backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ออริกาโน (Oregano)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Ploylada Prommate · แก้ไขล่าสุด 08/12/2017

การใช้

ออริกาโนใช้ทำอะไร

ออริกาโนใช้รักษาอาการ:

  • ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคกล่องเสียงหรือหลอดลมใหญ่อักเสบ และโรคหลอดลมอักเสบ
  • โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการแสบร้อนกลางอก และท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • อาการปวดประจำเดือน
  • โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
  • ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • อาการปวดศีรษะและโรคหัวใจ

น้ำมันออริกาโนมีประสิทธิภาพในการรักษาพยาธิในลำไส้ อาการแพ้ ไซนัส โรคปวดข้อ ไข้หวัดทั่วไป ไข้หวัดใหญ่ อาการปวดหู และอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย

ใช้ทาบริเวณผิวหนังเพื่อรักษาสิว โรคน้ำกัดเท้า ผิวมัน รังแค แผลร้อนใน โรคหูด กลากเกลื้อน โรคโรซาเซียและโรคสะเก็ดเงิน รวมไปถึงบรรเทาอาการจากแมลง สัตว์กัดต่อย โรคปริทันต์ ปวดฟัน เจ็บกล้ามเนื้อและเส้นเลือดขอด และยังใช้ทาบริเวณผิวหนังเพื่อป้องกันแมลง

ผลที่ได้

ออริกาโน่มีสารที่ช่วยบรรเทาอาการไอและอาการชัด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารและต่อสู้กับแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา พยาธิในลำไส้ และปริสิตต่างๆ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร

 

ข้อควรระวังและคำเตือนการใช้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ออริกาโน่

ควรปรึกษาหรือพบกับแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:

  • หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
  • อยู่ในระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
  • หากเคยมีประวัติแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งของออริกาโน่หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ
  • หากมีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือสภาพทางการแพทย์อื่นๆ
  • หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์
  • กฎระเบียบสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรนี้ต้องมีมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์

    ออริกาโน่ปลอดภัยหรือไม่

    หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร: ออริกาโน่ปลอดภัยสำหรับการรับประทานระหว่างการตั้งครรภ์ แต่อาจมีข้อกังวลในการรับประทานปริมาณมากอาจทำให้เกิดการแท้งบุตรได้ และยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับประทานออริกาโน่ในช่วงให้นมบุตร

    การผ่าตัด: ออริกาโน่อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเลือดออกผิดปกติ ควรหยุดรับประทานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

    ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ออริกาโน่

    เมื่อรับประทานออริกาโน่อาจทำให้มีอาการปากแห้ง

    จากอาการผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาแพทย์

     

    ปฏิกิริยาระหว่างกันของยา

    ปฏิกิริยาที่จะได้รับเมื่อใช้ยาอื่นควบคู่กับออริกาโน่

    ออริกาโน่อาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้อยู่ควบคู่กัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้

    ยาบางชนิดที่อาจมีปฏิกิริยากับออริกาโน่ เช่น:

    ลิเทียม:

    ออริกาโน่อาจมีประสิทธิภาพคล้ายกับยาขับน้ำหรือยาขับปัสสาวะ การรับประทานออริกาโน่อาจทำให้ปริสิทธิภาพในการกำจัดลิเทียมดีขึ้น และอาจส่งผลข้างเคียงรุนแรงต่อร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาลิเทียม

     

    ยาต้านเบาหวาน:

    ออริกาโน่อาจมีประสิทธิภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือด เช่นเดียวกับยาต้านเบาหวาน ในทางทฤษฎี เมื่อรับประทานทั้งสองร่วมกันอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงจนเกินไป ควรตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนปริมาณยาต้านเบาหวานให้เหมาะสม

    ยาต้านเบาหวาน เช่น glimepiride (Amaryl), glyburide (DiaBeta, Glynase PresTab, Micronase), insulin, metformin (Glucophage), pioglitazone (Actos), rosiglitazone (Avandia) และอื่นๆ

    ยาต้านการแข็งตัวของเลือด:

    ออริกาโน่อาจมีประสิทธิภาพในการชะลกการแข็งตัวของเลือด ในทางทฤษฎี เมื่อรับประทานทั้งสองร่วมกัน อาจทำให้มีอาการฟกช้ำและเลือดออกได้ง่าย

    ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น aspirin, clopidogrel (Plavix), dabigatran (Pradaxa), dalteparin (Fragmin), enoxaparin (Lovenox), heparin, warfarin (Coumadin) และอื่นๆ

    ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้:

    ภาวะเลือดออกผิดปกติ:

    ออริกาโน่อาจเพิ่มความเสี่ยงในผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ

    อาการแพ้:

    ออริกาโน่อาจมีปฏิกิริยาในผู้แพ้พืชในวงศ์กะเพรา เช่น กะเพรา ฮิสซอพ ลาเวนเดอร์ มาร์จอรัม โหระพาและเสจ

    โรคเบาหวาน:

    ออริกาโน่อาจมีประสิทธิภาพช่วยให้น้ำตาลในเลือดลดลง ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรใช้ออริกาโน่อย่างระมัดระวัง

     

    ขนาดยา

    ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ

    ขนาดปกติของการใช้ออริกาโน่อยู่ที่เท่าไร

     

    ปรสิตในลำไส้:

    รับประทานน้ำมันออริกาโน่ในปริมาณที่แนะนำคือ 200 มิลลิลิตร 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 6 สัปดาห์

    น้ำชาควรใช้ออริกาโน่สดหรืออบแห้ง ปริมาณ 1-2 ช้อนชา หรือประมาณ 5-10 กรัม ชงในน้ำร้อน ทิ้งไว้ 10 นาที แนะนำให้ดื่ม 3 ครั้งต่อวัน

    เมื่อนำน้ำมันออริกาโน่ทาบริเวณผิวจะช่วยรักษาอาการน้ำกัดเท้า การติดเชื้อหรือเชื้อราอื่นๆ โดยเจือจางประมาณ 50% นำมาทาบริเวณที่มีอาการ 2 ครั้งต่อวัน

    ปริมาณการออริกาโน่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ป่วย ซึ่งปริมาณยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทาน

    ออริกาโน่มีจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง

    ออริกาโน่อาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:

    • ออริกาโน่ชนิดเม็ดและแคปซูล
    • ชาออริกาโน่
    • น้ำมันออริกาโน่

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ วินิจฉัย หรือการรักษาแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย Ploylada Prommate · แก้ไขล่าสุด 08/12/2017

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา