ไตวายเฉียบพลัน เกิดขึ้นเมื่อไตไม่สามารถกำจัดเกลือส่วนเกิน ของเหลว และของเสียจากเลือดอย่างกะทันหัน เมื่อไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสีย ของเหลวในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่เป็นอันตราย
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ไตวายเฉียบพลัน เกิดขึ้นเมื่อไตไม่สามารถกำจัดเกลือส่วนเกิน ของเหลว และของเสียจากเลือดอย่างกะทันหัน เมื่อไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสีย ของเหลวในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่เป็นอันตราย
ไตวายเฉียบพลัน (Acute Kidney Failure) สามารถเรียกได้อีกว่า ไตเสียหายเฉียบพลัน (Acute Kidney Injury) หรือภาวะไตล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Renal Failure) เกิดขึ้นเมื่อไตไม่สามารถกำจัดเกลือส่วนเกิน ของเหลว และของเสียจากเลือด อย่างกะทันหัน ซึ่งการกำจัดสารพิษจากร่างกายเป็นหน้าที่กาารทำงานหลักของไต เมื่อไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสีย ของเหลวในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่เป็นอันตราย ภาวะดังกล่าวยังทำให้อิเล็กโตรไลต์และของเสียสะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตอีกด้วย
ภาวะไตวายเฉียบพลันเป็นอันตรายต่อชีวิต และจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ดี สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ หากผู้ป่วยมีสุขภาพดี ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวเป็นไปได้ด้วยดี
พบได้ทั่วไปในผู้ป่วยที่พักฟื้นในโรงพยาบาล อาการอาจรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลา 2-3 วัน จนถึงหลายสัปดาห์ ผู้ที่มีอาการป่วยหนัก และจำเป็นต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษ ถือว่ามีความเสี่ยงสูงสุดในการเกิดไตวายเฉียบพลัน โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการทั่วไปของภาวะไตวายเฉียบพลัน ได้แก่
อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการต่างๆ โปรดปรึกษาแพทย์
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
ภาวะไตวายเฉียบพลันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่พบได้มากที่สุด ได้แก่
การที่กระแสเลือดหล่อเลี้ยงไตลดลง ก็สามารถทำให้ไตเกิดความเสียหายได้ ซึ่งมีสาเหตุจากอาการดังต่อไปนี้
อาการผิดปกติบางประการสามารถทำให้เกิดลิ่มเลือดภายในหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงไต และอาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ซึ่งได้แก่
การติดเชื้อบางชนิด เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด และกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน สามารถทำให้ไตเสียหายไดโดยตรง นอกจากนี้ การตั้งครรภ์ยังทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อไตได้ เช่น รกเกาะต่ำ และรกลอกตัวก่อนกำหนด
โอกาสในการเป็นไตวายเฉียบพลันมีมากขึ้นในผู้สูงอายุ หรือในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ดังต่อไปนี้
ผู้ที่กำลังป่วยหรือกำลังเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูในโรงพยาบาล จะมีความเสี่ยงสูงมากสำหรับการเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน นอกจากนี้ การเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ การผ่าตัดช่องท้อง หรือการปลูกถ่ายไขกระดูกก็ยังเพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ข้อมูลที่นำเสนอในที่นี้ ไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะไตวายเฉียบพลันอาจมีอาการบวมทั่วร่างกาย โดยเฉพาะอาการบวมจากภาวะคั่งน้ำ
การวินิจฉัยสามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจ โดยแพทย์จะได้ยินเสียงในปอด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะคั่งน้ำ การวินิจฉัยยังสามารถยืนยันได้ด้วยผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการซึ่งแสดงค่าที่ผิดปกติ แตกต่างจากระดับพื้นฐาน โดยมีวิธีทดสอบหลายประการ ได้แก่
การตรวจอัลตราซาวด์เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมในการวินิจฉัยไตวายเฉียบพลัน อย่างไรก็ดี การเอ็กซเรย์ช่องท้อง การตรวจช่องท้องด้วยซีทีสแกน และเอ็มอาร์ไอ สามารถช่วยให้แพทย์ระบุได้ว่า มีการอุดตันที่ท่อปัสสาวะหรือไม่ การตรวจเลือดก็เผยให้เห็นสาเหตุพื้นฐานของภาวะไตวายเฉียบพลันได้เช่นกัน
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะไตวายเฉียบพลัน มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูการทำงานของไต และป้องกันไม่ให้ของเหลวและของเสียก่อตัวขึ้นในร่างกายระหว่างการฟื้นฟูของไต ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาไตที่เรียกว่า “นักวักกวิทยา’ จะทำการประเมินร่างกายก่อนดำเนินการรักษาในขั้นตอนต่อไปนี้
อาหาร
แพทย์จะจำกัดอาหารและปริมาณของเหลวที่ดื่ม เพื่อช่วยลดการก่อตัวของสารพิษในร่างกาย แพทย์มักแนะนำอาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต และมีโปรตีน เกลือ และโพแทสเซียมต่ำ
การใช้ยา
แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาหรือป้องกันอาการติดเชื้อใดๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ส่วนยาขับปัสสาวะจะช่วยให้ไตขับปัสสาวะได้ดีขึ้น ขณะที่แคลเซียมและอินซูลินถูกนำมาใช้ควบคุมระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงที่อาจเป็นอันตรายได้
การฟอกไต
ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับการฟอกไต แต่ไม่จำเป็นเสมอไป และอาจจำเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น การฟอกไตเป็นการผันเลือดออกจากร่างกายไปยังเครื่องมือที่ช่วยกรองของเสีย เลือดที่สะอาดแล้วจะถูกลำเลียงกลับเข้าสู่ร่างกาย หากระดับโพแทสเซียมสูงถึงขั้นอันตราย การฟอกไตจะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้
การฟอกไตเป็นสิ่งจำเป็นหากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสภาวะทางจิตและปัสสาวะไม่ออก หรือหากมีภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หรืออาการอักเสบของหัวใจ โดยการฟอกไตจะสามารถช่วยกำจัดของเสียประเภทไนโตรเจนจากร่างกาย
ในระหว่างที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากภาวะจากไตวายเฉียบพลัน แพทย์อาจแนะนำอาหารพิเศษเพื่อช่วยบำรุงไตและจำกัดการทำงานของไต โดยแพทย์อาจส่งต่อผู้ป่วยไปยังนักโภชนาการที่สามารถวิเคราะห์การรับประทานอาหารในปัจจุบันของผู้ป่วยและแนะนำวิธีการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อไตตามสถานการณ์ของผู้ป่วยแต่ละคน โดยนักโภชนาการอาจให้คำแนะนำดังนี้
ในขณะที่ไตฟื้นตัว ผู้ป่วยอาจไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารพิเศษอีกต่อไป ถึงแม้ว่าการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ยังคงมีความสำคัญ หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย