backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) หรือ ดีเอชเอ (DHA)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรพิมพ์จิต วัฒนชโนบล


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 04/06/2020

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) หรือ ดีเอชเอ (DHA)

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) หรือ ดีเอชเอ (DHA) เป็นรูปแบบหนึ่งของกรดไขมัน โอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์ (Omega-3 acid ethyl esters) ไขมันชนิดหนึ่งที่พบได้ในน้ำมันปลา ใช้คู่กับการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย เพื่อช่วยลดระดับของไขมันในเลือดบางชนิด

ข้อบ่งใช้

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก หรือดีเอชเอใช้สำหรับ

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) หรือ ดีเอชเอ (DHA) เป็นรูปแบบหนึ่งของกรดไขมัน โอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์ (Omega-3 acid ethyl esters) ไขมันชนิดหนึ่งที่พบได้ในน้ำมันปลา ใช้คู่กับการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย เพื่อช่วยลดระดับของไขมันในเลือดบางชนิด เช่น ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) และยังอาจช่วยเพิ่มไขมันดีอย่างเอชดีแอล (HDL) โดยปกติ

ยานี้จะใช้หลังจากลองรักษาด้วยวิธีอื่นโดยไม่ใช้ยา เช่น เช่น การเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน ออกกำลังกาย งดดื่มสุรา ลดน้ำหนัก หากมีน้ำหนักเกิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากเป็นโรคเบาหวาน และควบคุมระดับของฮอร์โมนไทรอยด์ แต่ยังไม่สามารถควบคุมระดับไขมันในเลือดได้อย่างสมบูรณ์

การลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลที่ดี อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ กรดโอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์นั้นเชื่อว่า สามารถลดปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ที่ร่างกายผลิตลงได้

วิธีการใช้ กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ)

รับประทานกรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก โดยปกติคือวันละหนึ่งหรือสองครั้ง พร้อมอาหารหรือตามที่แพทย์สั่ง โดยควรกลืนยาแคปซูลทั้งเม็ด ไม่บด เคี้ยวหรือละลายแคปซูลบรรจุยา

ห้ามใช้กรดไขมันโอเมก้า 3 หรือผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาอื่นๆ รวมถึงยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่หาซื้อได้เอง มาใช้ทดแทนยานี้ โดยไม่ได้แจ้งให้แพทย์ทราบ เนื่องจากอาจมีปริมาณและชนิดของกรดไขมันที่แตกต่างกัน

ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา ควรใช้กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้จำง่าย ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน และถึงแม้จะรู้สึกเป็นปกติดี ก็ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง เพราะคนส่วนใหญ่ที่มีระดับของไตรกลีเซอไรด์สูงนั้นจะไม่รู้สึกป่วย

ควรรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยการใช้ยานี้อาจต้องใช้เวลานานถึง 2 เดือน กว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยาเต็มที่

การเก็บรักษา กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ)

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ) ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ) บางยี่ห้ออาจจะมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรทิ้งกรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ) ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ)

ก่อนรับประทานกรดโอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์คุณควร

  • ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้กรดโอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์ ปลา รวมไปถึงอาหารทะเลชนิดอื่น ๆ เช่นหอยกาบ หอยเชลล์ กุ้ง ลอบสเตอร์ กั้ง ปู หอยนางรม หอยแมลงภู่ และยาอื่น ๆ หรือส่วนประกอบในแคปซูลกรดโอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์  และอย่าลืมสอบถามรายชื่อของส่วนประกอบยาจากเภสัชกรเพิ่มเติมเสมอ
  • แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณกำลังใช้ยาหรือวางแผนที่จะใช้ยาตัวใดอยู่ ทั้งยาตามใบสั่งยา ยาที่หาซื้อได้เอง วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร โดยเฉพาะยาจำพวกนี้

ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (หรือยาเจือจางเลือด) เช่น ยาวาร์ฟาริน (warfarin) ยาแอสไพริน หรือยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน

ยาในกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ (beta-blockers) เช่น ยาอะทีโนลอล (atenolol) อย่างเทนอร์มิน (Tenormin) ยาลาเบทาลอล (labetalol) อย่างนอร์โมดีน (Normodyne) ยาเมโทโพรลอล (metoprolol) อย่างโลเพรสเซอร์ (Lopressor) หรือโทพรอล เอ็กซ์แอล (Toprol XL) ยานาโดลอล (nadolol) อย่างคอร์การ์ด (Corgard) และยาโพรพราโนลอล (propranolol) อย่างอินเดรอล (Inderal) ยาโคลพิโดเกรล (clopidogrel) อย่างพลาวิกซ์ (Plavix)

ยาขับปัสสาวะ (หรือยาขับน้ำ) ยาคุมกำเนิดที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด แผ่นคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด และการฉีดยาคุมกำเนิด ยาที่ใช้บำบัดทดแทนฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen replacement therapy) เนื่องจากแพทย์อาจต้องเปลี่ยนขนาดยา หรือเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด

  • แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณดื่มสุราเกิน 2 แก้วต่อวัน เคยเป็น หรือกำลังเป็นโรคเบาหวานที่ตับ (Diabetesor liver) โรคต่อมไทรอยด์ หรือโรคตับอ่อน (Pancreatic disease)
  • แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังตั้งครรภ์ มีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร และหากคุณเพิ่งทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ในระหว่างที่ใช้กรดโอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์อยู่ ควรติดต่อแพทย์ในทันที
  • สอบถามแพทย์เกี่ยวกับการดื่มสุรา ขณะที่กำลังใช้กรดโอเมก้า 3 เอทิล เอสเทอร์

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือการให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่เพียงพอ หากคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรโปรดปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ)

ผลข้างเคียงทั่วไปได้แก่ ท้องไส้ปั่นป่วน เรอ และมีรสชาติแปลก ๆ ภายในปาก

หากคุณมีสัญญาณหรืออาการของการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอบวม ควรรีบเข้ารับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที

หากเกิดผลข้างเคียงรุนแรงดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและติดต่อแพทย์ทันที

ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่ามีดังนี้

  • ปวดหลัง
  • มีรสชาติที่ผิดปกติ หรือไม่พึงประสงค์ภายในปาก
  • ท้องไส้ปั่นป่วน เรอ
  • เกิดผดผื่นที่ผิวหนังในระดับไม่รุนแรง

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ) อาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรง

เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

โอเมก้า 3 ทำให้มีอาการเลือดออกเพิ่มขึ้น หากใช้ยานี้ร่วมกับยาที่เพิ่มความเสี่ยงของอาการเลือดออก เช่น แอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (หรือยาเจือจางเลือด) เช่น ยาวาฟาริน (warfarin) อย่างคูมาดิน (Coumadin®) หรือยาเฮพาริน (heparin) ยาต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelet drugs) เช่น ยาโคลพิโดเกรล (Clopidogrel) อย่างพลาวิกซ์ (Plavix®) และยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อย่างมอทริน (Motrin®) หรือแอดวิล (Advil®) หรือยานาพรอกเซน (Naproxen) อย่างนาโพรซิน (Naprosyn®) หรืออะลีฟ (Aleve®)

โอเมก้า 3 อาจส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง ผู้ที่รับประทานยาสำหรับโรคเบาหวาน หรือใช้อินซูลิน ควรได้รับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และเภสัชกร และอาจต้องปรับขนาดยาหากจำเป็น

โอเมก้า 3 อาจทำให้ความดันโลหิตลดลงต่ำ จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง หากใช้ร่วมกับยาที่ลดความดันโลหิต

โอเมก้า3 อาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน ยาที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ยาที่อาจเป็นพิษต่อตับ ยารักษาอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ยารักษาโรคข้ออักเสบ ยารักษาโรคหอบหืด ยารักษาโรคเกาต์ ยารักษาความผิดปกติของหัวใจ ยารักษาอาการติดเชื้อรีโทรไวรัส (retrovirus) หรือเอชไอวี (HIV) ยาแก้แพ้ ยายับยั้งฮอร์โมนแอนโดรเจน (Antiandrogens) ยาต้านมะเร็ง ยาต้านซึมเศร้ากลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (SSRIs) ยาต้านเอสโตรเจน (Antiestrogens) ยาต้านการอักเสบ ยาระงับอาการทางจิต (Antipsychotics) แอสไพริน ยาสำหรับกระดูก ยาลดระดับคอเลสเตอรอล ยาไซโคลสปอริน (Cyclosporine) ยาเดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) ยาสำหรับดวงตา ยาฮอร์โมน ยาแพคลิแท๊กเซิล (Paclitaxel) ยาสำหรับผิวหนัง และยาสำหรับกระเพาะ

ปฏิกิริยากับสมุนไพรและอาหารเสริม

โอเมก้า 3 อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการเลือดออก เมื่อใช้ร่วมกับสมุนไพร หรืออาหารเสริมที่เชื่อว่า สามารถเพิ่มความเสี่ยงของอาการเลือดออกได้ ที่พบมากที่สุดได้แก่ การใช้แป๊ะก๊วยรองลงมาคือการใช้กระเทียมและซอว์ พาเมตโต (Saw palmetto) และในทางทฤษฎี ยังมีสารอีกหลายชนิดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการเลือดออก แม้ส่วนใหญ่จะยังไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงก็ตาม

โอเมก้า 3 อาจส่งผลกับระดับน้ำตาลในเลือด จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง หากใช้ร่วมกับสมุนไพรหรืออาหารเสริม ที่อาจส่งผลกับระดับน้ำตาลในเลือด ควรเฝ้าสังเกตระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด และอาจต้องปรับขนาดยา

โอเมก้า 3 อาจทำให้ระดับความดันโลหิตลดลงต่ำ จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง หากใช้ร่วมกับสมุนไพร หรืออาหารเสริมที่ลดความดันโลหิต

โอเมก้า 3 อาจเกิดปฏิกิริยากับสมุนไพร หรืออาหารเสริมที่ช่วยแก้แพ้ ยับยั้งฮอร์โมนแอนโดรเจน ต้านมะเร็ง ต้านซึมเศร้ากลุ่มเอสเอสอาร์ไอ ต้านเอสโตรเจน ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ยาระงับอาการทางจิต ยาสำหรับกระดูก สมุนไพร และอาหารเสริมที่ลดระดับคอเลสเตอรอล กรดคอนจูเกเตดไลโนเลอิก (Conjugated linoleic acid) น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose oil) วิตามินชนิดละลายในไขมัน (Fat-soluble vitamins) โฟเลต (Folate) กรดแกมมาไลโนเลนิก (Gamma-linolenic acid) กลูโคซามีน (Glucosamine) สมุนไพรและอาหารเสริมที่อาจส่งผลกระทบกับระบบภูมิคุ้มกัน สมุนไพรและอาหารเสริมที่อาจส่งผลกระทบกับระบบประสาท สมุนไพรและอาหารเสริมที่อาจเป็นพิษต่อตับ สมุนไพรและอาหารเสริมที่อาจใช้เพื่อรักษาอาการหัวใจเต้นผิดปกติ สมุนไพรและอาหารเสริมที่อาจใช้เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบ สมุนไพรและอาหารเสริมที่อาจใช้เพื่อรักษาโรคหอบหืด สมุนไพรและอาหารเสริมที่อาจใช้เพื่อรักษาความผิดปกติของหัวใจ สมุนไพรและอาหารเสริมที่มีฤทธิ์ของฮอร์โมน การรักษาโดยฮอร์โมนทดแทน ไลโคปีน (Lycopene) ไตรกลีเซอไรด์ที่มีสายโมเลกุลยาวปานกลาง (Medium-chain triglycerides) ฟอสฟาติดิลซีรีน (Phosphatidylserine) ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) โพลิโคซานอล (Policosanol) ซีลีเนียม (selenium) ยาสำหรับผิวหนัง ยาสำหรับกระเพาะ และวิตามินอี

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

อาหาร หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจมีปฏิกิริยากับกรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ) และส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิกอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยากรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ) สำหรับผู้ใหญ่

  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder) ใช้ร่วมกับการรักษาอื่น 3.4 กรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะไซโคลสปอรินเป็นพิษต่อไต (Cyclosporine Nephrotoxicity) 12 กรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการปวดประจำเดือน 720 มิลลิกรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง (Hypercholesterolemia) 4 กรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension): 4 กรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง (Hypertriglyceridemia) 1-4 กรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่หลังผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery bypass grafting) 4 กรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษากลุ่มอาการเรย์นอยด์ (Raynaud’s Syndrome) 2.64 กรัม รับประทานทุกวัน
  • ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) 2 กรัม รับประทานทุกวัน

ขนาดยากรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (ดีเอชเอ) สำหรับเด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัย และประสิทธิภาพของขนาดยานี้ สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น ก่อนใช้ยา จึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาก่อนเสมอ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาแคปซูลสำหรับรับประทาน 1 กรัม

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่า

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรพิมพ์จิต วัฒนชโนบล


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 04/06/2020

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา