backup og meta

ไวรัสซิก้า อาการ และการป้องกัน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ปราโมทย์ วงศ์คำ · แก้ไขล่าสุด 31/12/2022

    ไวรัสซิก้า อาการ และการป้องกัน

    ไวรัสซิก้า (Zika Virus) คือเชื้อไวรัสที่สามารถเข้าสู่ร่างกายของคนได้ผ่านทางยุงที่เป็นพาหะนำเชื้อโรค ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสซิก้าอาจมีอาการต่าง ๆ เช่น มีไข้ ผื่น ตาแดง ปวดหัว นอกจากนี้ หากหญิงตั้งครรภ์ติดไวรัสซิก้า อาจส่งผลที่อันตรายต่อทารกในครรภ์ และอาจทำให้ทารกในครรภ์พิการแต่กำเนิดหรือเสียชีวิตได้อีกด้วย

    ไวรัสซิก้า คืออะไร

    ไวรัสซิก้า สามารถติดต่อเข้าสู่ร่างกายของคนเป็นหลัก หลังจากถูกยุงลายที่ติดเชื้อกัด ซึ่งยุงลายชนิดหลัก ๆ คือ ยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) ในพื้นที่เขตร้อน เพราะยุงลายจะชุกชุมมากที่สุดในช่วงเวลากลางวัน ยุงชนิดนี้เป็นชนิดเดียวกับที่แพร่เชื้อ ไข้เลือดออก (Dengue) ชิคุนกุนยา (Chikungunya) และไข้เหลือง (Yellow fever) นอกจากจะเข้าสู่กระแสเลือดจากการถูกกัดโดยตรงแล้ว ยังสามารถติดต่อกันในรูปแบบของการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย

    ระยะฟักตัว ช่วงเวลาตั้งแต่การสัมผัสเชื้อจนถึงการเกิดอาการ ของโรคไวรัสซิก้ายังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เหมือนจะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วันไวรัสซิก้า โรคร้ายจากยุง ชนิดนี้จะเริ่มออกอาการเบื้องต้นที่สังเกตกันง่าย คือ

    • มีไข้
    • ผื่นบนผิวหนัง
    • เยื่อบุตาอักเสบ หรือตาแดง
    • เจ็บกล้ามเนื้อ และข้อต่อ
    • ปวดหัว

    จากการรีวิวบทความต่างๆ ในช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา องค์กรอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า อาการติดเชื้อไวรัสซิก้าระหว่างช่วงตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุของการเกิดความพิการทางสมองตั้งแต่กำเนิด (Congenital brain abnormalities) อย่างเช่น ภาวะศีรษะเล็ก (Microcephaly) และไวรัสซิก้ายังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré) ถึงอย่างไรนักวิจัยยังคงพยายามอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบหาความเชื่อมโยงระหว่างไวรัสซิก้า ที่อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาทเพิ่มเติม เพื่อที่จะหาแนวทางการรักษาในอนาคตต่อไป

    การติดเชื้อไวรัสซิก้าจากการมีเพศสัมพันธ์

    เคยมีนักวิจัยท่านหนึ่งได้ค้นพบถึงเชื้อไวรัสที่ปะปนอยู่ในน้ำอสุจิ หากเมื่อเพศชายปล่อยสารคัดหลั่งนี้เข้าสู่ร่างกายของเพศหญิงในขณะมีเซ็กส์อยู่แล้วละก็ ก็อาจเป็นไปได้ที่จะสามารถรับไวรัสซิสก้าเข้าสู่ร่างกายได้นั่นเอง และอาจมีอาการแรกเริ่มเหมือนข้างต้นหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 40วัน

    ผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน และไม่อยากตั้งครรภ์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสซิก้าควรพร้อมเข้ารับการบริการคุมกำเนิดฉุกเฉินและการให้คำปรึกษา ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (การใช้ถุงยางอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง) หรืองดกิจกรรมทางเพศอย่างน้อยตลอดช่วงการตั้งครรภ์

    สำหรับพื้นที่ซึ่งไม่มีการติดต่อของไวรัสซิก้า องค์การอนามัยโลก WHO แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยหรืองดกิจกรรมทางเพศเป็นเวลา 6 เดือนสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ซึ่งมีการติดต่อของไวรัส เพื่อป้องกันการติดเชื้อของไวรัสซิก้าผ่านการมีเพศสัมพันธ์

    การป้องกันไวรัสซิก้า

    การป้องกันไม่ให้ยุงกัด เป็นมาตรการหลักในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิก้า ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้

    • สวมเสื้อผ้า ที่มีสีค่อนข้างอ่อน และปกปิดร่างกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • อยู่ภายในมุ้งลวด ในขณะที่จำเป็นต้องพักผ่อนในขณะเดินทางในพื้นเสี่ยง เช่น ป่า เขา บริเวณใกล้แม่น้ำลำคลอง
    • ปิดประตูและหน้าต่างภายในบ้านให้สนิท
    • ใช้ยากันยุงที่มีสาร DEET สาร IR3535 หรือ สารอิคาริดิน (Icaridin) เป็นหลักซึ่งดูได้จากคำแนะนำบนฉลากของผลิตภัณฑ์
    • ทำความสะอาดในบริเวณที่มีน้ำขัง หากเป็นในชุมชนควรขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำยามาฉีดพ่นให้ทั่วจะเป็นการดี

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย ปราโมทย์ วงศ์คำ · แก้ไขล่าสุด 31/12/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา