ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome) มักพัฒนามาจากภาวะหายใจล้มเหลวเรื้อรัง เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถกระจายออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เต็มที่ทำให้หายใจลำบาก
ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน หรือ อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome) เป็นภาวะทางการแพทย์ที่รุนแรงและอาจมีอันตรายจนถึงชีวิต ภาวะนี้เกิดจากภาวะที่ของเหลวในหลอดเลือด ซึมผ่านหลอดเลือดและผนังถุงลมเข้าไปอยู่ในถุงลมแทนที่อากาศ และปิดกั้นไม่ให้อวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้รับออกซิเจน ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน มักพัฒนามาจากผู้ที่มีอากาศป่วยภาวะหายใจล้มเหลวเรื้อรัง มักเกิดขึ้นในผู้ป่วยหนักและเป็นกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์
โดยทั่วไปแล้ว อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน จะเกิดกับผู้ป่วยหนักที่เข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล และอาจเกิดขึ้นได้ในทารกเช่นกัน ภาวะดังกล่าวสามารถจัดการได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดภาวะนี้ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
ส่วนใหญ่แล้ว อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน มักเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันนับจากวันที่ป่วยหรือบาดเจ็บ ซึ่งอาการโดยทั่วไปมีดังนี้
สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการต่างๆ โปรดปรึกษาคุณหมอ
อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน เป็นกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีภาวะนี้ มักจะเป็นผู้ป่วยที่รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว
อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน เกิดจากของเหลวที่รั่วออกมาจากหลอดเลือดที่เล็กที่สุดในปอดและซึมเข้าสู่ถุงลมเล็กๆ ซึ่งสาเหตุของภาวะนี้ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ทางตรงและทางอ้อมต่อปอด สาเหตุที่พบได้ทั่วไป ได้แก่
มีปัจจัยเสี่ยงมากมายที่ทำให้เกิด อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน เช่น
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ยังไม่มีการทดสอบเพื่อยืนยันการวินิจฉัยสภาวะนี้ แต่การทดสอบที่เคยใช้ในการวินิจฉัย อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน อาจทำได้ด้วยวิธี ดังต่อไปนี้
ผู้ป่วยที่มี อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน มักได้รับการรักษาในห้องไอซียู (ICU) การรักษามีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีออกซิเจนในเลือดเพียงพอ เพื่อป้องกันความล้มเหลวของอวัยวะและรักษาสาเหตุของภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
อาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ป้องกันได้หากเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตแบบเดิมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคและรู้วิธีป้องกันอย่างถูกต้อง
หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ดีขึ้น
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย