backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

คอเลสเตซิส (Cholestasis)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 16/07/2020

คอเลสเตซิส (Cholestasis)

คอเลสเตซิส (Cholestasis) เกิดจากความผิดปกติของตับ เนื่องจากท่อถุงน้ำดีของตับเกิดการอุดตัน โดยปกติทั่วไปตับจะทำหน้าที่ผลิตน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาการโดยเฉพาะไขมัน แต่เมื่อท่อน้ำดีเกิดการอุดตัน จะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ

คำจำกัดความ

คอเลสเตซิส (Cholestasis) คืออะไร

คอเลสเตซิส (Cholestasis) เกิดจากความผิดปกติของตับ เนื่องจากท่อถุงน้ำดีของตับเกิดการอุดตัน โดยปกติทั่วไปตับจะทำหน้าที่ผลิตน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารโดยเฉพาะไขมัน แต่เมื่อท่อน้ำดีเกิดการอุดตัน จะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นโรคคอเลสเตซิสมักมีอาการตัวเหลือง ผิวเหลือง รู้สึกคันอย่างรุนแรง ปวดท้อง เป็นต้น

พบได้บ่อยเพียงใด

คอเลสเตซิสสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย  แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับสตรีมีครรภ์

อาการของคอเลสเตซิส

อาการของคอเลสเตซิส

อาการคัน แต่ไม่มีผื่น เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดของผู้ป่วยคอเลสเตซิส จะรู้สึกคันบริเวณฝ่ามือหรือฝ่าเท้า ในบางกรณีอาจรู้สึกคันทุกส่วนในร่างกาย และยิ่งรู้สึกคันมากพิเศษในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงอาการอื่น ๆ ดังนี้

  • ผิวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน)
  • ปัสสาวะสีเข้ม
  • รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนแรง
  • อุจจาระสีซีด
  •  เบื่ออาหาร

ควรไปพบหมอเมื่อใด

หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ

สาเหตุ

สาเหตุของคอเลสเตซิส

การอุดตันของน้ำดีสามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้

  • การรับประทานยา ยาที่อาจทำให้ตับเกิดความผิดปกติ อย่างยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น อะม็อกซี่ซิลลิน (Amoxicillin) มิโนซัยคลิน (Minocycline) และยากลุ่มอนาบอลิกสเตียรอยด์ (Anabolic Steroid) รวมถึง ยาคุมกำเนิด ยาต้านจุลชีพ ยากันชัก เป็นต้น
  • โรค โรคบางชนิดอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือการอักเสบไปยังท่อน้ำดี ที่อาจนำไปสู่คอเลสเตซิส เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย ความผิดปกติทางพันธุกรรม มะเร็งบางชนิด อย่างมะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ปัจจัยเสี่ยงของคอเลสเตซิส

เพศหญิงที่กำลังตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นคอเลสเตซิส รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดคอเลสเตซิส ดังต่อไปนี้

  • สมาชิกในครอบครัวเคยมีประวัติในการเป็นอหิวาตกโรคระหว่างการตั้งครรภ์
  • ตั้งครรภ์ฝาแฝด
  • เคยมีประวัติต่อการเป็นโรคตับ
  • นอกจากนี้ยังพบว่าผู้หญิง 60-75% หากเคยเป็นคอเลสเตซิสในช่วงการตั้งครรภ์ อาจมีโอกาสในการเป็นได้อีกครั้ง

    การวินิจฉัยและการรักษา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

    การวินิจฉัยคอเลสเตซิส

    ในเบื้องต้นแพทย์อาจสอบถามประวัติและอาการทำการตรวจร่างกาย นำเลือดมาตรวจค่าการทำงานของตับเพื่อหาความผิดปกติ หากผลการตรวจออกมาว่าผิดปกติอาจตรวจด้วยการอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging : MRI) เพื่อหาความผิดปกติได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น

    การรักษาคอเลสเตซิส

    เมื่อแพทย์พิจารณาพบว่าสาเหตุที่ผู้ป่วยเป็นคอเลสเตซิสเกิดจากการใช้ยา แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาตัวอื่นแทน หากสาเหตุเกิดจากโรค เช่น นิ่ว เนื้องอก ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดคอเลสเตซิส แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัด

    การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง

    การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อรักษาคอเลสเตซิส

    เราสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดคอเลสเตซิส ได้ด้วยวิธีการป้องกัน ดังต่อไปนี้

    • ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคตับอักเสบ
    • ห้ามใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิด
    • หลีกเลี่ยงการใช้ยาทางหลอดเลือดดำ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 16/07/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา