backup og meta

อาหารที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบภูมิคุ้มกัน ที่รู้แล้วก็ไม่ควรกินบ่อยๆ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 16/06/2020

    อาหารที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบภูมิคุ้มกัน ที่รู้แล้วก็ไม่ควรกินบ่อยๆ

    ระบบภูมิคุ้มกัน เป็นระบบในร่างกายซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายให้มีความแข็งแรง ไม่ให้ถูกทำลายเมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามา และถ้าระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงก็สามารถสังเกตได้ว่าจะไม่ค่อยมีอาการเจ็บป่วยบ่อยๆ แต่…ไม่ใช่ว่า ทุกคนที่จะมีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงไปตลอด เพราะบางครั้งเราอาจจะกำลังทำร้ายระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงที่มาจากการรับประทานอาหาร วันนี้ Hello คุณหมอ มีรายการ อาหารที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบภูมิคุ้มกัน มาฝากค่ะ มาดูกันว่าถ้าอยากมีสุขภาพดีควรจะต้อง งด ลด และเลี่ยงอาหารแบบไหนบ้าง

    อาหารที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีอะไรบ้าง

    1. อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล

    ใครเลยจะอดใจจากความหวานฉ่ำได้ ถูกไหมคะ? แน่นอนว่าค่อนข้างที่จะยากมากๆ สำหรับหลายๆ คน หากจะต้องเลิกรับประทานหวาน แต่อาหารที่มีรสหวานย่อมมีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งการรับประทานน้ำตาลในปริมาณมากๆ หรือติดต่อกันเป็นประจำ เสี่ยงที่จะทำให้ ระบบภูมิคุ้มกัน เริ่มอ่อนแอลง จนกระทั่งเกิดโรคร้ายตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคตับ โรคมะเร็ง เป็นต้น

    2. อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว

    ไขมันอิ่มตัว (Saturated fats) คือ ไขมันที่ส่วนใหญ่จะได้จากเนื้อสัตว์ มักอยู่ในอาหารจำพวก พิซซ่า ชีส พาสต้า เป็นต้น การรับประทานอาหารที่มีปริมาณของไขมันอิ่มตัวในระดับที่มากเกินความต้องการของร่างกาย เสี่ยงที่จะมีผลข้างเคียงกับ ระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจด้วย

    3. อาหารที่มีไขมันทรานส์

    ไขมันทรานส์ (Trans fat) เป็นส่วนประกอบอยู่ในเมนูอาหารหลายชนิดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ โดนัท แครกเกอร์ ขนมขบเคี้ยว และอาหารที่มีส่วนผสมของมาการีน หรือเนยเทียม

    การรับประทานไขมันทรานส์เข้าไปมากๆ เสี่ยงที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ จนเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น คอเลสเตอรอลสูง โรคหัวใจ เป็นต้น ฉะนั้น ก่อนที่จะรับประทานอะไร ควรจะเช็กให้ดีเสียก่อนว่า มีไขมันทรานส์มากหรือน้อยเพียงใด และถ้าหากเลี่ยงได้ก็ควรจะต้องเลี่ยง

    4. อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า6

    เวลาพูดถึงกรดไขมันโอเมก้า หรือโอเมก้า (Omega) แน่นอนว่าเรามักจะนึกถึงคุณประโยชน์ในแง่ของการมีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมองอย่าง

    • กรดไขมันโอเมก้า3 (Omega-3) ที่มีอยู่ในอาหารจำพวกปลา
    • กรดไขมันโอเมก้า6 (Omega-6) ที่พบได้ในอาหารประเภท น้ำมันจากพืชหรือเมล็ดของพืช เช่น น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย รวมถึงน้ำสลัด และมายองเนสด้วย

    ซึ่งแน่นอนว่าการรับประทานกรดไขมันโอเมก้า6 ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย มีส่วนช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย แต่…หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือมีการค้นพบว่าร่างกายมีระดับของกรดไขมันโอเมก้า6ในปริมาณที่สูง เมื่อนั้น ระบบภูมิคุ้มกัน ก็เริ่มที่จะมีปัญหา เพราะสารโอเมก้า6จะไปลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันลง อาจทำให้ร่างกายมีการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น

    5. อาหารที่ทำมาจากคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี

    แน่นอนว่าคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานที่เพียงพอ รวมถึงยังช่วยในการกักเก็บโปรตีนเอาไว้ใช้เป็นพลังงานอีกด้วย แต่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรตทุกชนิดจะมีแต่ประโยชน์ไปเสียหมด

    คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี เช่น ขนมปังขาว ลูกอม พาสต้า ซีเรียล คุกกี้ ขนมหวาน น้ำอัดลม ผลิตภัณฑ์จากแป้ง เป็นต้น อาจไม่ได้ให้คุณค่าทางอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังแฝงเอาโทษมาอีกด้วย

    เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีมาแล้วจะถูกกำจัดเอาส่วนที่เป็นไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ออกไป เมื่อขาดไฟเบอร์ที่ให้ประโยชน์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดีต่อแบคทีเรียในลำไส้ จึงไปเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วน ลำไส้อักเสบ และเสี่ยงที่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นด้วย

    6. อาหารจำพวกเนื้อแปรรูป

    อาหารที่ทำมาจากเนื้อแปรรูปที่เราคุ้นเคยกันดีในทุกวัน ก็ได้แก่ เบคอน แฮม ไส้กรอก เนื้อรมควัน หรือเนื้อตากแห้ง เป็นต้น โดยอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์แปรรูปเหล่านี้จะมีสาร Advanced Glycation End Products หรือ AGEs ในปริมาณที่สูงกว่าเนื้อทั่วๆ ไป ซึ่งสารดังกล่าวจะมีผลต่อการทำงานของ ระบบภูมิคุ้มกัน และเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

    7. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

    ถ้าหากพูดถึงเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์ ก็สามารถที่จะสรุปได้เกือบจะทันทีว่ามีแต่ผลเสียต่อสุขภาพ เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ นั้น มีผลทำให้ตับทำงานมากจนเกินไป รบกวนการทำงานของอวัยวะอื่นๆ รวมถึง ระบบภูมิคุ้มกัน ด้วย และยังเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นสารพิษกับแบคทีเรียในลำไส้ ที่จะทำให้เกิดอาการลำไส้รั่วได้

    8. เครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม

    น้ำอัดลมนั้นให้ทั้งความสดชื่น ความเย็นฉ่ำ และหวานชื่นใจต่อผู้ที่ดื่ม แต่ผลการวิจัยมักจะพบว่า การบริโภคเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมเข้าไปมากๆ เสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 16/06/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา