backup og meta

ทาครีมกันแดด อย่างไรให้ปลอดภัยจากรังสียูวี

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 15/10/2022

    ทาครีมกันแดด อย่างไรให้ปลอดภัยจากรังสียูวี

    ทาครีมกันแดด อาจช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด รังสีอัลตราไวโอเลตเอ (UVA) และรังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVB) ที่อาจเป็นอันตรายต่อผิว นอกจากนี้ ยังอาจช่วยป้องกันไม่ให้ผิวไหม้แดด เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ และปัญหาผิวอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธีอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น

    ทาครีมกันแดด ให้ผิวปลอดภัยจากรังสียูวี

    การทาครีมกันแดดที่อาจช่วยให้ผิวปลอดภัยจากรังสียูวี อาจมีดังนี้

    1. ไม่ควรทาครีมกันแดดเฉพาะเวลาไปทะเล

    อันตรายของรังสียูวีเอและยูวีบีในแสงแดด ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในแสงแดดเวลาไปเที่ยวทะเลเท่านั้น แต่การอยู่ในที่ร่ม ๆ รังสียูวีก็อาจทำร้ายผิวได้เช่นกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะต้องออกไปข้างนอก หรือต้องไปทำกิจกรรมกลางแดด การทาครีมกันแดดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง

    2. อ่านฉลากส่วนผสม

    การอ่านฉลากส่วนผสมบนผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเป็นอีกสิ่งที่ควรใส่ใจ เนื่องจาก การที่ไม่รู้ว่าครีมกันแดดมีส่วนผสมอะไรบ้าง ก็อาจไม่สามารถช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดดได้ นอกจากนี้ ครีมกันแดดแต่ชนิดก็มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน ดังนั้น การอ่านฉลากส่วนผสมและหาคำที่ระบุว่า ช่วยป้องกันทั้งรังสียูวีเอและรังสียูวีบีในแสงแดด มีค่า SPF 50 รวมถึงมองหาส่วนผสมต่าง ๆ เช่น อีแคมซูล (Ecamsule) เอโวเบนโซน (Avobenzone) ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันผิวจากรังสียูวีได้

    3. ทาครีมกันแดดทุก ๆ 2 ชั่วโมง

    การทาครีมกันแดดแค่ครั้งเดียวแล้วใช้เวลาอยู่ข้างนอกทั้งวัน อาจส่งผลเสียต่อผิวเป็นอย่างมาก เนื่องจากครีมกันแดดไม่ว่าจะชนิดไหนก็ตาม ไม่สามารถทาเพียงครั้งเดียวได้ โดยส่วนใหญ่ การทาครีมกันแดดอาจช่วยปกป้องผิวได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ดังนั้น เพื่อช่วยให้ครีมกันแดดปกป้องผิวได้ยาวนานขึ้น อาจต้องทาครีมกันแดดทุก ๆ 2 ชั่วโมง หากต้องทำกิจกรรมที่โดนน้ำ เช่น ว่ายน้ำ อาจต้องทาครีมกันแดดซ้ำทันทีหลังขึ้นจากน้ำ เพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด  

    4. ทาในปริมาณที่พอเพียง

    การทาครีมกันแดดในปริมาณน้อย อาจไม่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีได้ ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสม โดยบริเวณปริมาณการทาครีมกันแดดสำหรับเด็ก คือ ผิวหน้าอาจทาประมาณ 1 ช้อนชา แต่หากต้องทาทั้งตัวควรจะทาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนปริมาณการทาครีมกันแดดสำหรับผู้ใหญ่ คือ 2 ข้อนิ้วมือสำหรับผิวหน้า และทาทั้งตัวก็ประมาณ 1 แก้วเล็ก ๆ เพื่อการป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    5. อย่าพึ่งแต่ครีมกันแดดอย่างเดียว

    ครีมกันแดดไม่อาจช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดไปได้ตลอดเวลา ดังนั้น ไม่ว่าจะต้องออกไปข้างนอก หรือต้องไปทำกิจกรรมกลางแดดเป็นเวลานาน ๆ นอกจากการทาครีมกันแดดแล้ว ควรหาเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติยูวีคัท หมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด ร่ม มาใช้ร่วมด้วย

    6. ทาครีมกันแดดแม้อยู่ในที่ร่ม

    รังสียูวีเอและรังสียูวีบีในแสงแดดอาจทำร้ายผิวได้ทุกที่ แม้จะอยู่ในที่ร่มแล้วก็ตาม ดังนั้น การทาครีมกันแดดแม้จะอยู่ในที่ร่มก็อาจช่วยป้องกันรังสียูวีในแสงแดดได้

    7. อย่าหลงลืมบริเวณสำคัญ

    เนื่องจากผิวของเด็กอาจมีความอ่อนแอกว่าผิวผู้ใหญ่ บริเวณที่ไม่คาดคิด เช่น บริเวณรอยแสกผม หลังแขน หลังขา หลังคอ จึงอาจโดนแสงแดดทำร้ายได้ง่าย ดังนั้น จึงควรป้องกันแสงแดดในบริเวณเหล่านั้นเป็นพิเศษ และอย่าลืมทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวี 

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 15/10/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา