backup og meta

หลากหลายเรื่องราวของ ขนในที่ลับ ที่คุณควรรู้ให้กระจ่าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 12/10/2023

    หลากหลายเรื่องราวของ ขนในที่ลับ ที่คุณควรรู้ให้กระจ่าง

    เส้นขนปกคลุมอยู่บนผิวหนังของคนเราแทบทุกส่วน ทั้งส่วนที่สังเกตได้ง่าย เช่น แขน ขา ใบหน้า ศีรษะ ไปจนถึงบริเวณใต้ร่มผ้า อย่างบริเวณอวัยวะเพศ เราสามารถพูดคุยเรื่องขนแขน ขนหน้าแข้ง หนวด เส้นผมบนหนังศีรษะกันได้อย่างเปิดเผย แต่เมื่อเอ่ยถึง ขนในที่ลับ หรือขนตรงจุดซ่อนเร้น กลับทำให้หลายคนอายม้วนต้วน แม้จะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขนตรงส่วนนั้นมากแค่ไหนก็ไม่กล้าเปิดปากถามใคร แต่อย่าเพิ่งเป็นกังวล เพราะ Hello คุณหมอ จะมาช่วยคุณไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ให้กระจ่าง ใครที่สงสัยว่าขนตรงนั้นมีไว้ทำอะไร ต้องดูแลรักษาอย่างไรจึงจะถูกต้อง ถ้ากำจัดขนทิ้งแล้วจะมีผลเสียไหม เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว

    ขนในที่ลับ มีไว้ทำไม

    ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ไม่ได้มีไว้ให้เรารำคาญเล่น แต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้

    ช่วยลดการเสียดสี

    ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศนั้นค่อนข้างบอบบาง ขนบริเวณอวัยวะเพศ จึงทำหน้าที่เสมือนปราการป้องกันที่ช่วยลดการเสียดสีระหว่างที่คุณทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมทางเพศ

    ช่วยป้องกันแบคทีเรีย

    ขนบริเวณอวัยวะเพศ มีหน้าที่ไม่แตกต่างจากขนตา หรือขนจมูก นั่นคือ ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก และจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายของเราได้ นอกจากนี้ รูขุมขนยังผลิตซีบัม ซึ่งเป็นน้ำมันที่ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น และช่วยป้องกันการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรีย จึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่นๆ เช่น โรคเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) การติดเชื้อยีตส์ หรือเชื้อรา

    ช่วยกระตุ้นอารมณ์

    รูขุมขนของ ขนบริเวณอวัยวะเพศ จะมีปลายเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก การโกนหรือถอนขนบริเวณนี้ออกไปจนเกลี้ยง จึงถือเป็นการทำลายสิ่งกระตุ้นอารมณ์ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการทำกิจกรรมทางเพศของคุณได้ อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังเชื่อว่า ขนบริเวณอวัยวะเพศ เป็นเครื่องมือกระจายฟีโรโมน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ต่ออารมณ์และพฤติกรรม ผลิตจากต่อมที่เรียกว่า ต่อมเหงื่ออโพไคลน์ (Apocrine Sweat Gland) พบได้ในบางตำแหน่งของร่างกาย เช่น รักแร้ รอบทวารหนัก รวมถึงบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อฟีโรโมนหลั่ง ก็จะช่วยดึงดูดเพศตรงข้าม และกระตุ้นอารมณ์ให้คู่รักของเราด้วย

    ช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกาย

    รูขุมขนของขนบริเวณอวัยวะเพศช่วยระบายเหงื่อและความร้อน อีกทั้งซีบัมที่ผลิตออกมายังช่วยทำให้อวัยวะเพศอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกับการตื่นตัวทางเพศ หรืออารมณ์ทางเพศของเราด้วย

    ทำไมบางคนถึงมี ขนในที่ลับ เยอะกว่าคนอื่น

    การเจริญเติบโตของเส้นขนบริเวณอวัยวะเพศของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนมีขนดก กระจายวงกว้าง ในขณะที่บางคนก็อาจมีขนแค่บาง ๆ เป็นหย่อม ๆ เท่านั้น ลักษณะของขนบริเวณอวัยวะเพศที่หลากหลายนี้ถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงระบบฮอร์โมนในร่างกายของแต่ละคน

    ผู้หญิงคนไหนมีขนตรงจุดซ่อนเร้นเยอะมากจนผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome หรือ PCOS) ทำให้มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศที่มีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นขนสูงกว่าปกติ ขนจึงขึ้นดกดำกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ในทางกลับกัน หากผู้ชายมีขนบริเวณอวัยวะเพศบาง ก็อาจหมายถึงร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ต่ำกว่าปกติ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ขนน้อยกว่าผู้ชายคนอื่น แต่ยังทำให้ความต้องการทางเพศต่ำ หรือหย่อนสมรรภาพทางเพศได้ด้วย

    ฉะนั้น หากคุณรู้สึกว่ามีขนบริเวณอวัยวะเพศดกดำ หรือมีน้อยมากกว่าที่ควรจะเป็น และมีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็ควรไปพบคุณหมอ เพื่อจะได้รักษาให้เหมาะสม

    เหตุผลที่ทำให้บางคนเลือกกำจัด ขนบริเวณอวัยวะเพศ

    ส่วนใหญ่ ที่คนเลือกกำจัด ขนบริเวณอวัยวะเพศ อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยเหล่านี้

    ความชอบส่วนบุคคล

    บางคนเลือกกำจัดขนตรงจุดซ่อนเร้นทิ้งเพราะชอบแบบนั้นมากกว่า ทำแล้วรู้สึกสบาย และทำให้มั่นใจเวลาทำกิจกรรมทางเพศมากกว่า

    ทำตามความต้องการของคู่รัก

    ผลสำรวจจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2013 พบว่า 21.1% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม จำกัดขนตรงจุดซ่อนเร้น เพื่อเอาใจคู่รักของตน แต่ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้น เพราะผลสำรวจพบว่า จำนวนผู้ชายที่เลือกกำจัดขนตรงจุดซ่อนเร้นเพื่อคนรัก ก็แทบไม่ต่างจากผู้หญิงเลย

    ช่วยกระตุ้นอารมณ์

    บางคนเชื่อว่า การกำจัด ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ช่วยเพิ่มอารมณ์ทางเพศ และทำให้สุขสมขึ้นเวลามีเพศสัมพันธ์

    ความเสี่ยงสุขภาพจากการกำจัด ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น

    การบาดเจ็บ

    ความเสี่ยงสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปเวลาโกนขนตรงจุดซ่อนเร้น ก็คือ อาการบาดเจ็บ ผลการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในปี 2017 เผยว่า 25.6 % ของผู้ที่โกนขนตรงจุดซ่อนเร้น มีอาการบาดเจ็บในระหว่างโกนขนและหลังโกนขน ซึ่งอาการบาดเจ็บที่พบมากที่สุด ได้แก่ มีดโกนบาด รองลงมาคือ อาการแสบร้อน และผื่นคัน

    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

    ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2017 จากประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า ผู้ที่กำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นมีความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในเทียม การติดเชื้อเอชไอวี โรคเริม โรคซิฟิลิส การติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus : HPV) หูดข้าวสุก (Molluscum Contagiosum)

    ฝี และขนคุด

    การกำจัดขน เช่น การโกน การแว็กซ์ขน อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง และติดเชื้อ จนเกิดเป็นฝี (Abscess) ลักษณะเป็นก้อนสีแดง หรือตุ่มหนองลึกลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เจ็บปวด บวม แดง อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดขนคุด ที่นำไปสู่อาการผิวหนังอักเสบติดเชื้อได้ด้วย

    การติดเชื้อ

    ขนตรงจุดซ่อนเร้นช่วยดักจับเชื้อโรค ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เมื่อเรากำจัดขนตรงจุดซ่อนเร้นออกไป ก็จะทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งหลังกำจัดขน ผิวหนังในบริเวณนั้นอาจระคายเคือง จนนำไปสู่การติดเชื้อ เช่น รูขุมขนอักเสบ เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ หรือหากคุณเกิดอุบัติเหตุระหว่างโกนขน เช่น มีดโกนบาด ก็อาจทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน

    จะเก็บขนน้องไว้ หรือกำจัดทิ้ง ก็ทำให้ดีต่อสุขภาพได้

    วิธีโกน ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น อย่างปลอดภัย

    • ใช้กระจกพกพา จะได้มองเห็นส่วนที่ต้องการโกนขนง่ายขึ้น
    • ล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันเชื้อโรค เช่น แบคทีเรียแพร่กระจาย จนบริเวณนั้นติดเชื้อ
    • ก่อนโกนขน ควรเล็มขนออกให้ได้มากที่สุด
    • นอนแช่น้ำอย่างน้อย 5 นาที หรือทำให้ขนบริเวณนั้นเปียกชุ่มเสียก่อน ผิวและเส้นขนจะได้นุ่ม ทำให้โกนขนได้ง่ายขึ้น
    • ทาผลิตภัณฑ์ช่วยลดการระคายเคือง เช่น เจลว่านหางจระเข้ ครีมโกนหนวด ในบริเวณที่ต้องการกำจัดขน
    • มีดโกนที่ใช้โกนขนตรงจุดซ่อนเร้นต้องคม ห้ามใช้ใบมีดทื่อ หากเป็นไปได้ ควรเปลี่ยนใบมีดใหม่ทุกครั้ง หรือเลือกใช้มีดโกนแบบมีแถบเพิ่มความชุ่มชื้น
    • ใช้มือข้างหนึ่งดึงผิวหนังบริเวณที่ต้องการให้ตึงขึ้น แต่อย่าดึงแรงเกินไป
    • ค่อย ๆ โกนขนตามแนวรูขุมขนอย่างเบามือ
    • โกนขนเสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยน้ำอุ่น และซับให้แห้ง
    • ทาเบบี้ออยล์ หรือเจลว่านหางจระเข้ แต่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม และแอลกอฮอล์
    • ช่วง 2-3 วันหลังโกนขนตรงจุดซ่อนเร้น คุณไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าหรือชุดชั้นในที่คับแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นระคายเคือง หรืออักเสบได้
    • ใช้ใยบวบสครับเบา ๆ เป็นประจำ เพื่อขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว

    วิธีดูแล ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ให้สะอาดอยู่เสมอ

    หากคุณชอบแบบธรรมชาติ ไม่อยากกำจัดขนบริเวณนั้นออกไปด้วยวิธีการที่เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น การโกน การแว็กซ์ขน การเลเซอร์ คุณก็สามารถรักษาความสะอาดขนได้ ด้วยวิธีง่าย ๆ ต่อไปนี้

    • ไม่ใช้สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะอาจทำให้ค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือค่า pH ของจุดซ่อนเร้นเสียความสมดุลได้
    • หากเป็นผู้หญิง หลังปัสสาวะเสร็จแล้ว ควรซับทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง
    • ระวังอย่าให้บริเวณจุดซ่อนเร้นอับชื้น ต้องรักษาความสะอาดให้ดี และเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ
    • หากรู้สึกว่าขนบริเวณจุดซ่อนเร้นยาวเกินไป ก็สามารถเล็มออกได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 12/10/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา