backup og meta

วัคซีนมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้จริงหรือ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 10/01/2022

    วัคซีนมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้จริงหรือ

    วัคซีน คือ สารชนิดนึ่งที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันร่างกายจากไวรัสที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ โรคมาลาเรีย โควิด 19 โดยวัคซีนจะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีที่สามารถป้องกันเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมอีกครั้ง ระบบภูมิคุ้มกันก็จะทำหน้าที่ป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมนั้น ๆ ซึ่ง วัคซีนมะเร็ง ก็มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายรู้จักเซลล์มะเร็ง รวมถึงทำหน้าที่ในการโจมตีและทำลายเซลล์มะเร็งนั่นเอง

    การติดเชื้อไวรัสอาจมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิด ตัวอย่างเช่น มะเร็งปากมดลูก อาจเกิดจากไวรัสเอชพีวี (HPV) ในขณะที่มะเร็งตับอาจเกิดจากไวรัสดับอักเสบบี (HBV) ซึ่งในปัจจุบัน มีการพัฒนาวัคซีนหลายชนิดที่ช่วยป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวีและไวรัสตับอักเสบบี โดยวัคซีนเหล่านี้อาจอาจมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการก่อตัวของเซลล์มะเร็งที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสเอชพีวีและไวรัสตับอักเสบบีได้

    ประเภทของวัคซีนมะเร็ง

    ประเภทของวัคซีนมะเร็ง มีดังต่อไปนี้

    • วัคซีนจากโปรตีนหรือเปปไทด์ เป็นโปรตีนที่มีโมเลกุลเล็ก และมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
    • วัคซีน DNA และ RNA คือ วัคซีนที่ผลิตจาก DNA หรือ RNA ที่มักพบในเซลล์มะเร็ง ซึ่งอาจช่วยให้เซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองและทำลายเซลล์มะเร็ง
    • วัคซีนไวรัส นักวิทยาศาสตร์อาจทำการเปลี่ยนไวรัสในห้องปฏิบัติการที่เรียกว่า เวกเตอร์ไวรัส และใช้เป็นพาหะเพื่อนำส่งแอนติเจนของมะเร็งเข้าสู่ร่างกาย เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ตอบสนองต่อเวกเตอร์ไวรัส ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันอาจรับรู้และตอบสนองต่อแอนติเจนของมะเร็ง นอกจากนี้คุณหมออาจใช้วิธีการรักษามะเร็งที่เรียกว่า T-VEC ที่คล้ายกับวัคซีนไวรัส โดยใช้สายพันธุ์ของไวรัสเริม นำไปเปลี่ยนแปลงยีนเพื่อระบุให้ไวรัสทำลายเซลล์มะเร็ง เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง มะเร็งศีรษะและลำคอ และมะเร็งบางชนิดที่ไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยการผ่าตัด
    • วัคซีนเซลล์เดนไดรต์ (Dendritic Cell Vaccines) คือวัคซีนที่อาจช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันรับรู้และทำลายเซลล์ผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง
    • วัคซีนที่ทำจากแบคทีเรียหรือไวรัสทั้งตัวที่ตายแล้ว เป็นวัคซีนที่อาจช่วยให้ร่างกายกระตุ้นภูมิคุ้มกันป้องกันโรค

    วัคซีนมะเร็ง มีอะไรบ้าง

    วัคซีนที่อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง หลัก ๆ มีดังนี้

    • วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) 

    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประเทศสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งที่เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น มะเร็งปากมดลูก เชื้อไวรัสเอชพีวีสามารถแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ช่องคลอด ทวารหนักโดยไม่ป้องกัน หรือสัมผัสกับเชื้อทางผิวหนัง ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดมะเร็งช่องปาก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาต มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งบริเวณปากช่องคลอด เพราะเชื้อไวรัสอาจกระตุ้นให้เซลล์เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนยากต่อการควบคุมและนำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็ง

    การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวีจึงอาจช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ควรเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 9-12 ปี สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีมาก่อน อาจเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 27-45 ปี

    • วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี

    ไวรัสตับอักเสบบีอาจเกิดจากการแพร่กระจายผ่านทางเลือด สารคัดหลั่งบริเวณช่องคลอด อสุจิ เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยา เข็มเจาะเลือด แต่ไม่สามารถแพร่กระจายผ่านการไอและจาม นอกจากนี้ สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอาจแพร่เชื้อสู่ทารกในครรภ์ระหว่างคลอดได้ เนื่องจาก ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งตับ ดังนั้นจึงควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

    วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีสามารถฉีดได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โดส 3 โดส หรือ 4 โดส ตามดุลพินิจของคุณหมอ สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงดังต่อไปนี้ ก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้เช่นกัน 

    • ผู้ที่มีคู่นอนหรืออาศัยอยู่กับผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบบี
    • ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
    • ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
    • สตรีตั้งครรภ์
    • ผู้ที่กำลังรักษาด้วยเคมีบำบัด ฟอกไต
    • ผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    • เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสกับเลือดหรือของเหลวในร่างกายของผู้อื่น
    • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคตับเรื้อรัง โรคตับอักเสบซี โรคไต โรคเบาหวาน
    • ผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีผู้คนป่วยเป็นโรคตับอักเสบบี
    • ผู้ที่ใช้เข็ม กระบอกฉีดยาร่วมกับผู้อื่น

    ผลข้างเคียงของวัคซีนป้องกันมะเร็ง

    ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนและภาวะสุขภาพของผู้ป่วย โดยทั่วไปอาจก่อให้เกิดอาการ ดังนี้

    • มีไข้ คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ 
    • ปวดศีรษะ 
    • คลื่นไส้
    • อ่อนเพลีย
    • รู้สึกหนาวสั่น
    • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หลัง
    • รู้สึกเบื่ออาหาร อยากอาหารน้อยลง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 10/01/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา