backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

เทสโทสเตอโรน (Testosterone)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

Know the basics

ยาเทสโทสเตอโรนใช้สำหรับ

ยาเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ใช้กับผู้ชายและเด็กผู้ชายเพื่อรักษาภาวะที่เกิดจากการขาดฮอร์โมนชนิดนี้ เช่น ภาวะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช้ากว่าปกติ (delayed puberty) ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (impotence) หรือภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลอื่นๆ ยานี้ยังสามารถใช้ได้ในผู้หญิงเพื่อรักษาโรคมะเร็งเต้านมที่ลุกลามไปยังส่วนอื่นในร่างกาย

วิธีการใช้ยาเทสโทสเตอโรน

แพทย์จะเป็นผู้ให้ยานี้โดยการฉีดยาหรือฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง

การเก็บรักษายาเทสโทสเตอโรน

ยาเทสโทสเตอโรนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเทสโทสเตอโรนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยาเทสโทสเตอโรนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาเทสโทสเตอโรน

คุณไม่ควรใช้ยาเทสโทสเตอโรนหากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคหรืออยู่ในภาวะดังต่อไปนี้

  • โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • โรคมะเร็งเต้านมในเพศชาย
  • โรคหัวใจขั้นร้ายแรง
  • โรคตับขั้นรุนแรง
  • โรคไตขั้นรุนแรง
  • หากคุณตั้งครรภ์หรืออาจจะตั้งครรภ์

เพื่อให้แน่ใจว่ายาเทสโทสเตอโรนนั้นปลอดภัยสำหรับคุณ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้

  • โรคเบาหวาน
  • ภาวะต่อมลูกหมากโต
  • โรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • เคยเป็นโรคหัวใจกำเริบ โรคหลอดเลือดสมอง หรือลิ่มเลือด
  • ระดับคอเลสเตอรอลหรือไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันในเลือดชนิดหนึ่ง) สูง
  • โรคมะเร็งเต้านม (ในผู้ชายหรือในผู้หญิงที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดสูง [hypercalcemia])
  • โรคตับหรือโรคไต
  • หากคุณเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียงหรือมีอาการป่วยอื่นๆ
  • หากคุณกำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาวาฟาริน (warfarin) ยาคูมาดิน (Coumadin) หรือยาแจนโทเวน (Jantoven)

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษากับแพทย์เสมอเพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนใช้ยานี้

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาเทสโทสเตอโรน

  • อาการปวด
  • รอยแดง หรือบวมที่บริเวณแขนหรือขา
  • การรับรสชาติเปลี่ยนแปลง
  • หายใจติดขัด
  • ปวดเต้านม
  • ไอ
  • ระคายเคืองที่เหงือกหรือปาก
  • เลือดออกตามไรฟัน
  • ร้องไห้
  • มีรอยด่างบนผิว
  • ท้องร่วง
  • หมดกำลังใจ
  • วิงเวียน
  • ปากแห้ง
  • เต้านมโต
  • กลัวหรือประหม่า
  • รู้สึกเศร้าหรือรู้สึกว่างเปล่า
  • ปวดเหงือกหรือมีแผลที่เหงือก
  • ตอบสนองไวหรือมีการแสดงออกทางอารมณ์เกินจริง
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายที่ท้อง

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาเทสโทสเตอโรนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

  • ยาที่อาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่นยาวาฟาริน)
  • ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    ยาเทสโทสเตอโรนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

    ยาเทสโทสเตอโรนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ

    • โรคมะเร็ง (เช่นโรคมะเร็งเต้านมในผู้ชาย โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก)
    • ลิ่มเลือด (เช่นที่ขา ปอด)
    • โรคหัวใจ (เช่น หัวใจล้มเหลว ปวดหน้าอก หัวใจวาย) โรคหลอดเลือดสมอง
    • ปัญหาเกี่ยวกับตับ
    • ปัญหาเกี่ยวกับไต
    • คอเลสเตอรอลสูง
    • ความดันโลหิตสูง
    • ต่อมลูกหมากโต
    • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea)
    • โรคเบาหวาน

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    ขนาดยาเทสโทสเตอโรนสำหรับผู้ใหญ่

    ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช้ากว่าปกติในเพศชาย

    • สำหรับยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ยาเทสโทสเตอโรน เอแนนเทต (Testosterone Enanthate) 50 ถึง 200 มก. ทุกๆ 2 ถึง 4 สัปดาห์ เป็นเวลา 4 ถึง 6 เดือน
    • สำหรับยาสำหรับฝัง 2 เม็ด (แต่ละเม็ดมียาเทสโทสเตอโรนขนาด 75 มก.) ฝังใต้ผิวหนังทุกๆ 3 ถึง 6 เดือน ระยะเวลาการรักษา 4 ถึง 6 เดือน

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งเต้านม

    สำหรับยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ยาเทสโทสเตอโรน เอแนนเทต 200 ถึง 400 มก. ทุกๆ 2 ถึง 4 สัปดาห์

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ (hypogonadism) ในผู้ชาย

    สำหรับยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ

    • ยาเทสโทสเตอโรน อันเดคาโนเอตต (Testosterone Undecanoate) 750 มก. (3 มล.) ตามด้วย 750 มก. (3 มล.) หลังจากผ่านไป 4 สัปดาห์ แล้วจึงใช้ยาในขนาด 750 มก. (3 มล.) ทุกๆ 10 สัปดาห์หลังจากนั้น
    • ยาเทสโทสเตอโรน เอแนนเทต และไซไพโอเนต (Cypionate) 50 ถึง 400 มก. ทุกๆ 2 ถึง 4 สัปดาห์

    สำหรับยาสำหรับฝัง 2 ถึง 6 เม็ด (ในแต่ละเม็ดมีขนาด 75 มก.) ฝังใต้ผิวหนังทุกๆ 3 ถึง 6 เดือน

    ขนาดยาเทสโทสเตอโรนสำหรับเด็ก

    ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

    รูปแบบของยา

    ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

    • ยาสำหรับฉีดและยาสำหรับฝัง

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

    อาการของการใช้ยาเกินขนาดอาจมีดังนี้

    • มองเห็นไม่ชัด
    • ปวดหัว
    • ชัก
    • พูดไม่ชัด
    • ไม่สามารถพูดได้อย่างเฉียบพลันและรุนแรง
    • ตาบอดชั่วคราว
    • อ่อนแรงที่แขนหรือขาด้านหนึ่งของร่างกายอย่างเฉียบพลันและรุนแรง

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา