backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

กาแฟดิบ (Green Coffee)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Ploylada Prommate · แก้ไขล่าสุด 31/07/2020

กาแฟดิบ (Green Coffee)

กาแฟดิบ (Green Coffee) เป็นเมล็ดของต้นกาแฟที่ยังไม่ได้ผ่านการคั่ว กาแฟดิบมีปริมาณ กรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic) สูงกว่า เมื่อเทียบกับเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่ว ซึ่งเชื่อว่ากรดคลอโรจีนิกในกาแฟดิบนั้นดีต่อสุขภาพ

การใช้ประโยชน์

กาแฟดิบ ใช้สำหรับ

กาแฟดิบ (Green Coffee) เป็นที่นิยมในการใช้เพื่อช่วยลดน้ำหนัก หลังจากที่ถูกกล่าวถึงในรายการ the Dr. Oz show ในปี 2012 กาแฟดิบจึงเริ่มเป็นที่กล่าวถึง และมักรับประทานกาแฟดิบเพื่อรักษาโรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันสูง โรคอัลไซเมอร์ และการติดเชื้อแบคทีเรีย

สรรพคุณของกาแฟดิบ

เป็นที่ทราบกันว่า กรดคลอโรจีนิกในกาแฟดิบนั้นอาจมีผลต่อเส้นเลือด และทำให้ความดันลดลง ดังนั้นนอกจากการใช้เพื่อลดน้ำหนัก กรดคลอโรจีนิกในกาแฟดิบก็ยังมีสรรพคุณต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการเผาผลาญของร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ยังมีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรชนิดนี้ว่ามีการทำงานอย่างไร ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือขอคำแนะนำจากแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อควรระวังและคำเตือน

ควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้ กาแฟดิบ

ควรปรึกษากับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ถ้า:

  • ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
  • ใช้ยาอื่นร่วมอยู่ รวมถึงยาที่กำลังใช้ที่สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา
  • มีอาการภูมิแพ้สารใด ๆ ในกาแฟดิบหรือยาอื่น ๆ หรือสมุนไพรอื่น ๆ
  • มีโรค ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
  • มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีย้อมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์

ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์

กาแฟดิบมีความปลอดภัยเพียงใด:

กาแฟดิบนั้นโดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะจากการทดลองรับประทานสารสกัดจากกาแฟดิบ 480 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์

มีผลการทดลองออกมาว่าการรับประทานสารสกัดจากกาแฟดิบในปริมาณ 200 มิลลิกรัม 5 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์นั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ

ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ

สำหรับผู้ตั้งครรภ์และอยู่ในระหว่างการให้นมบุตร: ยังมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยในการใช้กาแฟดิบในผู้ตั้งครรภ์และอยู่ในระหว่างการให้นมบุตรไม่เพียงพอ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการนำมาใช้

สาร Homocysteine มากผิดปกติ: การบริโภคกรด Chlorogenic ในปริมาณมากเป็นระยะสั้นๆอาจทำให้ระดับ plasma homocysteine เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ

โรควิตกกังวล: คาเฟอีนในกาแฟดิบอาจทำให้โรควิตกกังวลแย่ลง

ภาวะเลือดออกผิดปกติ: คาเฟอีนในกาแฟดิบอาจทำให้อาการของภาวะเลือดออกผิดปกติแย่ลง

โรคเบาหวาน: งานวิจัยบางงานชี้ว่า คาเฟอีนในกาแฟดิบอาจเปลี่ยนกระบวนการจัดการน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน มีรายงานว่าคาเฟอีนมีผลต่อการเพิ่มและลดระดับน้ำตาลในเลือด ใช้คาเฟอีนอย่าระมัดระวังหากท่านเป็นเบาหวานและตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างระมัดระวัง

โรคท้องเสีย: ในกาแฟดิบมีคาเฟอีน ซึ่งการรับประทานในปริมาณมากๆ อาจทำให้ท้องเสียหนักขึ้นได้

โรคต้อหิน: การรับประทานคาเฟอีนที่มีในกาแฟดิบ อาจเพิ่มความดันภายในดวงตา ระดับจะเพิ่มขึ้นภายใน 30 นาที และจะคงอยู่อย่างน้อย 90 นาที

ความดันสูง: การรับประทานคาเฟอีนที่มีในกาแฟดิบ อาจเพิ่มความดันโลหิตในผู้ที่เป็นความดันสูง อย่างไรก็ตาม ฤทธิ์ของมันอาจน้อยลงในผู้ที่ได้รับคาเฟอีนจากกาแฟ หรือแหล่งอื่นๆเป็นประจำ

คอเลสเตอรอลสูง: ส่วนประกอบบางประการของกาแฟที่ไม่ได้ผ่านการกรองชี้ว่ามันเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล ส่วนประกอบเหล่านี้ก็สามารถพบได้ในกาแฟดิบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากาแฟดิบจะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลเช่นกัน

ลำไส้แปรปรวน: กาแฟดิบมีคาเฟอีน ซึ่งการรับประทานในปริมาณมากๆ อาจทำให้ท้องเสียหนักขึ้น และอาจทำให้อาการลำไส้แปรปรวนหนักขึ้นได้

โรคกระดูกพรุน: คาเฟอีนจากกาแฟดิบและแหล่งอื่นๆ จะเพิ่มปริมาณแคลเซียมที่ถูกกำจัดออกทางปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้กระดูกบางลง หากท่านเป็นโรคกระดูกพรุน จำกัดปริมาณการบริโภคคาเฟอีน ให้น้อยกว่า 30 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 2-3 ถ้วยปกติต่อวัน) การรับประทานแคลเซียมเสริมอาหารอาจช่วยทดแทนแคลเซียมที่เสียไปได้ สตรีวัยหลังมีประจำเดือนผู้มีโรคทางกรรมพันธุ์ ที่ร่างกายไม่สามารถจัดการวิตามินดีแบบปกติได้ ควรระวังการใช้คาเฟอีนให้มาก

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กาแฟดิบ

กาแฟดิบให้ผลข้างเคียงคล้ายกับผลข้างเคียงจากคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟทั่วไป ได้แก่ อาการนอนไม่หลับ ประหม่า พักผ่อนไม่เพียงพอ ท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้และอาเจียน เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ และผลข้างเคียงอื่นๆ การบริโภคกาแฟในปริมาณมากอาจทำให้ปวดหัว วิตกกังวล กระสับกระส่าย มีเสียงอื้อในหู และหัวใจเต้นไม่ปกติ

ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และอาจจะมีอาการของผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้นหากกังวลเรื่องผลข้างเคียง ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์

ปฏิกิริยาระหว่างยา

ปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กาแฟดิบ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรชนิดนี้อาจมีผลต่อยาหรือพยาธิสภาพในปัจจุบัน ควรปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้งาน

ปริมาณการใช้

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดในการใช้กาแฟดิบโดยปกติอยู่ที่เท่าไหร่

ปริมาณการใช้กาแฟดิบอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ปริมาณยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ผู้ทำการรักษาสำหรับปริมาณที่เหมาะสม

กาแฟดิบมีจำหน่ายในรูปแบบใด

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรนี้อาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:

  • กาแฟดิบสด
  • สากสกัดจากกาแฟดิบรูปแบบแคปซูล

 

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Ploylada Prommate · แก้ไขล่าสุด 31/07/2020

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา