วัคซีนโควิด-19 ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จดขึ้นทะเบียนอนุญาตให้นำไปฉีดกับประชากรแต่ละประเทศ ได้แก่ โมเดอร์นา (Moderna) ไฟเซอร์ (Pfizer) แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) และซิโนแวค (Sinovac) โดยแต่ละชนิดจะมีเงื่อนไขทางด้านของช่วงอายุ สภาวะสุขภาพที่ต่างกันออกไป
สำหรับผู้ป่วยที่เป็น หอบหืด อาจสามารถได้รับการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้แต่ต้องเข้ารับการประเมินสุขภาพ พร้อมแจ้งประวัติของโรคที่เป็นให้คุณหมอทราบ เพื่อพิจารณาตามเกณฑ์อายุ โรคประจำตัวอื่น ๆ ว่าควรจะเหมาะกับการฉีดวัคซีนยี่ห้อใดได้บ้าง ขณะเดียวกันมีความเป็นไปได้ว่าหลังจากการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทำให้อาการของ หอบหืด แย่ลงเพียงชั่วคราวคล้ายกับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่
จากการวิจัยของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า 77.4% ของผู้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 มักมีอาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 55 ปี ขณะที่ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา 81.9% ของผู้ได้รับวัคซีนอายุ 18-64 ปี เกิดผลข้างเคียงหลังจากได้รับโดสที่ 2 และผลข้างเคียงจะลดลงในผู้สูงอายุ ซึ่งพบ 71.9% ของผู้ได้ที่รับโดสที่ 2 อย่างไรก็ตามอัตราการเกิดอาการแพ้วัคซีนโควิด-19 นั้นค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำ และยังไม่มีหลักฐานพบว่าผู้ป่วยโรคหอบหืดจะได้รับความเสี่ยงเมื่อ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้มากกว่าบุคคลทั่วไป หากต้องการทราบผลข้างเคียงถึงวัคซีนชนิดอื่นเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับคุณหมอ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและศึกษาวิธีการดูแลตนเองหลังจากตัดสินใจ ฉีดวัคซีนโควิด-19
วัคซีนชนิดอื่น ที่ผู้ป่วยโรคหอบหืด ควรฉีด
นอกจากการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อลดอาการ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับเชื้อไวรัสแล้ว ยังมีวัคซีนชนิดอื่น ๆ ตามเกณฑ์มาตรฐานที่ควรได้รับการฉีดร่วมด้วย ได้แก่
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย