อาจช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจ
มะละกอมีวิตามินซี โพแทสเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ และไฟเบอร์ ซึ่งอาจช่วยทำให้หลอดเลือดแดงแข็งแรงและส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด ทั้งยังสามารถช่วยปกป้องหลอดเลือดแดงด้วยการลดระดับไขมันที่ไม่ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และความดันโลหิตสูง จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Vascular Health and Risk Management พ.ศ. 2552 ศึกษาเกี่ยวกับไลโปโปรตีนและประโยชน์ในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด พบว่า ความเข้มข้นของคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ หรือคอเลสเตอรอลแอลดีแอล (LDL) อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ดังนั้น หากร่างกายมีความเข้มข้นของไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง หรือคอเลสเตอรอลเอชดีแอล (HDL) ก็อาจช่วยลดการเกาะตัวของไขมันบนหลอดเลือด ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ
อาจช่วยป้องกันความเสียหายของผิว
เบต้าแคโรทีนในมะละกอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิว นอกจากนี้ วิตามินซี และไลโคปีนก็อาจช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวดูกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น จากการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Dermato-Endocrinology พ.ศ. 2555 ศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างโภชนาการกับความชราของผิว พบว่า แคโรทีนอยด์ ไทโคฟีรอล (Tocopherols) ฟลาโวนอยด์ และสารสกัดจากพืชหลายชนิด มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการดูแลผิวหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพื่อช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
นอกจากนี้ การวิจัยอีกหนึ่งชิ้นที่ตีพิมพ์ในวารสาร Photochemical and Photobiological Sciences พ.ศ. 2549 ศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่อุดมด้วยไลโคปีนและประสิทธิภาพในการป้องกันแสง พบว่า ส่วนประกอบของพืช เช่น แคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ อาจช่วยป้องกันความเสียหายจากรังสียูวี เบต้าแคโรทีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการสร้างเม็ดเลือดแดงที่เกิดจากรังสียูวี เนื่องจาก หลังจากอาสาสมัครได้รับไลโคปีนเป็นเวลา 10-12 สัปดาห์ ความไวต่อการเกิดผื่นแดงที่เกิดจากรังสียูวีลดลง
ผลข้างเคียงในการบริโภคมะละกอ
- มะละกอมีฤทธิ์เป็นยาระบาย การบริโภคมะละกอมากเกินไปอาจทำให้ท้องเสียและปวดท้อง
- มะละกอดิบมีน้ำยางซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เรียกว่า ปาเปน (Papain) หากรับประทานปาเปนมากเกินไปอาจทำให้หลอดอาหารเสียหายได้
- ผิวของมะละกอมีน้ำยางที่อาจส่งผลให้กระเพาะอาหารระคายเคือง ไม่สบายตัว ทั้งยังอาจทำให้ท้องร่วง และเกิดภาวะขาดน้ำได้
- มะละกอดิบควรนำไปปรุงสุกก่อนรับประทานเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากผลมะละกอดิบจะมีน้ำยางเข้มข้นสูง ซึ่งอาจเป็นพิษต่อทารกในครรภ์ ทำให้มดลูกหดตัว และคลอดก่อนกำหนด ทั้งยังอาจทำให้เกิดการแท้ง หรือภาวะพิการแต่กำเนิด
- สำหรับผู้ที่แพ้ง่าย เอมไซน์ปาเปนในมะละกออาจทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง ส่วนยางของมะละกอก็อาจทำให้ผิวระคายเคืองในระดับปกติไปจนถึงระดับรุนแรง
- บางส่วนของมะละกอ เช่น เมล็ด มีเบนซิล ไอโซไธโอไซยาเนต (Benzyl Isothiocyanate) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มไอโซไธโอไซยาเนต (Isothiocyanate) ที่มักพบได้ในพืช เมื่อบริโภคมากเกินไปอาจส่งผลต่อการหดตัวของหลอดเลือดได้
- หากมีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์ อาจต้องปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานมะละกอ เนื่องจากมะละกอสุกมีน้ำตาลมาก ซึ่งอาจทำให้อาการของไทรอยด์กำเริบหรือเป็นหนักกว่าเดิม หรือหายช้าด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย