หัวนมลอก เกิดจากอะไร และควรดูแลหัวนมอย่างไร

หัวนมระคายเคืองได้ง่าย บางครั้งอาจเกิดอาการ หัวนมลอก ผิวบริเวณหน้าอกแห้งลอก ซึ่งอาจเกิดจาก การเสียดสี การติดเชื้อรา ผิวหนังอักเสบ การให้นมลูก เป็นต้น หากผิวบริเวณหัวนมแห้งลอก ควรรักษาจากต้นเหตุที่ทำให้ผิวแห้งลอก หากรักษาตามอาการแล้วไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

หัวนมลอก เกิดจากอะไร

สาเหตุที่ทำให้หัวนมลอก อาจมีดังนี้

• สภาพอากาศ อากาศที่หนาวและแห้ง อาจทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำและขาดความชุ่มชื้น จนหัวนมแห้งและลอกเป็นขุย
• ผิวหนังอักเสบ กลุ่มอาการผิวหนังอักเสบ เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) โรคผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) อาจทำให้ผิวแห้งเป็นขุยและทำให้หัวนมลอก ร่วมกับมีอาการคันและผดผื่น
• การติดเชื้อรา การติดเชื้อราแคนดิดา แอลบิแคนส์ (Candida albicans) ที่ผิวหนังบริเวณหัวนมพบได้บ่อยและพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย การติดเชื้อราชนิดนี้อาจเกิดจากหัวนมแห้ง การใช้ยาปฏิชีวนะ การให้นมลูก ส่งผลให้หัวนมแสบร้อน คัน หรือแห้งกร้านได้
• ผิวแห้ง สภาพผิวที่แห้งตึง ขาดน้ำมันและความชุ่มชื้น อาจทำให้ผิวบริเวณหน้าอกหลุดลอกเป็นแผ่นหรือเป็นขุยได้
• ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความแปรปรวนของฮอร์โมนในช่วงเป็นประจำเดือนอาจทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าอกรวมถึงหัวนมแห้งตึง อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับของเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกาย นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงหมดประจำเดือนก็อาจส่งผลให้ผิวหนังแห้ง บางลงและระคายเคืองได้ง่ายเช่นกัน
• การแพ้สารเคมี เช่น สบู่ โลชั่น ผงซักฟอก น้ำยาซักชุดชั้นใน อาจทำให้หัวนมระคายเคืองและแห้งลอกได้
• ชุดชั้นใน ชุดชั้นในที่สวมใส่อาจรัดแน่นเกินไปและเสียดสีกับผิวหนัง หรือสีย้อมของชุดชั้นในอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิว อาจทำให้เกิดผื่นแดงและทำให้ผิวหนังบริเวณลานนมและหัวนมลอกได้
• มะเร็งหัวนม (Paget’s disease of the breast) ทำให้บริเวณหัวนมมีลักษณะคล้ายกลาก เป็นผื่นแดง มีอาการคันและผิวหนังหลุดลอก ทั้งนี้ เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก

วิธีการดูแลหัวนมที่แห้งลอก

วิธีการดูแลหัวนมที่แห้งลอก สามารถทำได้ดังนี้

เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ

อาการหัวนมลอกมักไม่เป็นอันตรายและอาจหายได้เองโดยไม่ต้องไปพบคุณหมอ เมื่อหลีกเลี่ยงสารระคายเคือง รักษาความสะอาด ทายาหรือครีมให้ความชุ่มชื้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากอาการนมแห้งลอกไม่หายไปเมื่อเวลาผ่านไปสักพักหรือมีอาการแย่ลง ควรไปพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด