เมล็ดเจียมีสารต้านอนุมูลอิสระเควอซิทิน (Quercetin) ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดความรุนแรงของภาวะความดันโลหิตสูง ด้วยการส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด และช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชันในร่างกาย การบริโภคเมล็ดเจีย จึงอาจช่วยลดความดันโลหิตได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับคุณสมบัติของเมล็ดเจียในการช่วยลดความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition and Health เมื่อปีพ.ศ. 2564 นักวิจัยแบ่งกลุ่มอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้บริโภคเมล็ดเจียในปริมาณ 400 กรัม/วัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ส่วนอีกกลุ่มไม่บริโภคอะไรเพิ่มเติมนอกจากการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวันตามปกติ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างด้านสุขภาพของทั้ง 2 กลุ่ม ผลที่พบคือ กลุ่มที่บริโภคเมล็ดเจียมีระดับความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้บริโภคอะไรเพิ่มเติม จึงสรุปได้ว่า การบริโภคเมล็ดเจียอาจช่วยลดความดันโลหิตได้
-
ผักบุ้ง
ผักบุ้งอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยควบคุมความดันโลหิต โดยทำหน้าที่ลดความตึงของหลอดเลือด และกระตุ้นให้ร่างกายขับโซเดียมซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของภาวะความดันโลหิตสูง
งานวิจัยชิ้นหนึ่งว่าด้วยคุณสมบัติของโพแทสเซียมในการป้องกันความดันโลหิตสูงที่ตีพิมพ์ในวารสาร Seminars in Nephrology เมื่อปีพ.ศ. 2542 ระบุว่า การบริโภคอาหารเสริมโพแทสเซียมในปริมาณมากขึ้น อาจช่วยป้องกันหรือบรรเทาภาวะความดันโลหิตสูงได้ โดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่ไม่สามารถลดการบริโภคโซเดียมซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้
นอกจากผักบุ้ง ยังมีอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงอื่น ๆ ได้แก่ มันฝรั่ง ผักโขม กล้วย เนื้อไก่ อะโวคาโด ส้ม มะพร้าว แซลมอน และผลิตภัณฑ์จากนมชนิดต่าง ๆ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย