backup og meta

อาหารโรคเบาหวาน ที่ผู้ป่วยควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล · โรคเบาหวาน · โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 15/06/2022

    อาหารโรคเบาหวาน ที่ผู้ป่วยควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยง

    อาหารโรคเบาหวาน หมายถึง อาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคเบาหวานซึ่งเป็นผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าคนปกติ หากระดับน้ำสูงเกินไปโดยไม่ระวังหรือควบคุมอาหาร ก็อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เกี่ยวกับสุขภาพ อาหารโรคเบาหวาน ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตซึ่งดีต่อสุขภาพ อาหารที่มีเส้นใยสูง ไขมันไม่อิ่มตัวหรือไขมันดี รวมถึงผักและผลไม้ต่าง ๆ

    อาหารโรคเบาหวานมีอะไรบ้าง

    เมื่อเป็นโรคเบาหวาน หรือมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน คุณหมอมักแนะนำให้คุมอาหาร เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป จนทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น เบาหวานขึ้นตา โรคไต โรคหัวใจ  รวมถึงป้องกันโรคอ้วน อันเป็นปัจจัยหนึ่งของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

    อาหารโรคเบาหวานประกอบด้วยอาหารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    อาหารโรคเบาหวาน: คาร์โบไฮเดรต

    คาร์โบไฮเดรต มักพบในอาหารจำพวกแป้ง เป็นสารอาหารซึ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากที่สุด เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลหรือกลูโคส เพื่อใช้เป็นพลังงานให้แก่ร่างกาย

    ผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีเส้นใยอาหารสูง เนื่องจากเส้นใยอาหารจะช่วยควบคุมการย่อยคาร์โบไฮเดรตของร่างกาย และควบคุมการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเวลาเดียวกัน

    อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดที่ดีต่อสุขภาพ ประกอบด้วย

    • ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ควินัว
    • ผักต่าง ๆ เช่น มันฝรั่ง ข้าวโพด ถั่วลันเตา
    • นมหรือโยเกิร์ต ชนิดน้ำตาลน้อยและไขมันต่ำ

    ทั้งนี้ คาร์โบไฮเดรตซึ่งผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงประกอบด้วย ข้าวขาว ขนมปัง ซีเรียล และขนมหวานที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมเค้ก คุ้กกี้

    อาหารโรคเบาหวาน: ไขมัน

    ผู้ป่วยเบาหวานควรบริโภค ไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low Density Lipoprotein หรือ LDL) อันเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคเส้นเลือดสมอง หากมีปริมาณสูงเกินไปในร่างกาย

    ไขมันไม่อิ่มตัว พบได้จากอาหารต่อไปนี้

    • อะโวคาโด
    • เมล็ดเจีย
    • ถั่วต่าง ๆ เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง (รวมถึงเนยถั่ว) วอลนัท
    • น้ำมันพืช เช่น น้ำมันคาโนล่า น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์

    ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรบริโภคไขมันต่อไปนี้ หรือควรบริโภคในปริมาณน้อย ได้แก่

    • ไขมันอิ่มตัว เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เสี่ยงเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากทำให้ระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีในร่างกายเพิ่มขึ้น ไขมันอิ่มตัวพบได้ทั่วไปในเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป หรือผลิตภัณฑ์จากนม
    • ไขมันทรานส์ เป็นไขมันที่พบบ่อยจากการปรับโครงสร้างไขมัน ในกระบวนการอุตสาหกรรมผลิตอาหาร โดยทำให้คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับไขมันอิ่มตัว ทั้งนี้ มักพบไขมันทรานส์ในอาหารแปรรูปโดยทั่วไป เช่น เค้ก เฟรนช์ฟรายส์ แฮมเบอร์เกอร์ ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ

    อาหารโรคเบาหวาน: โปรตีน

    สำหรับผู้ป่วยเบาหวานสามารถบริโภคโปรตีนได้ตามปกติ ไม่ว่าจากเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ถั่ว หรือเต้าหู้ และในกรณีที่ผู้ป่วยเบาหวานเริ่มมีภาวะไตเรื้อรังแล้ว ควรปรึกษานักโภชนาการเกี่ยวกับอาหารโปรตีนต่ำ เพื่อชะลอไตเสื่อม

    อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวในเนื้อสัตว์ และเลือกบริโภคไขมันดี อย่างโอเมก้า 3 จากปลาบางชนิดซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาดุก ปลาช่อน

    นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป อาทิ ไส้กรอก แฮม เบคอน เนื่องจากมี สัดส่วนของเกลือสูงและมีสารถนอมอาหารบาอย่างที่เป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

    อาหารโรคเบาหวาน: ผักและผลไม้

    ผักและผลไม้ต่าง ๆ เป็นอาหารแนะนำสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร น้ำตาลและไขมันต่ำ รวมถึงเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด

    อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ผักและผลไม้ทุกชนิดจะเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน โดยผู้ป่วยเบาหวานควรบริโภคผักและผลไม้ ซึ่งมีค่าดรรชนีน้ำตาลหรือค่า GI (Glycemic Index) ต่ำ เนื่องจากจะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังรับประทานเข้าไป

    ทั้งนี้ ผักและผลไม้ดังกล่าวประกอบด้วย

    ผัก

    • หน่อไม้ฝรั่ง
    • บรอกโคลี
    • กะหล่ำดอก
    • มะเขือ
    • ผักกาดหอม
    • ผักโขม
    • ผักชีฝรั่ง

    ผลไม้

    • เบอร์รีต่าง ๆ
    • พลัม
    • แอปเปิ้ล
    • กีวี่
    • ลูกแพร์
    • ส้ม

    นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงผักกระป๋อง หรือผักดอง เพราะมีโซเดียมสูง เมื่อรับประทานแล้วซึ่ง อันอาจทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นเมื่อรับประทานเข้าไป

    ทั้งนี้ การมีโซเดียมปริมาณมากในร่างกายยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดของโรคต่าง ๆ เช่น หัวใจวาย โรคกระดูกพรุน มะเร็งกระเพาะอาหาร

    ยิ่งกว่านั้น ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการบริโภคผลไม้แปรรูปน้ำตาลสูง เช่น ผลไม้เชื่อม ผลไม้กระป๋อง ผลไม้เคลือบน้ำตาล น้ำผลไม้ เนื่องจากผลไม้แปรรูปดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ทำให้ระดับน้ำในเลือดสูงขึ้นได้

    อาหารโรคเบาหวาน: อัตราส่วนการบริโภคอาหารหนึ่งมื้อ

    อ้างอิงจากรายงานของสมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยเบาหวานควรบริโภคอาหารใน 1 มื้อ ตามอัตราส่วนดังนี้

    • รับประทานผักในอัตราส่วนครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งหมด
    • รับประทานโปรตีนในอัตราส่วน 1 ใน 4 ของอาหารทั้งหมด
    • รับประทานคาร์โบไฮเดรตในอัตราส่วน 1 ใน 4 ของอาหารทั้งหมด
    • รับประทานไขมันดีในปริมาณเล็กน้อย
    • อาจเพิ่มผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากนม และเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล เข้าไปในมื้ออาหารด้วย

    นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งสหรัฐอเมริกา ยังแนะนำว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรบริโภคคาร์โบไฮเดรตเพียงครึ่งหนึ่งของแคลอรี่ที่ควรได้รับต่อวัน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดภาวะโรคอ้วน

    ทั้งนี้ ผู้ชายควรได้รับพลังงานประมาณ 2,500 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงควรได้รับพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ดังนั้น ปริมาณคาร์โบไฮเดรตซึ่งผู้ป่วยเบาหวานควรบริโภคต่อวัน จึงเท่ากับราว ๆ 1,250 กิโลแคลอรี่ ในผู้ชาย และ 1,000 กิโลแคลอรี่ ในผู้หญิง

    ทั้งนี้ ผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน ควรปรึกษาคุณหมอถึงข้อแนะนำเกี่ยวกับอาหารเบาหวานและการปรับพฤติกรรมด้านอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล

    โรคเบาหวาน · โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 15/06/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา