ความหวาน
งานวิจัยด้านโภชนาการได้ให้ข้อมูลว่า ชานมไข่มุกจัดเป็นเครื่องดื่มรสหวาน (Sugar‐sweetened beverages หรือ SSB) เนื่องจากชานมไข่มุกมีน้ำเชื่อมฟรุกโตสที่ผลิตจากข้าวโพด (High‐fructose corn syrup หรือ HFCS) นอกจากนี้ งานวิจัยยังได้วิเคราะห์ส่วนประกอบของน้ำตาล (ซูโครส ฟรุกโตส กลูโคส และเมเลไซโตส) และค่าความร้อน (Calorific values) ของชานมไข่มุก ผลการวิจัยพบว่า ชานมไข่มุกควรจัดเป็นเครื่องดื่มรสหวาน
น้ำตาลใน ชานมไข่มุก
สถาบัน Dietary Guidelines Advisory Committee (DGAC) แนะนำว่าควรจำกัดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม โดยปริมาณน้ำตาลควรต่ำกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมดของเครื่องดื่ม จากการศึกษาพบว่า ชานมไข่มุก 16 ออนซ์มีปริมาณน้ำตาลเกิน นอกจากนี้ หากเพิ่มเยลลี่หรือเนื้อพุดดิ้งลงไปในชานมไข่มุก แคลอรี่ก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 16 และการกินชานมไข่มุกแก้วใหญ่อาจให้พลังงานถึง 500 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถือเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณแคลอรี่ที่ควรได้รับต่อวัน
การบริโภคชานมไข่มุกกับความเสี่ยงโรคอ้วน
ชานมไข่มุกมีปริมาณแคลอรี่และน้ำตาลเทียบเท่ากับเครื่องดื่มรสหวาน (Sugar-sweetened beverages หรือ SSB) ชนิดอื่นๆ เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้รสหวาน เครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งเครื่องดื่มรสหวานถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอ้วน เนื่องจากนี้ในเครื่องดื่มรสหวานมีปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ยังส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานและโรคเก๊าท์ นอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่มรสหวานปริมาณ 16 ออนซ์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน สามารถทำให้เกิดกลุ่มอาการอ้วนลงพุง (Metabolic syndrome) และมีไขมันสะสมในตับ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย