิดปัญหาหลังจากการใช้ยา

    ผลข้างเคียงบางอย่าง ได้แก่

    • ซึม
    • มึนงง
    • ความดันโลหิตต่ำ
    • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
    • การทำงานไม่ประสอดประสานกัน
    • ระบบทางเดินอาหารปั่นป่วน
    • ปวดหัว
    • มองเห็นไม่ชัด
    • มีเสียงอื้อในหู
    • ร่าเริงผิดปกติหรือซึมเศร้า
    • อารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว
    • ฝันร้าย
    • โรคอะนอเร็กเซีย
    • ปัสสาวะลำบาก
    • ปากแห้ง
    • แน่นหน้าอก
    • เหน็บชา
    • รู้สึกหนักหรืออ่อนแรงที่มือ

    ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

    ปฏิกิริยาของยา

    ปฏิกิริยากับยาอื่น

    ยาไดเฟนไฮดรามีน อาจเกิดอันตรกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่าคุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่มใช้ยา หยุดใช้ยา หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

    ยาที่อาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่

    • ยานอนหลับ (Hypnotic)
    • ยากล่อมประสาท (Sedatives)
    • ยาคลายเครียด (Tranquilizers)
    • ยารักษาต้านโรคซึมเศร้า กลุ่ม MAOIs
    • อะมิโนไกลโคไซด์ (Aminoglycosides)
    • ยากลุ่มแอนตี้มัสคารินิก (Antimuscarinics)

    ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    ยาไดเฟนไฮดรามีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

    ยาไดเฟนไฮดรามีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

    สภาวะต่างๆ มีดังนี้

    • โรคต้อหิน ชนิดมุมแคบ
    • โรคหืด
    • ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน
    • โรคหัวใจและหลอดเลือด
    • โรคต่อมลูกหมากโต
    • แผลในทางเดินอาหารตีบแคบ
    • กระเพาะส่วนปลายและลำไส้เล็กตอนต้นอุดตัน
    • กระเพาะปัสสาวะอุดตัน
    • โรคพร่องเอนไซม์ G6PD

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    ขนาดยาไดเฟนไฮดรามีนสำหรับผู้ใหญ่

    โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับขนาดยาไดเฟนไฮดรามีน

    ขนาดยาที่แนะนำสำหรับบางกรณีมีดังนี้

    • อาการแพ้: 25 – 50 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง ไม่เกิน 300 มก./วัน
    • นอนไม่หลับ: 50 มก. รับประทาน 30 นาทีก่อนนอน
    • อาการไอ: 25 – 50 มก. รับประทานทุกๆ 4 ชั่วโมง เป็นครั้งคราวเมื่อจำเป็น (แนะนำยาน้ำเชื่อม) ไม่เกิน 150 มก./วัน
    • อาการคลื่นไส้อาเจียนจากการเคลื่อนไหว: การรักษาหรือการป้องกัน 25-50 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง หรืออีกทางหนึ่ง 10 – 50 มก./ครั้ง สำหรับการรักษา อาจเพิ่มถึง 100 มก. หากจำเป็น ไม่เกิน 400 มก.
    • อาการพาร์กินสัน: 25 มก. รับประทานทุกๆ 8 ชั่วโมงในตอนเริ่มต้น ตามด้วย 50 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง ไม่เกิน 300 มก./วัน

    ขนาดยาไดเฟนไฮดรามีนสำหรับเด็ก

    โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับขนาดยาไดเฟนไฮดรามีน

    ขนาดยาที่แนะนำสพหรับบางกรณีมีดังนี้

    อาการแพ้

    • อายุ 2-6 ปี: 6.25 มก. ทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง ไม่เกิน 37.5 มก./วัน
    • อายุ 6-12 ปี: 12.5 – 25 มก. รับประทานทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง ไม่เกิน 150 มก./วัน
    • อายุมากกว่า 12 ปี: 25 – 50 มก. รับประทานทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง ไม่เกิน 300 มก./วัน

    อาการนอนไม่หลับครั้งคราว

    • อายุน้อยกว่า 12 ปี (นอกฉลาก): 1 มก./กก. ไม่เกิน 50 มก. รับประทาน 30 นาทีก่อนนอน
    • อายุมากกว่า 12 ปี: 50 มก. รับประทาน 30 นาทีก่อนนอน

    อาการไอ

    • อายุน้อยกว่า 12 ปี: ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
    • อายุมากกว่า 12 ปี: 25 – 50 มก. รับประทานทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง ไม่เกิน 300 มก./วัน

    อาการคลื่นไส้อาเจียนจากการเคลื่อนไหว

    • ใช้ยา 30 นาทีก่อนการเคลื่อนไหว
    • 5-25 มก. รับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง หรือ 150 มก./ตารางเมตร ไม่เกิน 300 มก./วัน

    ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัย และประสิทธิภาพของขนาดยาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

    รูปแบบของยา

    ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

    • ยาเม็ดแค็ปเล็ต (Caplet) 25 มก.

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา