backup og meta

อาหารที่ช่วยต่อสู้อาการ อ่อนเพลีย ได้แบบเร่งด่วน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    อาหารที่ช่วยต่อสู้อาการ อ่อนเพลีย ได้แบบเร่งด่วน

    อาการ อ่อนเพลีย อาจเกิดขึ้นได้เมื่อนอนน้อย นอนไม่พอ หรือสาเหตุอื่นๆ เช่น ความเครียดสะสม การทำงานหนัก หรือออกกำลังกายหนักเกินไป สำหรับใครที่มีอาการอ่อนเพลียมาก และอ่อนเพลียเป็นประจำ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง ซึ่งควรปรึกษาคุณหมอโดยด่วน แต่ถ้าเป็นแค่อาการอ่อนเพลียโดยทั่วไป การกินอาหารเหล่านี้อาจช่วยได้

    อาหารช่วยแก้อาการ อ่อนเพลีย

    น้ำเปล่า

    ภาวะขาดน้ำ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ถ้าร่างกายของเราขาดน้ำ ร่างกายจะเอาพลังงานไปใช้ในการรักษาปริมาณน้ำในร่างกาย ทำให้เรารู้สึกไม่มีพลัง ไร้เรี่ยวแรง อ่อนเพลียในที่สุด ดังนั้น การดื่มน้ำก็จะช่วยทำให้เราหายอ่อนเพลีย และรู้สึกมีแรงขึ้นได้ ปริมาณน้ำที่ได้รับในแต่ละวันจะมาจากอาหาร 20% และจากการดื่มน้ำ 80% การดื่มน้ำให้เพียงพอนั้น ก็มีสูตรคำนวณง่ายๆ คือ น้ำหนักของร่างกาย (กิโลกรัม) หารด้วย 30 จะเท่ากับปริมาณน้ำเป็นลิตรที่ต้องกินในแต่ละวัน เช่น เราน้ำหนัก 60 กิโลกรัม หาร 30 ก็หมายความว่าควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร จึงจะเพียงพอ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจนอ่อนเพลีย วิธีแก้อาการแบบเร่งด่วนอย่างแรก จึงเป็นการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการในทุกๆ วัน

    คาเฟอีน

    สมาคม National Coffee Association ให้ข้อมูลว่า มากกว่า 50% ของประชากรในประเทศสหรัฐอเมริกาดื่มกาแฟทุกวัน และอีก 25% ดื่มกาแฟเป็นบางครั้งบางคราว ซึ่งไม่ใช่แค่ในสหรัฐอเมริกา คนไทยโดยเฉพาะวัยทำงานส่วนใหญ่ก็ต้องพึ่งกาแฟในตอนเช้าเหมือนกัน เพราะว่าในกาแฟมีคาเฟอีนที่ช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัว และหายอ่อนเพลีย คาเฟอีนไม่ได้มีแค่ในกาแฟ แต่ในชา น้ำอัดลม ช็อกโกแลต หรือสมุนไพรบางชนิดก็มีคาเฟอีนเช่นกัน จอห์น ออลเรด (John Allred) โฆษกประจำสถาบัน Institute of Food Technologists ให้ข้อมูลว่า คาเฟอีนทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น เราจึงรู้สึกตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่า แต่ว่าความตื่นตัวนี้จะอยู่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ดังนั้น ถ้าใครรู้สึกอ่อนเพลีย อยากมีแรงทำงาน แนะนำให้ดื่มกาแฟเพราะในกาแฟมีคาเฟอีน แต่หากไม่ชอบดื่มกาแฟก็อาจดื่มชา หรือน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีนก็จะช่วยให้หายอ่อนเพลียได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม คุณควรเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนแต่ไม่มีน้ำตาล จะดีต่อสุขภาพมากกว่า

    กินถั่ว

    การกินถั่วเปลือกแข็งที่มีแมกนีเซียมและโฟเลตสูง เช่น อัลมอนด์ วอลนัท ประมาณ 1 กำมือ จะช่วยให้คุณหายอ่อนเพลียได้ สารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้จำเป็นต่อการสร้างพลังงานและการทำงานของเซลล์ในร่างกาย การขาดแมกนีเซียมและโฟเลตจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรง

    โปรตีน

    ไขมันกับคาร์โบไฮเดรตอาจเป็นสารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่โปรตีนเป็นสารอาหารที่จะช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกายได้ โปรตีนเกี่ยวข้องกับการทำงานของทุกเซลล์ มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต เกี่ยวข้องกันการทำงานของฮอร์โมนและวิตามิน และช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ การกินโปรตีนจะทำให้ร่างกายหายจากอาการอ่อนเพลียได้ เพราะช่วยทำให้ร่างกายมีแรงนั่นเอง

    ขนมขบเคี้ยวไขมันต่ำ

    ขนมขบเคี้ยวไขมันต่ำ เช่น ผักอบกรอบ ผลไม้อบแห้ง ที่ทำให้ปากได้เคี้ยวจะช่วยทำให้หายอ่อนเพลียได้ เพราะเมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำ เราจะรู้สึกหมดแรง เฉื่อยๆ เพลียๆ การกินขนมขบเคี้ยวไขมันต่ำจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือด โดยไม่ได้ทำร้ายสุขภาพมาก ข้อควรระวังในการกินขนมขบเคี้ยวที่มีน้ำตาล เพื่อจะได้ไม่อ่อนเพลียก็คือ ต้องระวังไม่ให้ปริมาณน้ำตาลเกิน 25 กรัม หรือ 6 ช้อนชาต่อวัน เพราะการกินน้ำตาลอาจช่วยเรื่องการอ่อนเพลีย แต่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา