โพรงมดลูกอักเสบอาจรักษาได้ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยฆ่าเชื้อและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย โดยชนิดของยาอาจขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เป็น เช่น คลินดาไมซิน (Clindamycin) สำหรับผู้ที่มีการติดเชื้อระดับรุนแรง คุณหมออาจจำเป็นต้องให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและอาจให้ยาผ่านทางหลอดเลือดดำ
ในรายที่ภาวะนี้เกิดขึ้นหลังคลอดบุตรหรือแท้งบุตรจำเป็นต้องนึกถึงภาวะของการแท้งไม่ครบหรือชิ้นส่วนของรกค้าง ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อและมีเลือดออกผิดปกติเช่นนี้ได้เหมือนกัน ซึ่งอาจต้องมีการรักษาเพิ่มเติมโดยการขูดมดลูก
การป้องกันโพรงมดลูกอักเสบ
การป้องกันโพรงมดลูกอักเสบ อาจทำได้ดังนี้
- สอบถามประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคประจำตัวของคู่นอน
- หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคนหรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียที่อาจส่งผลให้เกิดโพรงมดลูกอักเสบ รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
- สำหรับผู้ที่คุมกำเนิดด้วยการใส่ห่วงอนามัย ควรปฏิบัติตามวิธีการดูแลตัวเองที่คุณหมอแนะนำ หรืออาจเปลี่ยนเป็นการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ยาคุมแบบฝัง ยาคุมแบบแผ่นแปะ ยาคุมแบบรับประทาน ถุงยางอนามัย
- เลือกกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้ายที่ระบายความอับชื้นได้ดี เพราะความอับชื้นอาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในโพรงมดลูก จนนำไปสู่โพรงมดลูกอักเสบ
- หลังจากการขับถ่าย ควรล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศให้ถูกวิธีและซับน้ำด้วยทิชชู่ให้แห้งสนิท เพื่อลดความอับชื้น โดยควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากทวารหนัก
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย