เป็นโรคติดต่อทางระบบหายใจสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย โดยอาจทำให้มีอาการไม่สบายตัว และอาการหนาวสั่น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายโดยเพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกาย เพื่อฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายหดเกร็ง มีอาการตัวสั่น
อาการที่พบได้ มักมีดังนี้
- ไอ เจ็บคอ หนาวสั่น
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- เหนื่อยล้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะ ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน
อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ
อุณภูมิปกติของร่างกายควรอยู่ที่ 37 องศาเซสเซียส หากอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วและต่ำกว่า 35 องศาเซสเซียส หมายความว่าร่างกายมีอุณภูมิต่ำกว่าปกติ ส่งผลให้อวัยวะในร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้มีอาการหนาวสั่นซึ่งเป็นการตอบสนองของร่างกายเพื่อปรับสมดุลและสร้างความอบอุ่น
อาการที่พบได้ มักมีดังนี้
- หนาวสั่นจนปากสั่นพูดไม่ชัด
- อ่อนแรง มึนงง สับสน และหายใจช้าลง
- ผิวหนังมีสีแดง
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน หรือรับประทานยารักษาโรคเบาหวานที่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องใช้กลูโคสเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย เมื่อร่างกายไม่เปลี่ยนกลูโคสเป็นพลังงานได้น้อยลง อุณภูมิในร่างกายอาจต่ำลงตามไปด้วยและอาจส่งผลให้เกิดอาการหนาวสั่นตามมา
อาการที่พบได้ มักมีดังนี้
- หนาวสั่นไม่มีไข้
- ร่างกายอ่อนแรง ง่วงบ่อย
- เหงื่อออกมาก
- คลื่นไส้อาเจียน หิวง่าย
- วิตกกังวล
ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย
ต่อมไทรอยด์มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนเพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและช่วยให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ หากเกิดภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ อาจส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้อุณภูมิภายในร่างกายต่ำลงและอวัยวะทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหนาวสั่นได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย