backup og meta

น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง เลือกแบบไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 22/03/2021

    น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง เลือกแบบไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ

    คุณผู้อ่านทุกท่านคงจะคุ้นเคยทั้ง น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากสีสันที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างน้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดงบางประการที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ และวันนี้ Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ

    น้ำตาลทรายมีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่

    น้ำตาลทราย คือ น้ำตาลซูโครส (Sucrose) ที่มีผลึกสีขาวหรือสีน้ำตาล มีขนาดเล็ก ซึ่งเราอาจคุ้นเคยทั้งสองสี คือ สีขาวและสีน้ำตาล หรือที่อาจจะเรียกติดปากกันว่าน้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง ซึ่งทำหน้าที่ให้ความหวานในเมนูอาหารต่าง ๆ ที่เรารับประทานกันในชีวิตประจำวัน 

    โดยมากแล้วเมื่อนึกถึง น้ำตาลเราก็มักจะมองเห็นข้อเสียของการรับประทานน้ำตาลเต็มไปหมด ทั้งเป็นสาเหตุของโรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น น้ำตาลก็ยังพอมีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่บ้าง แม้จะไม่มากมายเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าไม่ควรมองข้ามเสียทีเดียว เช่น 

    ในบางครั้งร่างกายก็จำเป็นต้องได้รับ น้ำตาลเพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย เนื่องจากกลูโคส (Glucose) เป็นอีกหนึ่งแหล่งพลังงานของร่างกาย และการที่จะสามารถผลิตกลูโคสได้นั้นก็จำเป็นต้องอาศัยทั้งน้ำตาลแบบซูโครส ฟรุกโตส (Fructose) และกลูโคสมาร่วมกระบวนการด้วย เมื่อน้ำตาลทั้งสามชนิดเกิดการแตกตัว ร่างกายก็จะทำการแยกโมเลกุลทั้งสามออกจากกัน โดยมีอินซูลินทำหน้าที่ในการลำเลียงน้ำตาลเหล่านี้ไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อนจะถูกเผาผลาญเป็นพลังงานให้กับร่างกาย 

    นอกจากนี้เรายังอาจเคยได้ยินว่าการกิน น้ำตาล มีส่วนช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น เนื่องจากเมื่อรับประทานน้ำตาลเข้าไปแล้ว สมองจะปล่อยสารสื่อประสาทชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โดพามีน (Dopamine) ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้

    ความแตกต่างระหว่าง น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง

    แม้น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดงจะจัดว่าเป็นน้ำตาลเหมือนกัน มีรูปลักษณ์ที่เหมือนกัน แต่แตกต่างกันชัดเจนในเรื่องของสี ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว น้ำตาล ทั้งสองชนิดนี้ยังมีจุดที่แตกต่างกันอยู่บางประการ ดังนี้

    น้ำตาล ทั้งสองผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน

    ในกระบวนการผลิตน้ำตาลนั้นอาจมีที่มาจากพืชชนิดเดียวกัน เช่น อ้อย แต่ในกระบวนการผลิตอาจมีความแตกต่างกัน น้ำตาลทรายขาวจะผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Purifying process หรือการทำให้บริสุทธิ์ โดยจะทำการกำจัดกากน้ำตาล (Molasses) ออกไปทำให้ น้ำตาล เหลือแต่ก้อนผลึกสีขาว

    จากนั้นจึงจะผ่านกระบวนการกรองอีกครั้งหนึ่ง ส่วนน้ำตาลทรายแดงจะผ่านกระบวนการในการผลิตน้อยเพื่อที่จะได้รักษาปริมาณของกากน้ำตาลเอาไว้ โดยจะนำเอาน้ำตาลทรายขาวมาผสมกับกากน้ำตาล น้ำตาลจึงมีสีออกน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม หรือที่เรียกว่าน้ำตาลทรายแดง

    คุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกัน

    ในกระบวนการผลิตของน้ำตาลทั้งสองชนิดนั้น น้ำตาลทรายแดงจะมีการนำน้ำตาลทรายขาวไปผสมกับกากน้ำตาล ซึ่งกากน้ำตาลนั้นนอกจากจะเพิ่มสีให้กับน้ำตาลทรายแล้ว ก็ยังเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารมากขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งเมื่อนำน้ำตาลทรายแดงมาเปรียบเทียบกับน้ำตาลทรายขาวที่ไม่ได้ถูกนำมาผสมกับกากน้ำตาลจะพบว่า น้ำตาลทรายแดงให้แคลอรีน้อยกว่าน้ำตาลทรายขาวเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับ น้ำตาล ทั้งสองชนิดในขนาด 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายขาวจะให้ 16.3 แคลอรี ขณะที่น้ำตาลทรายแดงให้เพียง 15 แคลอรีเท่านั้น นอกจากนี้ในน้ำตาลทรายแดงยังมีแคลเซียมและโพแทสเซียมในปริมาณที่มากกว่าน้ำตาลทรายขาวอีกด้วย

    น้ำตาลทรายแดงดีกว่าน้ำตาลทรายขาวจริงหรือ

    หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าเพื่อการมีสุขภาพดีให้เลือกกินน้ำตาลทรายแดง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหากจะพูดเช่นนั้นก็ไม่ผิดเท่าไหร่นัก เพราะกากน้ำตาลในน้ำตาลทรายแดงนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารจำพวก แมกนีเซียม แคลเซียม โพแทสเซียมในปริมาณที่มากกว่าน้ำตาลทรายขาว เนื่องจากน้ำตาลทรายขาวนั้นไม่มีกากน้ำตาลที่มีสารอาหารอยู่เลย

    อย่างไรก็ตาม ปริมาณสารอาหารที่น้ำตาลทรายแดงมีมากกว่านั้น ก็เป็นปริมาณที่มากกว่าเพียงแค่เล็กน้อย จนอาจกล่าวได้ว่าไม่ได้มากพอสำหรับความต้องการของร่างกายในแต่ละวันเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง จุดประสงค์ก็เพียงเพิ่มความหวานให้กับรสชาติอาหารเป็นหลัก และไม่ได้มีผลดีต่อสุขภาพที่มากกว่าหรือแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดจนต้องฟันธงให้เลือกรับประทานเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผู้บริโภคสามารถเลือกรับประทานตามความชอบหรือรสนิยมของผู้บริโภคได้เลย

    ควรรับประทานน้ำตาลเท่าไหร่จึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพ

    ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า น้ำตาล ทั้งสองชนิดไม่ได้สร้างความแตกต่างในแง่ของการสร้างสุขภาพดีมากนัก ดังนั้นจึงสามารถเลือกรับประทานน้ำตาลชนิดใดก็ได้ตามใจชอบ แต่…ควรจะต้องอยู่ในระดับที่พอดี และไม่ควรจะมากเกินไป เพราะการรับประทานน้ำตาลที่มากจนเกินไป อาจเป็นสาเหตุของความเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือระดับน้ำตาลในเลือดสูง เป็นต้น ซึ่งนั่นทำให้สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American Heart Association หรือ AHA) ได้แนะนำหลักในการรับประทานน้ำตาลอย่างเหมาะสมเอาไว้ว่า 

    • สำหรับผู้หญิง ควรจะรับประทาน น้ำตาล ในปริมาณ 100 แคลอรีต่อวัน หรือประมาณ 6 ช้อนชา (25กรัม) 
    • สำหรับผู้ชาย ควรจะรับประทาน น้ำตาล ในปริมาณ 150 แคลอรีต่อวัน หรือประมาณ 9 ช้อนชา (36กรัม)

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 22/03/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา