backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

รำข้าวสาลี (Wheat Bran)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Ploylada Prommate · แก้ไขล่าสุด 12/05/2020

รำข้าวสาลี (Wheat Bran)

สรรพคุณของรำข้าวสาลี

ข้าวสาลี (Wheat) เป็นพืชชนิดนึง เปลือกด้านนอกของเมล็ดข้าว (รำ) ใช้ในการทำเป็นยารักษาโรค

รำข้าวสาลี (Wheat bran) ใช้เป็นแหล่งของเส้นใยอาหารเพื่อป้องกันโรคดังต่อไปนี้

  • โรคลำไส้ใหญ่ (เช่น โรคมะเร็ง)
  • มะเร็งกระเพาะอาหาร
  • มะเร็งเต้านม
  • โรคถุงน้ำดี
  • โรคริดสีดวงทวารและไส้เลื่อน

นอกจากนี้ยังใช้สำหรับการรักษา

  • อาการท้องผูก
  • อาการลำไส้แปรปรวน (IBS)
  • คอเลสเตอรอลสูง
  • ความดันโลหิตสูง
  • เบาหวานชนิดที่ 2

กลไกการออกฤทธิ์

ไม่มีข้อมูลทางการศึกษาเพียงพอเกี่ยวกับการใช้อาหารเสริมสมุนไพรนี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ มีรายงานว่า รำข้าวสาลีช่วยแก้ปัญหาท้องผูก โดยการเร่งลำไส้ใหญ่ให้มีการระบาย

ข้อควรระวังและคำเตือน

ปรึกษากับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของคุณในกรณี

  • กำลังตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะเป็นช่วงที่ควรใช้ยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
  • กำลังใช้ยาประเภทอื่น รวมถึงยาทุกชนิดที่ไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์
  • แพ้สารที่อยู่ในรำข้าวสาลี หรือยาและสมุนไพรอื่นๆ
  • มีอาการป่วย ความผิดปกติ หรือ พยาธิสภาพ
  • เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีย้อม แพ้สารกันบูด หรือแพ้สัตว์

ข้อกำหนดในการใช้อาหารเสริมสมุนไพรมีความเข้มงวดน้อยกว่าการใช้ยาทั่วไป แต่ควรศึกษาให้รอบคอบ เพื่อรับรองความปลอดภัยของการใช้สมุนไพร ว่าควรเกิดคุณประโยชน์มากกว่าอันตราย และควรปรึกษาแพทย์หรือหมอสมุนไพรเพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ความปลอดภัยในการใช้รำข้าวสาลี

รำข้าวสาลีมีความปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่

ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ

หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร : รำข้าวสาลีน่าจะปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร

ผลข้างเคียง

รำข้าวสาลีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น

รำข้าวสาลีทำให้เกิดก๊าซ (ท้องอืด) และไม่สบายท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนและอาจมีอาการจากผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือ แพทย์

ปฏิกิริยาระหว่างการใช้ยา

รำข้าวสาลี อาจมีปฏิกิริยากับยาหรืออาการทางการแพทย์ปัจจุบันของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้

ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยาหรือสภาวะทางการแพทย์รำข้าวสาลี ได้แก่ Digoxin

รำข้าวสาลีมีเส้นใยสูง และสามารถลดการดูดซึมและลดประสิทธิภาพของ ดิออกซิน ตามปกติแล้ว ควรรับประทานยาดังกล่าว 1 ชั่วโมงก่อนรำข้าวสาลี หรือหลังรำข้าวสาลี 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยานี้

ปริมาณการใช้ยา

ข้อมูลนี้ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือแพทย์ของคุณก่อนที่จะใช้ยานี้

ปริมาณการใช้ยาทั่วไปสำหรับรำข้าวสาลี

ปริมาณการใช้ยาต่อไปนี้ได้รับการศึกษาในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์

การรับประทาน :

  • สำหรับท้องผูก : รำข้าวสาลี 20-25 กรัม ต่อวัน การรับประทาน 40 กรัมต่อวันไม่มีประสิทธิภาพเท่าการรับประทาน 20 กรัมต่อวัน
  • สำหรับการรักษาอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) : รำข้าวสาลี 30 กรัมต่อวัน นาน 12 สัปดาห์
  • ความดันโลหิตสูง : แป้งข้าวสาลีธัญพืช แป้งสาลีและข้าวกล้อง 3-6 กรัมรวมกับอาหารขั้นที่ 1 ของสูตรคลอเรสเตอรอลแห่งชาติ

มีการตั้งค่าปริมาณการใช้ยา : ไอดี (ไอ) ที่เพียงพอสำหรับการบริโภคเส้นใยอาหารต่อวัน สำหรับเด็ก 1-3 ปี จำนวน AI มีขนาด 19 กรัม ; สำหรับเด็ก 4-8 ปี จำนวน AI 25 กรัม สำหรับเด็กชายอายุ 9-13 ปีจำนวน AI เท่ากับ 31 กรัม ; สำหรับเด็กชาย 14 ถึง 18 ปี จำนวน AI 38 กรัม สำหรับเด็กสาวอายุ 9-18 ปี จำนวน AI มีขนาด 26 กรัม สำหรับผู้ชายอายุ 19-50 ปี จำนวน AI มีขนาด 38 กรัมและ สำหรับผู้ชายอายุมากกว่า 51 ปี จำนวน AI 30 กรัม สำหรับสตรีอายุระหว่าง 19-50 ปี จำนวน AI มีขนาด 25 กรัมและ สำหรับผู้หญิงอายุมากกว่า 51 ปี จำนวน AI 21 กรัม สำหรับหญิงตั้งครรภ์ จำนวน AI เท่ากับ 28 กรัมและ 29 กรัมสำหรับสตรีที่ให้นมบุตร และยังไม่มีการตั้งค่า AI สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี

ระดับไอดีด้านบนที่ยอมรับได้ (UL) ยังไม่มีการตั้งค่าสำหรับการบริโภคเส้นใยระดับสูงที่สุดโดยปราศจากผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

ผู้ป่วยแต่ละคนอาจใช้สมุนไพรชนิดนี้ในปริมาณที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และอาการอื่นๆ สมุนไพรไม่ได้รับรองความปลอดภัยเสมอไป ควรสอบถามแพทย์สำหรับปริมาณการใช้ที่เหมาะสมกับตนเอง

รูปแบบของข้าวสาลี

รำข้าวสาลีอาจมีอยู่ในรูปแบบยาต่อไปนี้

  • รำข้าวสาลีบริสุทธิ์
  • ผลิตภัณฑ์อาหาร

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Ploylada Prommate · แก้ไขล่าสุด 12/05/2020

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา