ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงปากนกกระจอก
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดปากนกกระจอก ดังนี้
- การใช้เครื่องสำอางหมดอายุ
- ภาวะสุขภาพเรื้อรังและความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเบาหวาน โรคลำไส้อักเสบ การติดเชื้อเอชไอวี
- ดาวน์ซินโดรม อาจทำให้ผิวแห้ง แล้วการเอ่อของน้ำลายข้างปากมากขึ้น
- การขาดวิตามินบี ธาตุเหล็ก หรือโปรตีน
- น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้ขาดสารอาหาร ผิวแห้งแตกได้
- การสูบบุหรี่ สารเคมีที่ทำร้ายผิวทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
- ความเครียด ส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนอาจทำให้ขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้งและแตกได้ง่าย
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัยปากนกกระจอก
คุณหมออาจตรวจสุขภาพปากเพื่อดูรอยแตก รอยแดง บวม ตุ่มน้ำหรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเป็นลักษณะของโรคชนิดอื่น เช่น โรคซิฟิลิส โรคเริม แผลพุพอง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ โรคไลเคนพลานัสในช่องปาก (Oral Lichen Planus) ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลต่อเยื่อบุผิวในปาก อาจทำให้เกิดรอยฝ้าสีขาว เนื้อเยื่อบวมแดง หรือแผลเปิด
ปากนกกระจอก รักษา อย่างไร
การรักษาปากนกกระจอกขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค ซึ่งส่วนใหญ่ปากนกกระจอกอาจเกิดจากการติดเชื้อที่มาจากน้ำลาย โดยการรักษาโรคปากนกระจอกอาจทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
ยาต้านเชื้อรา เป็นยาเฉพาะที่สำหรับทาบริเวณริมฝีปาก 3 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เช่น
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย