backup og meta

โรคงูสวัด คืออะไร สาเหตุ อาการ และการรักษา

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงภัทรีวัลย์ โรจนพันธุ์ · โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลวิภาวดี



เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 06/03/2023

    โรคงูสวัด คืออะไร สาเหตุ อาการ และการรักษา

    โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella-Zoster Virus: VZV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส หลังมีอาการปวดตามเนื้อตัวไม่นาน มักมีตุ่มแดงขึ้นที่ผิวหนังบางส่วนของร่างกาย แล้วค่อย ๆ ลุกลามเป็นลายพาดไปตามแนวของเส้นประสาทฝั่งใดฝั่งหนึ่งของร่างกาย อย่างไรก็ตาม อาจป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

    โรคงูสวัด เกิดจากอะไร

    งูสวัด หรือโรคงูสวัด (Shingles) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ซึ่งถือว่าเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ดังนั้น หากไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน แล้วสัมผัสบริเวณผื่นของผู้ป่วยที่เป็นงูสวัด ก็ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคอีสุกอีใส

    อาการของโรคงูสวัด

    อาการที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้

    • มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนัง
    • มีไข้
    • ปวดศีรษะ
    • ดวงตาไวต่อแสง
    • ผิวหนังไวต่อการสัมผัส

    หลังมีอาการปวดตามเนื้อตัวไม่นาน มักมีตุ่มแดงขึ้นที่ผิวหนังบางส่วนของร่างกาย บางครั้งอาจเกิดที่คอ ใบหน้า หรือดวงตา แล้วค่อย ๆ ลามเป็นลายพาดไปตามแนวของเส้นประสาท จนกระทั่งพันรอบทั้งลำตัว และอาจมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย

    • มีอาการคันและแสบในผิวหนังบริเวณที่มีผื่นแดงและตุ่มน้ำใส
    • ตุ่มแดงจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสและแตกออก จนเริ่มตกสะเก็ด

    วิธีรักษาโรคงูสวัด

    โรคงูสวัดเป็นโรคที่สามารถหายได้เอง อาจใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 2-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคน คุณหมอจะรักษาโรคงูสวัดตามอาการ โดยอาจสั่งจ่ายยาเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) แฟมไซโคลเวียร์ (Famciclovir) หรือวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) และอาจสั่งจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการปวด เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคงูสวัดมักจะมีอาการปวดรุนแรง 

    นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคงูสวัด ควรดูแลตนเองด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

    • ดูแลทำความสะอาดแผลอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
    • ขณะเป็นโรคงูสวัด ควรสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ สบาย ๆ ไม่รัดรูป
    • ประคบเย็นที่แผลงูสวัด โดยใช้ผ้าห่อแน้ำเข็ง ประคบวันละประมาณ 2-3 ครั้ง

    มีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดหรือไม่

    หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันโรคงูสวัด คือ การฉีดวัคซีนงูสวัด โรคงูสวัด พบได้มากในผู้สูงอายุ อีกทั้งผู้สูงอายุยังมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดมากกว่าคนกลุ่มอื่น ดังนั้น ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเคยหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมา และอาจมีหรือไม่มีอาการของโรคงูสวัด ก็ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด

    เมื่อไรควรไปพบคุณหมอ

    หากมีอาการของโรคงูสวัด โดยเฉพาะหากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบคุณหมอทันที

    • มีอาการปวด และมีผื่นตุ่มแดงขึ้นรอบ ๆ ดวงตา ควรรีบไปพบคุณหมอทันที เพื่อป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อที่ดวงตา
    • มีอาการของโรคงูสวัด และเป็นผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ควรไปพบคุณหมอ เนื่องจากวัยผู้สูงอายุจะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย
    • ไปพบคุณหมอทันทีหากเป็นโรคงูสวัด และเป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคแพ้ภูมิตัวเอง
    • หากมีอาการผื่นตุ่มแดงลุกลามไปอย่างรวดเร็วและทั่วทั้งร่างกาย และมีอาการปวดอย่างรุนแรง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงภัทรีวัลย์ โรจนพันธุ์

    โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลวิภาวดี



    เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 06/03/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา