backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ไวรัสตับอักเสบ ซี (Hepatitis C)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 27/03/2023

ไวรัสตับอักเสบ ซี (Hepatitis C)

ไวรัสตับอักเสบ ซี  (Hepatitis C) คือการที่ตับโดยไวรัสตับอักเสบ ซี สามารถนำไปสู่การอักเสบในตับ เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบที่พบได้ทั่วไป และถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในไวรัสที่อันตรายที่สุด

คำจำกัดความ

ไวรัสตับอักเสบ ซี คืออะไร

ไวรัสตับอักเสบ ซี (Hepatitis C) หมายถึง สภาวะของการที่ตับถูกทำลายโดยไวรัสตับอักเสบ ซี (hepatitis C virus) ซึ่งจะนำไปสู่การอักเสบในตับ และทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนี้ ไวรัสตับอักเสบซีเป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบที่พบได้ทั่วไป และจัดว่าเป็นหนึ่งในไวรัสที่อันตรายที่สุด โดยปกติ ไวรัสตับอักเสบซีนั้นไม่แสดงอาการ คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อนี้จนกระทั่งมีสัญญาณของตับเสียหายในหลายสิบปีต่อมา และจะทราบว่าตัวเองมีเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเมื่อตรวจร่างกาย ดังนั้น จึงควรตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี

ไวรัสตับอักเสบซีพบได้บ่อยได้แค่ไหน

โรคนี้เป็นโรคที่พบได้ทั่วไป สามารถเกิดได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย โรคนี้เป็นโรคที่พบได้มากที่สุดจากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO)

อาการ

อาการของไวรัสตับอักเสบซีเป็นอย่างไร

หากเป็นไวรัสตับอักเสบซีในระดับเบา ร่างกายจะไม่แสดงอาการอะไรจนกระทั่งมันเปลี่ยนไปเป็นการติดเชื้อที่ร้ายแรงมากขึ้น สัญญาณและอาการของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีที่พบได้ในช่วงแรกคือ

  • เหนื่อยล้า
  • คลื่นไส้ หรือไม่อยากอาหาร
  • ปวดท้อง
  • ปัสสาวะสีเข้ม
  • ดวงตาและผิวหนังเป็นสีเหลือง หรือดีซ่าน
  • มีไข้
  • ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ
  • หลังจากที่การติดเชื้อรุนแรงมากยิ่งขึ้น สัญญาณและอาการอาจจะมี

    • เลือดออกและมีรอยช้ำได้ง่าย
    • คันที่ผิวหนัง
    • มีของเหลวสะสมในช่องท้อง หรือท้องมาน (Ascitis)
    • ขาบวม
    • น้ำหนักลด
    • สับสน ง่วงซึม และพูดไม่ชัด
    • มีรอยเส้นเลือดเหมือนแมงมุมบนผิวหนัง

    อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาคุณหมอ

    ควรไปพบหมอเมื่อไร

    เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน หากมีสัญญาณปัญหาสุขภาพของภาวะไวรัสตับอักเสบซี ควรพูดคุยกับหมอเพื่อหาแนวทางในการรักษาที่ดีที่สุด

    สาเหตุ

    สาเหตุของไวรัสตับอักเสบซี

    สาเหตุที่พบได้มากที่สุดของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี คือไวรัสตับอักเสบซี (hepatitis C virus) ซึ่งแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสกับเลือดที่ปนเปื้อนไวรัสจากผู้ที่ติดเชื้อ หรือหากสัมผัสบริเวณพื้นผิวที่มีเลือดแห้งเป็นเวลาหลายสัปดาห์

    วิธีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแบบอื่นคือ การใช้ยาและเข็มร่วมกัน มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน โดยเฉพาะหากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน อาจจะได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบซี หากใช้เข็มร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือหากมีเชื้อเอชไอวี (human immunodeficiency virus) ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ ผู้หญิงที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบซี สามารถส่งต่อเชื้อไปยังบุตรได้ โรคไวรัสตับอักเสบซีไม่แพร่กระจายทางอาหาร น้ำ หรือการสัมผัสโดยทั่วไป

    ปัจจัยเสี่ยง

    ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไวรัสตับอักเสบซี

    ปัจจัยเสี่ยงมีหลายประการ อย่างเช่น

    • หากสัมผัสกับผู้ติดเชื้อบ่อยครั้ง เช่น เป็นผู้ดูแลสุขภาพ หรือผู้ดูแลผู้ป่วยหลัก
    • หากกำลังใช้ยเสพติด หรือมีเชื้อเอชไอวี
    • หากใช้เข็มสักร่วมกับผู้อื่น หรือสักในห้องที่ไม่สะอาด
    • หากกำลังทำการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis) เป็นเวลานาน
    • บางคนอาจจะเป็นไวรัสตับอักเสบซี เนื่องจากเคยผ่านการรักษาโรคหรือภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น การถ่ายเลือด ปลูกถ่ายอวัยวะ

    การวินิจฉัยและการรักษาโรค

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์ทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    การวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบซี

    คุณหมอจะทำการตรวจเพื่อหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะสัมผัสกับเชื้อไวรัส คุณหมอจะเริ่มรักษาด้วยการแนะนำให้ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เพื่อชะลอการเสียหายของตับ เพราะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมักจะสร้างความเสียหายต่อตับเป็นเวลานาน ก่อนที่ร่างกายจะมีสัญญาณหรืออาการ

    หากสงสัยว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบี คุณหมอจะให้ตรวจเลือด ทั้งเพื่อวัดปริมาณของเชื้อไวรัสในเลือด เพื่อช่วยประเมินการสร้างพันธุกรรมของไวรัส เพื่อช่วยใกำหนดตัวเลือกการรักษา

    นอกจากนั้น อาจจำเป็นต้องทำการทดสอบตัวอย่างเนื้อเยื่อของตับเพื่อที่คุณหมอจะได้ทราบระดับความรุนแรงของความเสียหายของตับ จำเป็นต้องใช้ตัวอย่างเนื้อเยื่อของตับชิ้นเล็กๆ เพื่อไปตรวจในห้องแล็บ ขณะที่การตัดชิ้นเนื้อตัวอย่างของตับไปตรวจ สามารถช่วยบ่งชี้ระดับความรุนแรงของโรค และเป็นแนวทางการตัดสินใจในการรักษาได้

    การรักษาไวรัสตับอักเสบซี

    การใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน เพื่อป้องกันการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสในร่างกายสามารถรักษาโรคตับอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้ผล ยาหลักสองชนิดคือ เพกิเลเตด อินเตอร์ฟีรอน (pegylated interferon) และไรบาไวริน (ribavirin) รวมทั้งไซมีพรีเวียร์ (simeprevir) โซฟอสบูเวียร์ (sofosbuvir) และดาคลาทาสเวียร์ (daclatasvir)

    การปลูกถ่ายตับนั้นเป็นทางเลือกที่จำเป็นในกรณีที่ตับเสียหายอย่างรุนแรง ขณะทำการปลูกถ่ายอวัยวะ ตับที่เสียหายจะถูกนำออกแล้วแทนที่ด้วยตับที่สุขภาพดี อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่ารักษาหายแล้ว จำเป็นต้องรับยาต้านไวรัสเป็นประจำ เพราะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีอาจเกิดขึ้นกับตับใหม่นี้ได้

    การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง

    การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือการเยียวยาตนเองที่จะช่วยรับมือกับโรคตับอักเสบซี

    ลักษณะไลฟ์สไตล์และการเยียวยาด้วยตนเองต่อไปนี้อาจจะช่วยรับมือกับโรคตับอักเสบซีได้

    หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำความเข้าใจให้ดีขึ้นถึงทางออกที่ดีที่สุด

     

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 27/03/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา