วาลซาร์แทน (Valsartan) ใช้เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง ยานี้ยังใช้เพื่อรักษาโรคหัวใจล้มเหลว (หัวใจอ่อนแรง) และเพื่อการทำงานของหัวใจหลังจากเกิดหัวใจวาย
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
วาลซาร์แทน (Valsartan) ใช้เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง ยานี้ยังใช้เพื่อรักษาโรคหัวใจล้มเหลว (หัวใจอ่อนแรง) และเพื่อการทำงานของหัวใจหลังจากเกิดหัวใจวาย
วาลซาร์แทน (Valsartan) ใช้เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง ยานี้ยังใช้เพื่อรักษาโรคหัวใจล้มเหลวอีกด้วย (หัวใจอ่อนแรง)
ยาวาลซาร์แทน ใช้เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจหลังจากเกิดหัวใจวาย นอกจากนี้ ยานี้ยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นได้อีกด้วย โปรดปรึกษากับแพทย์
ยาวาลซาร์แทน ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาวาลซาร์แทนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาวาลซาร์แทนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
โปรดแจ้งให้ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพทั้งหมดของคุณทราบว่า คุณกำลังใช้ยานี้ ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์
ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ และทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องการความตื่นตัว จนกว่าคุณจะทราบว่า ยานี้ส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไร
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการวิงเวียนหรือหมดสติ ควรค่อยๆ ลุกขึ้นหากคุณกำลังนั่งหรือนอนอยู่ ควรระมัดระวังเวลาขึ้นและลงบันได
อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ กว่าจะได้ผลจากยาเต็มที่
ควรทำการตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ โปรดปรึกษากับแพทย์
ควรทำการตรวจการทำงานของเลือดตามที่แพทย์สั่ง โปรดปรึกษากับแพทย์
หากคุณกำลังใช้สารทดแทนเกลือที่มีโพแทสเซียม หรือยาขับปัสสาวะกลุ่ม potassium-sparing โปรดปรึกษากับแพทย์
หากคุณกำลังรับประทานอาหารที่มีเกลือต่ำหรือไม่มีเกลือ โปรดปรึกษากับแพทย์
โปรดปรึกษากับแพทย์ก่อนดื่มสุรา
ควรระมัดระวังอากาศร้อน หรือกำลังทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหว ควรดื่มน้ำให้มากเพื่อหยุดยั้งการสูญเสียน้ำ
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณมีเหงื่อออกมากเกินไป สูญเสียน้ำ อาเจียน หรือท้องร่วง อาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตต่ำได้
หากคุณกำลังใช้ยานี้และกำลังมีความดันโลหิตสูง โปรดปรึกษากับแพทย์ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้เอง ที่อาจจะเพิ่มระดับความดันโลหิตได้ ยาเหล่านี้มีทั้งยาแก้ไอหรือแก้หวัด ยาลดความอ้วน ยากระตุ้น ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน และผลิตภัณฑ์ตามธรรมชาติหรือยาช่วยชีวิต (aids)
หากคุณกำลังใช้ยาลิเทียม (lithium) โปรดปรึกษากับแพทย์ คุณอาจจะต้องทำการตรวจการทำงานของเลือดอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ขณะที่กำลังใช้ยานี้
ยานี้อาจจะได้ผลไม่ดีมากนัก ในผู้ป่วยที่เป็นคนผิวสี โปรดปรึกษากับแพทย์
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาวาลซาร์แทน จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด D โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หรือรับการรักษาใยทันที หากเกิดสัญญาณหรืออาการ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงที่ร้ายแรงดังต่อไปนี้
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาวาลซาร์แทน อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาวาลซาร์แทน อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาวาลซาร์แทน อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคหัวใจล้มเหลว
ขนาดยาเริ่มต้น 40 มก. วันละสองครั้ง
ขนาดยาปกติ 80 ถึง 160 มก. วันละสองครั้ง ควรเพิ่มขนาดยาขึ้นจนถึงขนาดยาสูงสุดที่ผู้ป่วยสามารถทนได้
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง
ขนาดยาเริ่มต้น 80 ถึง 160 มก. รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาปกติ 80 ถึง 320 มก. รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial Infarction)
ขนาดยาเริ่มต้น 20 มก. วันละ 2 ครั้ง
ขนาดยาปกติ ควรปรับขนาดยาเริ่มต้นเพิ่มขึ้นภายใน 7 วันไปที่ขนาดยา 40 มก. วันละ 2 ครั้ง โดยปรับขนาดยาครั้งต่อไปมาที่ขนาดยาปกติตามเป้าหมายที่ขนาด 160 มก. วันละ 2 ครั้ง เท่าที่ผู้ป่วยสามารถทนได้หากเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ หรือโรคไตวาย ควรพิจารณาลดขนาดยา
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง
อายุ 6 ถึง 16 ปี
ขนาดยาเริ่มต้น 1.3 มก./กก. วันละครั้ง (จนถึง 40 มก.)
ขนาดยาปกติ จนถึง 2.7 มก./กก. (จนถึง 160 มก.) วันละครั้ง ปรับขนาดยาโดยขึ้นกับการตอบสนองของผู้ป่วย
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย