ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
โรค พังผืดในไขกระดูก (Myelofibrosis หรือ MF) เป็นโรคมะเร็งไขกระดูกชนิดหายาก จัดอยู่ในกลุ่มของมะเร็งโลหิตวิทยา หรือมะเร็งเม็ดเลือด (Blood Cancers) ที่เรียกว่า กลุ่มโรคเม็ดเลือดสูง หรือกลุ่มโรคไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดมากผิดปกติ (Myeloproliferative neoplasm หรือ MPN)
โรคพังผืดในไขกระดูก (Myelofibrosis) เป็นโรคมะเร็งไขกระดูกชนิดหายาก จัดอยู่ในกลุ่มของมะเร็งโลหิตวิทยา หรือมะเร็งเม็ดเลือด (Blood Cancers) เมื่อเป็นแล้วจะส่งผลต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือด ทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดได้ตามปกติ และทำให้เซลล์เม็ดเลือดทำงานผิดปกติด้วย
เมื่อเซลล์เม็ดเลือดทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้เกิดพังผืดที่ไขกระดูก ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะโลหิตจางรุนแรง จนรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดเรี่ยวแรงอย่างหนัก นอกจากนี้ โรคพังผืดในไขกระดูกยังอาจทำให้ผู้ป่วยมีเกล็ดเลือดต่ำ จนเสี่ยงเกิดภาวะเลือดออกได้ง่ายขึ้น และผู้ป่วยโรคพังผืดในไขกระดูกส่วนใหญ่ มักมีปัญหาม้ามและไตโตด้วย
โรคพังผืดในไขกระดูกนี้ หากเกิดขึ้นเองจะเรียกว่า โรคพังผืดในไขกระดูกปฐมภูมิ (Primary Myelofibrosis) แต่หากเป็นผลมาจากโรคอื่น จะเรียกว่า โรคพังผืดในไขกระดูกชนิดทุติยภูมิ (Secondary Myelofibrosis)
โรคพังผืดในไขกระดูก เป็นโรคหายาก จากสถิติในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ประชากร 100,000 คน จะพบผู้ป่วยโรคนี้เพียง 1.5 คนเท่านั้น โรคพังผืดในไขกระดูกสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่จะพบมากในคนวัย 50 ขึ้นไป และหากเป็นเด็ก ก็มักมีอายุน้อยกว่า 3 ปี
โดยปกติแล้ว อาการของโรคพังผืดในไขกระดูกจะพัฒนาช้ามาก และเมื่อยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ก็มักจะไม่แสดงอาการหรือสัญญาณใด ๆ ที่สามารถสังเกตได้โดยง่ายด้วย แต่หากอาการของโรคพัฒนาขึ้น และส่งผลกระทบต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดมากขึ้น ก็มักจะทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการต่างๆ โปรดปรึกษาคุณหมอ
หากคุณมีสัญญาณหรืออาการตามรายละเอียดด้านบนหรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์
ร่างกายคนแต่ละคนแสดงอาการแตกต่างกัน จึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
โรคพังผืดในไขกระดูกเกิดจากเซลล์ต้นกำเนิด หรือเซลล์ต้นตอ (Stem Cell) ในไขกระดูกเกิดการกลายพันธุ์ในระดับดีเอ็นเอ ซึ่งในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า การกลายพันธุ์ในระดับยีนที่เกิดขึ้นกับเซลล์ต้นกำเนิดในไขกระดูกนั้นเกิดจากสาเหตุใดกันแน่
โดยปกติแล้ว เซลล์ต้นกำเนิดจะมีความสามารถในการทำสำเนาและแบ่งตัวออกเป็นเซลล์จำเพาะ (Specialized Cells) ที่ทำหน้าที่สร้างเลือดในร่างกายของเรา ซึ่งก็คือ เซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดนั่นเอง
เมื่อเซลล์ต้นกำเนิดที่กลายพันธุ์ทำสำเนาและแบ่งตัว จะทำให้เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นกลายเป็นเซลล์กลายพันธุ์ไปด้วย พอในไขกระดูกมีเซลล์กลายพันธุ์มาก ๆ เข้า จึงส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกระบวนการผลิตเลือดในร่างกาย ทำให้ร่างกายของเรามีเซลล์เม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะโลหิตจาง ทั้งยังทำคุณมีเซลล์เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดมากเกินไปด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นลักษณะอาการสำคัญของโรคพังผืดในไขกระดูกเลยทีเดียว
ยีนกลายพันธุ์ที่พบในผู้ป่วยโรคพังผืดในไขกระดูกนั้นมีด้วยกันหลายชนิด แต่ที่พบได้มากที่สุด ได้แก่ ยีน Janus kinase 2 (JAK2) และหากแพทย์ทราบว่าโรคพังผืดในไขกระดูกของคุณนั้นเกิดจากยีนใด ก็จะช่วยให้สามารถพยากรณ์โรคและรักษาได้ตรงจุดขึ้น
ปัจจัยเหล่านี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคพังผืดในไขกระดูกของคุณได้
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ปกติแล้ว แพทย์จะวินิจฉัยโรคพังผืดในไขกระดูก โดยใช้การทดสอบและกระบวนการต่อไปนี้
หากเป็นโรคพังผืดในไขกระดูกแบบความเสี่ยงต่ำ คุณอาจยังไม่ต้องเข้ารับการรักษาทันที แต่หากเป็นโรคพังผืดในไขกระดูกแบบความเสี่ยงสูง แพทย์อาจต้องใช้วิธีโหมรักษา (Aggressive Treatment) เช่น การปลูกถ่ายไขกระดูก ส่วนโรคพังผืดในไขกระดูกแบบความเสี่ยงปานกลาง แพทย์มักจะมุ่งเน้นที่การจัดการกับอาการที่เกิดขึ้น เช่น รักษาภาวะโลหิตจางด้วยการให้เลือด ฮอร์โมนบำบัด รักษาภาวะม้ามโตด้วยการให้ยา เคมีบำบัด การตัดม้าม การฉายแสง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองต่อไปนี้ อาจช่วยรับมือกับโรคพังผืดในไขกระดูกได้
หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หรือการรักษา เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย