backup og meta

ปจด.มาไม่ปกติ มีสาเหตุจากอะไร และการดูแลตัวเอง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงรัชตภา นาเวศภูติกร · สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 26/11/2022

    ปจด.มาไม่ปกติ มีสาเหตุจากอะไร และการดูแลตัวเอง

    ปจด.มาไม่ปกติ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของประจำเดือนที่แตกต่างไปจากที่เคยเป็น เช่น ประจำเดือนไม่มา ประจำเดือนมามากหรือมานาน ประจำเดือนมาน้อย ประจำเดือนห่าง โดยสาเหตุของ ปจด.มาไม่ปกติ มักเกิดจากความเครียด ความอ้วน การคุมกำเนิด โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ รวมถึงความไม่สมดุลของฮอร์โมนและความผิดปกติต่าง ๆ เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์หรือระบบสืบพันธุ์

    ปจด. คืออะไร ปกติเป็นแบบไหน

    ปจด. ย่อมาจาก ประจำเดือน เป็นภาวะสุขภาพของเพศหญิงในวัยเจริญพันธุ์ที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังตกไข่และไม่ได้รับการปฏิสนธิกับอสุจิ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกกลายเป็นเลือดไหลออกทางช่องคลอดเดือนละครั้ง

    โดยทั่วไป เพศหญิงจะเริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุ 12-15 ปี และหยุดมีประจำเดือนเมื่อเข้าสู่วัยทอง หรือประมาณอายุ 45-55 ปี ซึ่งเกิดจากภาวะรังไข่หยุดทำงานโดยธรรมชาติ ทำให้ไม่มีการสร้างฮอร์โมนเพศทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน และไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น

    ทั้งนี้ ประจำเดือนแต่ละรอบ จะเกิดห่างกันประมาณ 28 วัน อย่างไรก็ตาม ประจำเดือนอาจมาเร็วหรือช้ากว่านั้น คือ อยู่ในช่วงระหว่าง 21-35 วัน โดยประจำเดือนแต่ละรอบจะมาติดต่อกันราว 3-7 วัน

    อาการแบบไหนเข้าข่าย ปจด.มาไม่ปกติ

    ปจด.มาไม่ปกติ หมายถึง การมีประจำเดือนที่แตกต่างไปจากที่เคยเป็น ซึ่งพบได้ในเพศหญิงที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ได้แก่

    • ประจำเดือนขาด (Amenorrhea) หรือบางครั้งเรียกว่า ประจำเดือนไม่มา หมายถึง การขาดประจำเดือนติดต่อกันตั้งแต่ 3 รอบขึ้นไป ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ รวมถึงการไม่เคยมีประจำเดือนเลย ในกรณีของวัยรุ่นที่อายุ 16 ปีแล้ว
    • ประจำเดือนมามาก (Menorrhagia) คือการเป็นประจำเดือนติดต่อกันเกิน 7 วัน หรือมีเลือดออกมากกว่าปกติ โดยสังเกตได้จากการเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ทั้งนี้ เมื่อประจำเดือนมามาก อาจพบลิ่มเลือดหรือก้อนเลือดออกมาพร้อมกับประจำเดือนด้วย
    • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ (Metrorhagia) ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอในแต่ละรอบเดือน
    • ประจำเดือนห่าง (Oligomenorrhea) หรือมีประจำเดือนห่างกันเกิน 35 วันในแต่ละรอบ และใน 1 ปี มีประจำเดือนเพียง 4-9 ครั้งเท่านั้น
    • ประจำเดือนมาบ่อย (Polymenorrhea) คือการมีระยะห่างระหว่างรอบเดือนสั้นกว่า 21 วัน
    • ประจำเดือนเลื่อน (Delayed period) คือ การที่ประจำเดือนที่เคยมาเป็นประจำทุก ๆ 21-35 วัน มาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนก่อนหน้าเกิน 7 วัน
    • ประจำเดือนหลังวัยทอง (Postmenopausal bleeding) เข้าสู่วัยทองแล้วแต่กลับมามีประจำเดือนหลังประจำเดือนหยุดไปเป็นระยะเวลาหนึ่งปี

    ปจด.มาไม่ปกติ เกิดจากอะไรได้บ้าง

    ความผิดปกติต่าง ๆ เกี่ยวกับประจำเดือน สามารถเกิดได้จากสาเหตุหลายประการ ดังนี้

    • ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โทนเดี่ยวโปรเจสเตอโรน เช่น ยาฉีดคุมกำเนิด หรือ ยาฝังคุมกำเนิด ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงจนไม่สามารถรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนได้ เลยมักทำให้ไม่มีประจำเดือน หลังจากหยุดใช้ยา อาจทำให้ปจด.มาไม่ปกติเป็นเวลาประมาณ 6 เดือนได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้ยาฉีดคุมกำเนิด
    • การให้นมบุตร เนื่องจากขณะให้นมบุตร ร่างกายผลิตฮอร์โมนโปรแลคติน (Prolactin) สูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ยับยั้งการมีประจำเดือน ทำให้ ปจด.มาไม่ปกติในหญิงให้นมบุตรบางราย
    • การเสียสมดุลของฮอร์โมนเพศ หรือฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนในเพศหญิง เป็นสาเหตุหนึ่งของประจำเดือนมามากและประจำเดือนขาด ทั้งนี้ การเสียสมดุลของฮอร์โมนเพศ อาจเป็นอาการสืบเนื่องจากโรคถุงน้้ำในรังไข่หลายใบ ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีประจำเดือนน้อยว่า 9 ครั้งใน 1 ปี และรอบประจำเดือนห่างกันเกิน 35 วัน
    • พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ เช่น โรคบูลิเมีย เนอโวซา (Bulimia Nervosa) หรือการล้วงคอให้อาเจียนหลังรับประทานอาหาร สามารถทำให้ระบบสืบพันธุ์เพศหญิงทำงานผิดปกติ และส่งผลต่อปริมาณหรือความถี่ของการเป็นประจำเดือนได้
    • วัยทอง ก่อนเข้าสู่วัยทอง การทำงานของรังไข่อาจมีความผิดปกติ ทำให้ผู้หญิงเป็นประจำเดือนในปริมาณมากหรือน้อยกว่าปกติ รวมถึงอาจมีระยะห่างระหว่างรอบเดือนถึง 60 วัน หรือประจำเดือนไม่มาในบางเดือน
    • เยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ เป็นสาเหตุหนึ่งของการมีประจำเดือนปริมาณมากผิดปกติ โดยปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุแน่ชัด อาจพบเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเติบโตนอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ หรือเยื่อบุช่องท้อง
    • ความเครียด ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งจะไปรบกวนการทำงานสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) แล้วส่งผลให้ประจำเดือนขาด มาช้า หรือมาน้อยกว่าปกติได้ ทั้งนี้ นอกจากความเครียด ร่างกายยังหลั่งคอร์ติซอลออกมาได้หากออกกำลังกายหักโหม หรือป่วยเป็นกลุ่มอาการคุชชิง (Cushing Syndrome)
    • เนื้องอกบริเวณมดลูก เนื้องอกที่อาจพบหนึ่งก้อนหรือหลายก้อนบริเวณผนังมดลูก หรือในโพรงมดลูก ทั้งนี้ เนื้องอกบริเวณมดลูก อาจเป็นสาเหตุของประจำเดือนมามาก หรือประจำเดือนมานานกว่าปกติ แต่พบได้ไม่บ่อยนัก

    นอกจากนี้ ปจด.มาไม่ปกติ ยังสามารถเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ เช่น

  • มะเร็งโพรงมดลูกหรือมะเร็งปากมดลูก
  • การใช้ยาบางอย่าง เช่น สเตียรอยด์
  • ภาวะเลือดออกผิดปกติ
  • ปจด.มาไม่ปกติ แบบไหนที่ควรไปพบคุณหมอ

    หากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบคุณหมอ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาประจำเดือนหรือระบบสืบพันธุ์

    • พบอาการปวดรุนแรงระหว่างมีประจำเดือน หรือระหว่างรอบประจำเดือน
    • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
    • ปริมาณประจำเดือนมากผิดปกติ
    • เป็นประจำเดือนติดต่อกันเกิน 7 วัน
    • ประจำเดือนขาดติดต่อกันเกิน 3 รอบเดือน
    • มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดหลังเข้าสู่วัยทองแล้ว

     วิธีดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยง ปจด.มาไม่ปกติ

    การลดโอกาสเป็นปจด.มาไม่ปกติ สามารถทำได้ ด้วยวิธีการต่อไปนี้

    • ดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม โดยการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หักโหมเกินไป และพักผ่อนให้เพียงพอ
    • ลดความเครียด
    • ใช้ยาคุมกำเนิดตามคำแนะนำที่ระบุไว้ข้างกล่อง หรือปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา
    • ไปพบคุณหมอสม่ำเสมอ เพื่อตรวจภายในอย่างน้อยเป็นประจำทุกปี จะได้ทราบถึงภาวะสุขภาพของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง หากพบความผิดปกติ จะได้รักษาทันท่วงที

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงรัชตภา นาเวศภูติกร

    สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 26/11/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา