ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา อะเซลาสทีน (Azelastine) ใช้เพื่อบรรเทาอาการที่จมูก เช่น น้ำมูกไหล คันจมูก หรือคัดจมูก อาการจาม และอาการเสมหะไหลลงคอ (post-nasal drip) ที่เกิดจากโรคภูมิแพ้หรือสภาวะอื่นๆ ยาอะเซลาสทีนนั้นอยู่ในกลุ่มของยาต้านฮีสตามีน (antihistamines) ทำงานโดยการปิดกั้นสารตามธรรมชาติอย่างสารฮีสตามีน ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ที่จมูก
สั่งน้ำมูกเบาๆ ก่อนใช้ยานี้ พ่นยาเข้าในจมูกตามที่แพทย์กำหนด ตามปกติคือ วันละหนึ่งหรือสองครั้ง เข้าในรูจมูกทั้งสองข้าง อย่าพ่นยาเข้าในดวงตาหรือปาก
เพื่อป้องกันรสขมภายในปาก ควรค่อยๆ หายใจเข้า และอย่าหงายหน้าขึ้นหลังจากใช้ยานี้
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา
ใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
อย่าเพิ่มขนาดยา ใช้ยาบ่อยกว่า หรือใช้ยานานกว่าที่กำหนด อาการของคุณจะไม่หายไวขึ้นและความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอาจจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ควรนับจำนวนครั้งการใช้ที่ปั๊มพ่นยา กำจัดปั๊มพ่นยาหลังจากที่คุณใช้เท่ากับจำนวนครั้งที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์
ยานี้มักจะเริ่มได้ผลภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากใช้ยา
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
ยาอะเซลาสทีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอะเซลาสทีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาอะเซลาสทีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยาอะเซลาสทีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนประกอบที่ไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับไต
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกัญชานั้น อาจทำให้อาการง่วงซึมรุนแรงขึ้นได้ อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว จนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย จำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปรึกษาแพทย์หากคุณใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค
ก่อนการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาตามใบสั่งยา ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ)
ในช่วงขณะการตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาความเสี่ยงและประโยชน์กับแพทย์
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยานี้สามารถส่งผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาอะเซลาสทีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
อาจเกิดรสขมภายในปาก ง่วงซึม แสบร้อนภายในจมูก จามเป็นพักๆ ไอ เลือดกำเดาไหล น้ำมูกไหล คลื่นไส้ ปากแห้ง ปวดหัว น้ำหนักเพิ่มขึ้น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือตาแดง หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้คือ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
อาการเหล่านี้ไม่ใช่อาการทั้งหมดของผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น หากคุณสังเกตเห็นอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ โปรดติดต่อแพทย์หรือเภสัชกร
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณกำลังใช้ยาอื่นที่อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม เช่น ยาแก้ปวดหรือยาบรรเทาอาการไอโอปิออยด์ (opioid) เช่น ยาโคเดอีน (codeine) หรือยาไฮโดรโคโดน (hydrocodone) แอลกอฮอล์ กัญชา ยานอนหลับหรือยารักษาอาการวิตกกังวล เช่น อัลปราโซแลม (alprazolam) ลอราซีแพม (lorazepam) หรือโซลพิเดม (zolpidem) ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่นคาริโซโพรดอล (carisoprodol) หรือไซโคลเบนซาพรีน (cyclobenzaprine) หรือยาต้านฮีสตามีนอื่นๆ เช่น เซทิริซีน (cetirizine) หรือไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine)
ควรตรวจสอบฉลากของยาทั้งหมด (เช่น ยาแก้แพ้หรือยาแก้ไอแก้หวัด) เนื่องจากอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมได้ โปรดสอบถามแพทย์ เกี่ยวกับวิธีการใช้ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย
ยาอะเซลาสทีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาอะเซลาสทีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาอะเซลาสทีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การใช้งาน เพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตามฤดูกาล (Seasonal allergic rhinitis)
การใช้งาน เพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตลอดปี (Perennial allergic rhinitis)
อายุ 2 ถึง 5 ปี
ยาพ่นจมูก 0.1% พ่นยา 1 ครั้งเข้าในรูจมูกแต่ละข้าง วันละสองครั้ง
อายุ 6 ถึง 11 ปี
ยาพ่นจมูก 0.1% และยาพ่นจมูก 0.15% พ่นยา 1 ครั้งเข้าในรูจมูกแต่ละข้าง วันละสองครั้ง
การใช้งาน เพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตามฤดูกาล
อายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี
ยาพ่นจมูก 0.1% พ่นยา 1 ครั้งเข้าในรูจมูกแต่ละข้าง วันละสองครั้ง
อายุ 6 ถึง 11 ปี
ยาพ่นจมูก 0.1% และยาพ่นจมูก 0.15% พ่นยา 1 ครั้งเข้าในรูจมูกแต่ละข้าง วันละสองครั้ง
การใช้งาน เพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตลอดปี
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย