backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

มะเร็งคาโปซิซาร์โคมา (Kaposi Sarcoma)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 14/06/2021

มะเร็งคาโปซิซาร์โคมา (Kaposi Sarcoma)

มะเร็งคาโปซิซาร์โคมา (Kaposi Sarcoma)  เป็นโรคมะเร็งชนิดที่พบได้ยาก จัดอยู่ในกลุ่มมะเร็งของหลอดเลือด ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมน เฮอร์ปีส์ชนิดที่ 8  (Human Herpesvirus 8 หรือ HHV-8) มักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ที่เข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ  นอกจากนี้ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีได้เข้าสู่ระยะของโรคเอดส์แล้ว

คำจำกัดความ

มะเร็งคาโปซิซาร์โคมา (Kaposi Sarcoma) คืออะไร

มะเร็งคาโปซิซาร์โคมา (Kaposi Sarcoma) เป็นโรคมะเร็งชนิดที่พบได้ยาก จัดอยู่ในกลุ่มมะเร็งของหลอดเลือด ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมน เฮอร์ปีส์ชนิดที่ 8  (Human Herpesvirus 8 หรือ HHV-8) มักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ที่เข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ  นอกจากนี้ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีได้เข้าสู่ระยะของโรคเอดส์แล้ว

อย่างไรก็ตามหากคุณป่วยเป็น โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา นั้นไม่ได้แสดงว่าคุณเป็นโรคเอดส์ เพราะโรคดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่มีสุขภาพดีเช่นกัน

โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา พบได้บ่อยเพียงใด

ผู้ที่ป่วยเป็น โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา พบได้บ่อยในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่เข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ

อาการ

อาการ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

ผู้ป่วย โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา ไม่ได้มีอาการแสดงปรากฏออกมาให้เห็นทุกคน โดยอาการเบื้องต้นส่วนใหญ่ผิวหนังของผู้ป่วยจะมีรอยแดง มีสีม่วง สีชมพู หรือสีแดง ขึ้นบริเวณผิวหนัง เช่น ใบหน้า รอบจมูก ปาก อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก รอยโรคดังกล่าวมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันออกไป  ในเวลาต่อม าอาจทำให้มีเลือดออกหรือแผลพุพองขึ้นบริเวณผิวหนัง

อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบอวัยวะภายในร่างกายเช่นกัน เช่น ปอด ตับ ลำไส้  ถึงแม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะเกิดผลกระทบต่อผิวหนังก็ตาม

ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด

หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ

สาเหตุ

สาเหตุของ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา ส่วนใหญ่มักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมน เฮอร์ปีส์ชนิดที่ 8  (Human Herpesvirus 8 หรือ HHV-8) ซึ่งสาเหตุของ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

  • ความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งคาโปซิซาร์โคมากับการติดเชื้อเอชไอวี Epidemic (AIDS-Associated) Kaposi Sarcoma

โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา พบบ่อยในผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) ซึ่งจะไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับชายมากกว่าเพศหญิงโดยทั่วไปจะมีรอยแผลที่ขา ข้อเท้า หรือ ฝ่าเท้า

  • มะเร็งคาโปซิซาร์โคมาชนิดที่พบในผู้ป่วยประเทศแอฟริกา Endemic (African) Kaposi Sarcoma

โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา พบได้บ่อยในผู้ป่วยประเทศแอฟริกามากกว่าประชากรประเทศอื่น ๆ เนื่องจาก ประชากรส่วใหญ่ในประเทศมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ สาเหตุมากจากโรคมาลาเรีย การขาดสารอาหาร ที่อาจนำไปสู่การเป็น โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี  โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการเกิด โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

  • มะเร็งคาโปซิซาร์โคมา (Classic Kaposi Sarcoma)

โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา มักพบในผู้สูงอายุเพศชายแถบยุโรปตะวันออกเมดิเตอร์เรเนียนและตะวันออกกลาง แต่รอยโรคชนิดนี้จะมีความรุนแรงน้อยกว่าชนิดอื่นๆ

  • ความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งคาโปซิซาร์โคมากับการปลูกถ่ายอวัยวะ Iatrogenic (transplant-related) Kaposi sarcoma

ผู้ที่ทำการปลูกถ่ายอวัยวะอาจเกิดการติดเชื้อจนก่อเป็น โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา ได้ ทั้งนี้ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะส่วนใหญ่จำเป็นต้องรับประทานยาเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงของ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี
  • ผู้ทีทำการปลูกถ่ายอวัยวะ
  • ประชากรเชื้อชาติแอฟริกา

การวินิจฉัยและการรักษา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การวินิจฉัยมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

การวินิจฉัยมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา ในเบื้องต้น แพทย์จะทำการสอบถามประวัติและตรวจรอยโรค เพื่อหาอาการผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง นอกจากนี้ แพทย์อาจทำการตัดชิ้นเนื้อบางส่วนในการหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อทำการวินิจฉัยโรค รวมถึงวิธีการอื่น ๆ ดังนี้

  • การทำซีที สแกน (Computerized Tomography Scan : CT SCAN) หรือ เอกซเรย์ (X-Ray)  บริเวณหน้าอกและหน้าท้อง
  • การส่องกล้องตรวจบริเวณหลอดลม (Bronchoscopy)
  • ส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal Endoscopy)

การรักษามะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

การรักษาโรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา จะคล้ายกับการรักษามะเร็งชนิดอื่น ๆ  โดยมีวิธีการรักษา ดังนี้

  • การรักษาเฉพาะที่ (Local Therapy)
  • การรักษาด้วยการฉายรังสี (Radiation Therapy)
  • การรักษาด้วยการใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy)
  • การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด  (Immunotherapy)

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อรักษา โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองดังต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณรับมือกับ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา ได้

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง เพื่อรับมือ โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา ทำได้โดยการรักษาสุขอนามัยที่ดี รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิด โรคมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 14/06/2021

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา