ทดสอบแอนตี้บอดี้-โจ-1 เป็นการทดสอบเพื่อวัดระดับแอนตี้บอดี้-โจ-1 ในกระแสเลือด โจวัน (histidyl tRNA synthetase) แอนตี้บอดี้-โจ-1 เป็นตัวบ่งชี้โรคกล้ามเนื้ออักเสบ และพบในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออักเสบ ที่มีโรคเนื้อเยื่อปอดอักเสบร่วมด้วย
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ทดสอบแอนตี้บอดี้-โจ-1 เป็นการทดสอบเพื่อวัดระดับแอนตี้บอดี้-โจ-1 ในกระแสเลือด โจวัน (histidyl tRNA synthetase) แอนตี้บอดี้-โจ-1 เป็นตัวบ่งชี้โรคกล้ามเนื้ออักเสบ และพบในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออักเสบ ที่มีโรคเนื้อเยื่อปอดอักเสบร่วมด้วย
ทดสอบแอนตี้บอดี้-โจ-1 เป็นการทดสอบเพื่อวัดระดับแอนตี้บอดี้-โจ-1 ในกระแสเลือด โจวัน (histidyl tRNA synthetase) ก็คือเอนไซม์ในกลุ่ม acyl-tRNA synthetase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบในเซลล์ชนิดที่มีนิวเคลียส แอนตี้บอดี้-โจ-1 ในผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้ออักเสบจะจับตัวอยู่กับปลายสายโปรตีน ที่ช่วยยับยั้งฤทธิ์การเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์ในหลอดทดลองได้
แอนตี้บอดี้-โจ-1 เป็นตัวบ่งชี้โรคกล้ามเนื้ออักเสบ และพบในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออักเสบ ที่มีโรคเนื้อเยื่อปอดอักเสบร่วมด้วย แอนตี้บอดี้เหล่านี้พบได้มากกว่าครึ่งในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออักเสบที่มีพังผืด ในเนื้อเยื่อปอด และโรคข้ออักเสบแบบสมมาตรร่วม
ก็เพื่อประเมินโรคในผู้ป่วยที่มีสัญญาณและอาการแสดง ที่เกี่ยวข้องกับโรคทางระบบเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่ปวดกล้ามเนื้อ และมีภาวะแขนขาอ่อนแรง มีอาการแสดงของโรคปอด โรคเรเนาด์ (Raynaud’s phenomenon) และโรคข้ออักเสบร่วมด้วย
คำแนะนำที่จำเป็นสำหรับการเตรียมควาพร้อมก่อนทำการตรวจได้แก่
สิ่งที่ท่านต้องเตรียมตัวก่อนการทดสอบก็คือ
รัดต้นแขนผู้ป่วยด้วยแถบยางยืดเพื่อห้ามการไหลเวียนของเลือด วิธีนี้จะทำให้เส้นเลือดดำที่อยู่ใต้แถบผ้าแถบยางขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งจะทำให้ใช้เข็มเจาะเข้าไปในเส้นเลือดดำได้ง่ายขึ้น
1. ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะเจาะด้วยแอลกอฮอล์
2. แทงเข็มเข้าเส้นเลือดดำ บางทีอาจต้องใช้เข็มมากกว่า 1 เข็ม
3. ต่อหลอดเก็บเลือดเข้ากับเข็มเพื่อให้เลือดไหลเข้าหลอดเก็บ
4. กดบริเวณที่เจาะแล้วปิดพลาสเตอร์
การทดสอบหาแอนตี้บอดี้-โจ-1 จากปัสสาวะ สามารถทำได้ 2 แบบ คือการเก็บตัวอย่างปัสสาวะในช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมง และในระยะเวลา 2 ชั่วโมง การเก็บตัวอย่างปัสสาวะในช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมงนั้น ทำโดยเก็บปัสสาวะเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า และจดเวลาที่เก็บปัสสาวะในครั้งแรกเอาไว้ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มของช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่จะทำการเก็บตัวอย่าง
การเก็บตัวอย่างปัสสาวะแบบ 2 ชั่วโมง ก็ใช้วิธีการเก็บเช่นเดียวกัน เพียงแต่เก็บในระยะ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
ในระหว่างการทดสอบ…ท่านอาจมีภาวะดังนี้
เนื่องจากการเก็บตัวอย่างเลือดจะเก็บจากเส้นเลือดบริเวณแขน ซึ่งมีแถบยางยืดรัดบริเวณต้นแขนไว้ ดังนั้นจึงอาจรู้สึกแน่นและไม่สะดวกสบายบ้าง แต่อาจไม่รู้สึกอะไรเลยหรือรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ท่านจะไม่มีอาการปวดใดๆทั้งสิ้นหากเป็นการตรวจหาจากตัวอย่างปัสสาวะ
มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาน้อยมากจากการเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดดำ
ประการแรก คุณอาจมีรอยช้ำเป็นบริเวณเล็กๆ อย่างไรก็ตามคุณสามารถลดโอกาสที่จะเกิดการช้ำได้โดยกดบริเวณที่ถูกเจาะไว้ซักระยะหนึ่ง
ในบางกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก เส้นเลือดดำอาจบวมหลังจากการเจาะตัวอย่างเลือดไปตรวจ ซึ่งเรียกว่าภาวะหลอดเลือดดำอักเสบ การประคบร้อนวันละหลายๆ ครั้ง จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้การเกิดภาวะเลือดออกก็สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยบางรายที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ อีกทั้งการใช้ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน (Coumadin) และยาลดการเกาะตัวของเม็ดเลือดอื่นๆ ก็อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกได้มากขึ้น ถ้ามีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือหากกำลังรับประทานยาลดการเกาะตัวของเลือดอยู่ ก็ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการเก็บตัวอย่าง
หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลการทดสอบ กรุณาปรึกษาแพทย์
การตรวจทางห้องปฏิบัติการอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ ประวัติสุขภาพ เครื่องมือที่ใช้ ตรวจ และปัจจัยอื่นๆ
โดยทั่วไประดับแอนตี้บอดี้-โจ-1 จะมีค่าน้อยกว่า 1 ยูนิต ดังนั้นหากท่านมีระดับแอนตี้บอดี้-โจ-1 มากกว่า 1 ยูนิต นั่นก็แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว
โปรดปรึกษาแพทย์หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลการทดสอบ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย