backup og meta

คราบหินปูน อาการ สาเหตุ การรักษา

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 21/09/2021

    คราบหินปูน อาการ สาเหตุ การรักษา

    คราบหินปูน คือ คราบพลัค หรือคราบจุลินทรีย์ที่เป็นคราบเหนียว มีลักษณะแข็งเกาะอยู่ตามซอกฟัน หรือขอบฟัน หากมีการสะสมของคราบหินปูนมาก อาจทำให้เกิดคราบเหลืองที่ฟันมากขึ้น และอาจส่งผลให้มีกลิ่นปากตามมา ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจในการพูด หรือยิ้มได้ รวมถึงอาจทำให้เป็นโรคเหงือกอักเสบ ปริทันต์ หากไม่มีการรักษา

    คราบหินปูน คืออะไร 

    คราบหินปูน เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในช่องปากทำปฏิกิริยากับโปรตีน หรือเศษอาหารที่อยู่ตามซอกฟัน ทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสมกลายเป็นคราบพลัคบริเวณซอกฟัน และขอบฟันล่าง ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสีเหลือง ก้อนแข็ง ซึ่งคราบหินปูนไม่สามารถขจัดออกได้ด้วยการแปรงฟัน จำเป็นต้องขจัดออกด้วยเครื่องมือของทันตแพทย์

    สาเหตุการเกิดคราบหินปูน

    สาเหตุของการเกิดคราบหินปูน คือ ไม่แปรงฟัน หรือแปรงฟันไม่ถูกวิธี รวมถึงบางครั้งอาจละเลยสุขภาพช่องปาก การรับประทานอาหารในทุกวัน อาจทำให้เกิดการสะสมเศษอาหารในซอกฟันได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาลที่ติดฟันได้ง่าย สิ่งเหล่านี้ถือ เป็นแหล่งพลังงานชั้นดีของเชื้อแบคทีเรีย และอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดคราบหินปูน นอกจากนี้การดื่มชา กาแฟ หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ก็อาจทำได้เกิดคราบหินปูนได้เช่นกัน

    ผลกระทบของคราบหินปูน 

    หากปล่อยให้คราบหินปูนเกาะที่ฟันเป็นระยะเวลานานโดยไม่รักษา อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและสุขภาพเหงือกได้ เพราะหินปูนเป็นแหล่งที่สะสมของเชื้อแบคทีเรีย อาจส่งผลให้มีเลือดออกขณะแปรงฟันกระทบขณะแปรงฟันอาจมีเลือดออก  และทำให้มีกลิ่นปาก หากคราบหินปูนเกาะตัวหนาขึ้น อาจทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ และฟันผุ

    วิธีการรักษาหรือขจัดคราบหินปูน 

    การขจัดคราบหินปูน คือ การขูดหินปูนโดยทันตแพทย์ หากมีหินปูนเพียงเล็กน้อย ทันตแพทย์อาจยังไม่ฉีดยาชา แต่ถ้าหากมีคราบหินปูนสะสมมากอาจต้องฉีดยาชา เพราะอาจมีอาการเจ็บ หรือเสียวฟันขณะขูดหินปูนได้ ในการขูดหินปูนทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือขูดหินปูนไฟฟ้า โดยการสั่นของปลายเครื่องมือ และความเร็วจะไปกระแทกให้หินปูนหลุดออกมา

    วิธีป้องกันการเกิดคราบหินปูน

    วิธีป้องกันการเกิดคราบหินปูนสะสม อาจทำได้ด้วยวิธีดังนี้

    • แปรงฟันให้ถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อลดการสะสมของคราบพลัคที่เป็นแหล่งกำเนิดของคราบหินปูน และควรใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ เพราะฟลูออไรด์อาจช่วยเสริมเคลือบฟันให้แข็งแรงและอาจช่วยป้องกันฟันผุ
    • ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ เพื่อขจัดคราบพลัคในซอกฟัน และป้องกันไม่ให้เกิดหินปูน
    • ใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ น้ำยาบ้วนปากอาจช่วยขจัดคราบพลัคให้หลุดออก แต่ไม่สามารถขจัดคราบหินปูนที่สะสมมานานให้หลุดออกได้หมด
    • พบทันตแพทย์เป็นประจำ อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 21/09/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา