สัญญาณและอาการไข้หวัดอาจเกิดขึ้นภายในเวลา 2 วันหลังจากสัมผัสกับเชื้อโรค โดยอาการไข้หวัดธรรมดา อาจแตกต่างกันไปตามเชื้อก่อโรค หากเป็นไข้หวัดจากเชื้อไวรัส มักมีอาการไอ จาม เจ็บคอ น้ำมูกไหล อาจปวดศีรษะ และมีไข้ หากเป็นไข้หวัดจากเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการมีไข้ ไม่มีอาการไอจาม ต่อมทอนซิลและต่อมน้ำเหลืองใต้ขากรรไกรบวมและกดเจ็บ
โดยปกติ อาการไข้หวัดธรรมดาจากเชื้อไวรัสมักเริ่มด้วยอาการเจ็บคอ ซึ่งมักจะหายไปหลังจากผ่านไป 1-2 วัน จากนั้นในวันที่ 4 หรือวันที่ 5 ของการติดเชื้อ จะเริ่มมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก และอาการไอจาม ผู้ใหญ่มักไม่พบอาการไข้หรืออาจเป็นไข้อ่อน ๆ แต่หากเป็นเด็กมักมีอาการไข้ด้วยอาการมักดีขึ้นภายใน 7-10 วัน แต่บางอาการอาจคงอยู่นานถึง 3 สัปดาห์ และในบางครั้งอาจทำให้ปอดอักเสบ (ปอดบวม) ด้วย
ส่วนไข้หวัดใหญ่ (Flu) คือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่มีสาเหตุมาจากไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ และจะแพร่กระจายเมื่อผู้ติดเชื้อไอจาม อาการของไข้หวัดใหญ่มักจะรุนแรงกว่าและเกิดได้เร็วกว่าอาการไข้หวัดธรรมดา โดยอาการมีตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงรุนแรง เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ อาการที่พบได้บ่อยที่สุด คือ มีไข้สูง น้ำมูกไหล เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ไอ เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาการเหล่านี้มักจะเกิดภายใน 2 วันหลังจากสัมผัสเชื้อ มักจะมีอาการนานเกินสัปดาห์ และอาการไออาจอยู่นานเกิน 2 สัปดาห์ สำหรับเด็กอาจมีอาการคลื่นไส้และอาเจียน ซึ่งไม่ค่อยพบในผู้ใหญ่ หรือหากเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 (Swine Flu) ก็อาจทำให้มีอาการอาเจียนและท้องร่วงร่วมด้วย
ทั้งนี้ ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ถือเป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในทารก ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย