กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษ (Septicemic plague) เป็นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง หรืออาจเรียกภาวะนี้ได้ว่า “โลหิตเป็นพิษ” กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษจะเกิดขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่อื่นในร่างกาย
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษ (Septicemic plague) เป็นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง หรืออาจเรียกภาวะนี้ได้ว่า “โลหิตเป็นพิษ” กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษจะเกิดขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่อื่นในร่างกาย
กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษ (Septicemic plague) เป็นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง และอาจเป็นที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า “โลหิตเป็นพิษ”
กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษเกิดขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่อื่นในร่างกาย เช่น ปอด หรือผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด สิ่งนี้เป็นอันตราย เพราะแบคทีเรียและสารพิษดังกล่าวสามารถถูกส่งผ่านจากกระแสเลือดไปทั่วร่างกายของคุณ
กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษจากการติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เมื่อเป็นแล้วจะต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รับการรักษาภาวะโลหิตเป็นพิษสามารถนำไปสู่การติดเชื้อได้
ภาวะโลหิตเป็นพิษกับภาวะติดเชื้อในตับนั้นไม่เหมือนกัน แบคทีเรียเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงของภาวะโลหะเป็นพิษ ภาวะติดเชื้อทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย อาการอักเสบนี้อาจทำให้เลือดอุดตันและขัดขวางออกซิเจนไม่ให้ไปถึงอวัยวะสำคัญ ส่งผลให้อวัยวะล้มเหลวได้
สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health หรือ NIH) ประมาณการว่า ประชาชนราว 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้รับการติดเชื้ออย่างรุนแรงในแต่ละปี โดยระหว่าง 28 และ 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเหล่านี้อาจเสียชีวิตได้จากภาวะต่างๆ เมื่อเกิดการอักเสบเกิดขึ้นพร้อมกับการที่ระดับความดันโลหิตต่ำมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ ภาวะช็อกเหตุพิษติดเชื้อ หรือ ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ (Septic Shock) ซึ่งภาวะช็อกเหตุพิษติดเชื้อดังกล่าวมีอันตรายถึงชีวิตได้ในหลายกรณี
สำหรับอาการกาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษนั้น จะมีสัญญาณแรกเริ่มของการติดเชื้อ ซึ่งได้แก่
หากไม่ได้รับการรักษาพยายบาลในทันทีอาจทำให้เกิดอาการช็อกติดเชื้อได้ ซึ่งอาการที่เกิดจากภาวะช็อกเหตุพิษติดเชื้ออาจรวมถึง
เมื่อได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับการติดเชื้อที่เป็นไปได้ สิ่งที่สำคัญคือ การพูดถึงปัญหาเกี่ยวกับ การติดเชื้อ การผ่าตัด หรือระบบภูมิคุ้มกันใดๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้แพทย์หาสาเหตุถึงความเป็นไปได้ของการติดเชื้อ เพื่อการรักษาที่รวดเร็วที่สุด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์และความเหมาะสม
กรณีของการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย บางรายอาจเกิดจากการติดเชื้อรา และมีเพียงไม่กี่รายที่เกิดจากสาเหตุอื่นของการติดเชื้อหรือสิ่งที่ทำให้เกิดโรค(Agents) ที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดกลุ่มอาการตอบสนองต่อการอักเสบทั่วร่างกาย (Systemic inflammatory response syndrome หรือ SIRS)
สิ่งที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อมักจะเป็นแบคทีเรียเสียส่วนใหญ่ โดยเริ่มติดเชื้อจากอวัยอวะใดๆ จากสถานที่ใดๆ เช่น ชุมชน โรงพยาบาล อุปกรณ์ที่ฝังในร่างกาย เช่น ผิวหนัง ปอด(ปอดบวม) ระบบทางเดินอาหาร สถานที่ผ่าตัด สายสวนหลอดเลือดดำ และอื่นๆ จากนั้นตัวการที่ทำให้เกิดโรคหรือพิษของมัน หรืออาจเป็นทั้งสอง จะแพร่กระจายโดยตรงหรือโดยอ้อมเข้าสู่กระแสเลือด และสิ่งนี้จะทำให้พวกมันแพร่กระจายไปยังระบบอวัยวะอื่นเกือบทั้งหมด ผลที่เกิดขึ้นคือ ร่างกายจะพยายามที่จะรับมือกับความเสียหายกับสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการติดเชื้อในเลือดดังกล่าว
สาเหตุแบคทีเรียที่พบบ่อยของการติดเชื้อ คือ แบคทีเรียแกรมลบ (Gram-negative bacilli) เช่น เชื้ออีโคไล (E. Coli) เชื้อซูโดโมแนส แอรูจิโนซา (Pseudomonas Aeruginosa infection) เชื้อฮีโมฟิลุส อินฟลูเอนเซ (Haemophilus Influenzae) ในทารกแรกเกิด เป็นต้น ส่วนแบคทีเรียอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดภาวะติดเชื้อ ก็ได้แก่ สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) สเตรปโตคอกคัส (Streptococcus species) และไนซ์ซีเรีย เมนิงไจทิดิส (Neisseria meningitidis) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามมีแบคทีเรียจำนวนมากที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ สายพันธุ์แคนดิดา (Candida species) ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยกาฬโรคแบบโลหิตพิษ หรือภาวะโลหะเป็นพิษและภาวะติดเชื้อ เป็นความท้าทายอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดที่แพทย์ต้องเผชิญ เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะหาสาเหตุที่แน่นอนของการติดเชื้อได้ การวินิจฉัยจึงมักจะต้องเกี่ยวข้องกับการทดสอบที่หลากหลาย โดยแพทย์จะประเมินอาการของคุณและถามประวัติทางการแพทย์ จากนั้นจะทำการตรวจร่างกาย เพื่อตรวจวัดความดันโลหิตต่ำหรืออุณหภูมิของร่างกาย แพทย์อาจจะค้นหาสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะโลหิตเป็นพิษ ซึ่งรวมไปถึง
นอกจากนั้นแพทย์อาจต้องทำการทดสอบของเหลวหรือสารคัดหลั่งอีกหลายชนิด เพื่อช่วยยืนยันการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจรวมไปถึงสิ่งเหล่านี้
ทั้งนี้แพทย์อาจจะต้องตรวจสอบจำนวนเซลล์และเกล็ดเลือดของคุณ และสั่งการทดสอบ เพื่อวิเคราะห์การแข็งตัวของเลือด นอกจากนั้นอาจจะมีการดูระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดของคุณ หากว่าคุณมีภาวะโลหะเป็นพิษ มันจะทำให้คุณมีปัญหาเรื่องการหายใจ ถ้าสัญญาณการติดเชื้อไม่ชัดเจนแพทย์อาจจะสั่งให้ตรวจดูอวัยวะและเนื้อเยื่อที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ด้วยวิธีการ ดังนี้
การรักษาฉุกเฉินเกี่ยวข้องกับการให้ยาปฏิชีวนะและการให้ยาทางหลอดเลือด เพื่อปกป้องอวัยวะที่สำคัญในการคงชีพ เช่นระบบทางเดินหายใจ โดยสิ่งที่แพทย์จะทำ มีดังนี้
หากแพทย์สงสัยว่ามีแหล่งที่มาที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ พวกเขาอาจจะกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อ ระบายฝี หรือกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่ติดเชื้อ เช่น สายสวนที่คาไว้ที่ท่อปัสสาวะ (Catheters) ส่วนมาตรการช่วยชีวิตแพทย์จะทำ ดังนี้
มาตรการเหล่านี้เป็นการช่วยป้องกันร่างกายของผู้ป่วยจากความเสียหายต่อไป โดยทำให้อวัยวะทำงานและหยุดความดันโลหิตไม่ให้ลดต่ำลง
ข้อควรระวังต่อไปนี้อาจช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเบื้องต้นได้:
การติดเชื้อแบคทีเรียเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ (Septicemia) คุณควรไปพบคุณหมอทันทีหากคุณคิดว่าคุณมีอาการเข้าข่ายข้างต้น หากการติดเชื้อของคุณสามารถรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะเริ่มต้น คุณอาจป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดของคุณได้ ทั้งนี้ผู้ปกครองสามารถปกป้องเด็ก ๆ จากภาวะโลหิตเป็นพิษได้ด้วยการพาลูกไปฉีดวัคซีนตามกำหนด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย