backup og meta

ดูดนิ้ว กัดเล็บ พฤติกรรมที่อาจช่วยให้เด็กรอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้น

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์ · แก้ไขล่าสุด 31/07/2020

    ดูดนิ้ว กัดเล็บ พฤติกรรมที่อาจช่วยให้เด็กรอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้น

    ข่าวดีสำหรับพ่อแม่ที่มีปัญหา และไม่สามารถบังคับลูกให้เลิกดูดนิ้วได้ เพราะพฤติกรรมนี้ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป และอาจมีประโยชน์ต่อเด็กเสียด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่าการ ดูดนิ้ว และกัดเล็บในเด็ก อาจช่วยป้องกันอาการแพ้ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ได้ ในบทความนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากคุณผู้อ่าน

    ความเชื่อมโยงระหว่างการ ดูดนิ้ว กัดเล็บ และความเสี่ยงภูมิแพ้

    การวิจัยกว่าสามทศวรรษเกี่ยวกับเชื้อแบคทีเรียในช่องปากที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

    จากการศึกษาชิ้นหนึ่งโดยผู้เชี่ยวชาญชาวนิวซีแลนด์พบว่า ทารกและเด็กที่ชอบดูดนิ้วหรือกัดเล็บมีแนวโน้วเกิดอาการแพ้น้อยกว่า โดยมีนักวิจัยจำนวนมากสนับสนุนทฤษฎีที่ว่า การได้รับจุลินทรีย์ในช่วงวัยเด็ก สามารถลดความเสี่ยงการเกิดอาการแพ้ได้

    ผู้เชี่ยวชาญใช้ข้อมูลจากงานวิจัยที่รู้จักกันในชื่อ Dunedin Multidisciplinary Health and Development Study ซึ่งทำการศึกษาเด็กจำนวนกว่า 1,000 คน ที่เกิดในนิวซีแลนด์ในปีค.ศ. 1972-1973 โดยมีเด็กจำนวน 1,037 คน ได้รับการตรวจเมื่อมีอายุ 5 ปี 7 ปี 9 ปี และ 11 ปี ตามลำดับ เด็ก ๆ ได้รับการจัดกลุ่มตามนิสัยการดูดนิ้วและกัดเล็บ โดยนักวิจัยทำการทดสอบอาการภูมิแพ้ในเด็กเหล่านี้ ด้วยการตรวจตัวอย่างผิวหนัง เมื่อเด็กมีอายุ 13 ปี และติดตามผล เมื่อพวกเขามีอายุ 32 ปี

    ผลปรากฏว่าร้อยละ 49 ของคนที่ไม่เคยดูดนิ้ว หรือกัดเล็บ เกิดอาการแพ้อย่างน้อยหนึ่งชนิด ในขณะที่ร้อยละ 38 ของเด็กที่มีนิสัยดูดนิ้วหรือกัดเล็บเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งมีอาการแพ้ ส่วนเด็กจำนวนร้อยละ 31 ที่มีนิสัยทั้งดูดนิ้วและกัดเล็บมีอาการแพ้ โดยมีการวิจัยอย่างต่อเนื่องจนเด็กมีอายุ 32 ปี แต่เฉพาะกับเด็กที่มีทั้งนิสัยดูดนิ้วและกัดเล็บเท่านั้น

    ความเกี่ยวข้องนี้ยังคงเกิดอย่างสม่ำเสมอ แม้เมื่อนักวิจัยนำเอาปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่อาจส่งผลต่ออาการแพ้ เข้ามาใช้ในการศึกษา เช่น ประวัติของพ่อแม่ที่มีอาการแพ้ หรือการรับน้ำนมแม่ หรือนิสัยการสูบบุหรี่ของพ่อแม่

    งานวิจัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับผลการศึกษา

    ผลการศึกษาเหล่านี้เชื่อมโยงกับการค้นพบล่าสุด เช่น การศึกษาที่ตีพิมพ์ในปีค.ศ. 2013 (โดย Hesselmar B และคณะ) ที่ได้ค้นพบว่า เด็กที่แม่ทำความสะอาดจุกนมหลอกสำหรับดูด มีแนวโน้มที่จะเป็นภูมิแพ้น้อยลง

    อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า นิสัยการดูดนิ้วและกัดเล็บ เป็นพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงปฏิกิริยาที่ป้องกันอาการแพ้ ผลการศึกษาใหม่แนะนำการใช้สมมติฐานที่ถูกอนามัย ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นและเชื้อโรคน้อย ที่ทำให้เด็กมีความอ่อนแอต่อภาวะต่าง ๆ เช่น อาการภูมิแพ้ ผลปรากฏว่า การอยู่ในภาวะที่มีเชื้อโรคส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงการเกิดโรคภูมิแพ้ได้

    ถึงแม้จะมีผลวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการดูดนิ้วและกัดเล็บอาจมีส่วนในการป้องกันอาการภูมิแพ้ แต่ไม่ได้หมายความว่า พ่อแม่ควรสนับสนุนให้ลูกมีนิสัยการดูดนิ้ว เพราะหากเด็กไม่เลิกดูดนิ้ว หรือกัดเล็บในวัยที่เหมาะสม พฤติกรรมนี้ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน วิธีที่ปลอดภัยกว่า อาจได้แก่ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เช่น แมว สุนัข ที่ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์ · แก้ไขล่าสุด 31/07/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา