backup og meta

สูตรแยมมะม่วง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 31/08/2020

    สูตรแยมมะม่วง

    บทความนี้ Hello คุณหมอ ขอเอาใจคนชอบทานมะม่วงด้วยการนำ “สูตรแยมมะม่วง” มาฝากทุกคนกันคะ ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน วัตถุดิบก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ที่สำคัญยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย จะมีวิธีการทำและประโยชน์อย่างไรนั้น ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย

    แยมมะม่วง รสชาติอมเปรี้ยวหวาน อร่อยถูกใจคนทุกวัย

    แยมมะม่วง (Mango Jam) จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิต ที่ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนทุกเพศทุกวัย เพราะนอกจากรสชาติที่หอมหวานละมุนลิ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เช่น ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสุขภาพหัวใจ เป็นต้น

    สูตรแยมมะม่วง (Mango Jam)

    ส่วนผสม

  • มะม่วงสุก
  • มะนาวหรือน้ำมะนาว
  • น้ำตาล พอประมาณเนื่องจากมะม่วงสุกมีรสชาติหวานอยู่แล้ว (สำหรับผู้มีโรคประจำตัวเช่น โรคเบาหวาน อาจตวงปริมาณตามความเหมาะสม หรืออาจเลือกใช้สารสกัดจากหญ้าหวานแทน)
  • วิธีทำ

    • เลือกมะม่วงที่ไม่ดิบและสุกมากจนเกินไป ปอกเปลือกมะม่วงหั่นเป็นชิ้นๆ นำแกนกลางออก
    • ใส่มะม่วงลงในหม้อกับน้ำตาลลงไปแล้วคนให้เข้ากัน อาจเพิ่มน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย
    • ตั้งไฟต้มให้เดือด คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นลดไฟลง
    • ทิ้งไว้ให้อยู่ในอุณหภูมิปกติ แล้วตักใส่ขวดโหล ไว้รับประทาน (หากต้องการให้เนื้อเนียนอาจนำไปปั่นเพิ่ม)

    สูตรแยมมะม่วง

    “มะม่วง’ ผลไม้ที่กินได้ทั้งคาว-หวาน อร่อย..มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    มะม่วง (Mango) มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  มีประวัติการปลูกมายาวนานถึง 4,000 ปี และยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทั้งเมนูคาว-หวาน เช่น มะม่วงกวน พายมะม่วง แยมมะม่วง ข้าวเหนียวมะม่วง ไก่ย่างซอสมะม่วง

    กล่าวได้ว่า มะม่วงเป็นอีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากมีหลากหลายสายพันธุ์ และมีหลากหลายรสชาติ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้

    บำรุงสุขภาพหัวใจ

    • ธาตุแมกนีเซียมและโพแทสเซียมในมะม่วง มีสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ช่วยลดระดับความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดไตรกลีเซอไรด์และระดับกรดไขมันอิสระ (Free Fatty Acid)

    ปรับสมดุลลำไส้

    • มะม่วงมีเส้นใยอาหารจำนวนมาก ช่วยปรับสมดุลระบบลำไส้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรเทาอาการท้องผูก ท้องร่วง

    บำรุงสุขภาพดวงตา

    • มะม่วงมีวิตามินเอ และอุมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย ส่งเสริมการมองเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    บำรุงผมและผิวหนัง

    • วิตามินเอในมะม่วงช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและการผลิตซีบัม ซึ่งมีสรรพคุณในการให้ความชุ่มชื้นแก้หนังศีรษะเพื่อให้เส้นผมมีสุขภาพดี ยิ่งไปกว่านั้นวิตามินเอและเรตินอยด์ ยังช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดอีกด้วย

    ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด                          

    • มะม่วงมีโพลีฟีนอล (Polyphenol) สูงที่สามารถป้องกันภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่นซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งหลายชนิด ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและทำลายเซลล์มะเร็งต่างๆ รวมถึงมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 31/08/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา