backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

อินซูลิน (Insulin)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 05/11/2021

อินซูลิน (Insulin)

อินซูลิน (Insulin) จะช่วยกักเก็บน้ำตาลไว้ในตับแล้วปล่อยออกมาเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือเมื่อร่างกายต้องการน้ำตาลมากขึ้น

ข้อบ่งใช้

อินซูลิน ใช้สำหรับ

หากระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูงกว่าปกติ อินซูลิน (Insulin) จะช่วยกักเก็บน้ำตาลไว้ในตับแล้วปล่อยออกมาเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณต่ำหรือเมื่อร่างกายต้องการน้ำตาลมากขึ้น เช่น ระหว่างมื้ออาหารหรือขณะกำลังออกกำลังกาย ดังนั้นยาอินซูลินจะช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้อยู่ในช่วงปกติ

ยาอินซูลินที่ใช้สำหรับรักษาโรคเบาหวานมีหลายประเภท ดังนี้

  • ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว
  • ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 15 นาทีหลังจากฉีดเข้าไปและออกฤทธิ์สูงสุดที่ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ยังคงออกฤทธิ์ต่อไปอีกเป็นเวลา 2-4 ชั่วโมง
  • ยานี้มักจะรับประทานก่อนมื้ออาหารและใช้เสริมกับยาอินซูลินออกฤทธิ์นาน
  • ประเภท ยาอินซูลิน กลูไลซีน (Insulin glulisine) อย่าง อะปิดา (Apidra) ยาอินซูลิน ลิสโปร (Insulin lispro) อย่าง ฮูมาล็อก (Humalog) และยาอินซูลิน แอสพาร์ท (Insulin aspart) อย่าง โนโวล็อก (NovoLog)
  • ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปกติ
    • ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาทีหลังจากฉีดยาและออกฤทธิ์สูงสุดที่ประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมง แต่ยังคงออกฤทธิ์ต่อไปอีกเป็นเวลา 3-6 ชั่วโมง
    • ยานี้มักจะรับประทานก่อนมื้ออาหารและใช้เสริมกับยาอินซูลินออกฤทธิ์นาน
    • ประเภท ฮูมูลิน อาร์ (Humulin R) โนโวลิน อาร์ (Novolin R)
  • ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปานกลาง
    • ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 2-4 ชั่วโมงหลังจากฉีดเข้าไปและออกฤทธิ์สูงสุดที่ประมาณ 4-12 ชั่วโมงให้หลัง และยังคงออกฤทธิ์ต่อไปอีกเป็นเวลา 12-18 ชั่วโมง
    • ยานี้มักจะรับประทานวันละสองครั้งและใช้เสริมกับยาอินซูลินออกฤทธิ์เร็วหรือออกฤทธิ์ปกติ
    • ประเภท เอ็นพีเอช (NPH) (ฮูมูลิน เอ็น หรือ โนโวลิน เอ็น)
  • ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์นาน
    • ยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลายชั่วโมงหลังจากฉีดเข้าไปและออกฤทธิ์เป็นเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง
    • หากจำเป็น ยานี้มักจะใช้ร่วมกับยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว
    • ประเภท ยาอินซูลิน ดีเทเมียร์ (Insulin detemir) อย่าง เลเวเมียร์ (Levemir) และยาอินซูลิน กลาร์จีน (insulin glargine) อย่าง แลนทัส (Lantus)
  • วิธีการใช้ยา อินซูลิน

    ฉีดยาอินซูลินเข้าใต้ผิวหนัง แพทย์หรือบุคคลากรทางการแพทย์จะเป็นผู้สอนวิธีการฉีดยาอินซูลิน บริเวณที่มักจะใช้เพื่อฉีดยาอินซูลินคือ ต้นแขน ต้นขาส่วนหน้าและส่วนข้าง รวมทั้งบริเวณช่องท้อง อย่าฉีดยาอินซูลินในบริเวณที่ใกล้กับสะดือเกินกว่า 2 นิ้ว

    เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของคุณหนาขึ้น พยายามอย่าฉีดยาอินซูลินในบริเวณเดียวกันซ้ำไปซ้ำมา ควรเปลี่ยนบริเวณที่ฉีดยา

    การเก็บรักษายา อินซูลิน

    ควรเก็บรักษายาอินซูลินให้ถูกต้องไม่เช่นนั้นยาอาจจะไม่ออกฤทธิ์

    • เก็บยาอินซูลินให้ห่างจากความร้อนและแสง ยาอินซูลินที่คุณไม่ได้เก็บไว้ในตู้เย็นควรจะพยายามให้อยู่ในที่เย็น ๆ ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ (ระหว่าง 13-26 องศาเซลเซียส)
    • อย่าแช่แข็งยาอินซูลิน หากยานั้นแช่แข็งแล้วไม่ควรใช้ยานั้นแม้ว่าจะละลายยาแล้วก็ตาม
    • เก็บขวดยาที่ยังไม่ได้ใช้ หลอดบรรจุยา และปากยาฉีดยาอินซูลินไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิระหว่าง 2 องศาเซลเซียส และ 7-8 องศาเซลเซียส หากเก็บยาได้อย่างถูกต้อง ยานี้จะเป็นปกติดีจนถึงวันหมดอายุที่ระบุไว้บนตัวยา
    • เก็บหลอดบรรจุยาอินซูลินและปากกาฉีดยาอินซูลินที่คุณกำลังใช้อยู่ไว้ในอุณหภูมิห้องระหว่าง 13-26 องศาเซลเซียส

    ข้อควรระวังและคำเตือน

    ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา อินซูลิน

    ก่อนใช้ยาอินซูลิน โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ

    • หากคุณแพ้ต่อยาอินซูลิน ต่อส่วนผสมอื่น ๆ หรือแพ้ต่อยาอื่น ๆ
    • โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อเอง วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพรที่คุณกำลังใช้หรือมีแผนที่จะใช้
    • หากเส้นประสาทของคุณเสียหายเนื่องจากโรคเบาหวานหรือโรคอื่น ๆ รวมถึงโรคไตหรือโรคตับ
    • หากคุณกำลังตั้งครรภ์ มีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
    • หากคุณกำลังรับการผ่าตัด รวมถึงการผ่าตัดทำฟัน
    • หากคุณกำลังจะป่วย มีความตึงเครียดผิดปกติ หรือเปลี่ยนระดับการออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรม

    ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา

    ยาอินซูลินจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

    การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

    • A= ไม่มีความเสี่ยง
    • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
    • C= อาจจะมีความเสี่ยง
    • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
    • X= ห้ามใช้
    • N= ไม่ทราบแน่ชัด

    ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงของการใช้ยา อินซูลิน

    ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณลดต่ำเกินไป เมื่อคุณใช้อินซูลินเป็นประจำ ระดับน้ำตาลในเลือดอาจลดต่ำเกินไปได้ในหลายกรณี เช่น เมื่อคุณออกกำลังกายมากกว่าปกติ เมื่อรับประทานอาหารไม่เพียงพอหรือเมื่อรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา รวมทั้งเมื่อคุณใช้ยาอินซูลินมากเกินไป คนส่วนใหญ่ที่ใช้ยาอินซูลินมักจะมีปฏิกิริยาอินซูลินในบางครั้ง สัญญาณของปฏิกิริยาอินซูลินและภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมีดังต่อไปนี้

    • รู้สึกเหนื่อยล้า
    • หาวบ่อย
    • ไม่สามารถพูดหรือคิดได้อย่างชัดเจน
    • สูญเสียการเคลื่อนไหวที่สอดประสานของกล้ามเนื้อ
    • เหงื่อออก
    • กระตุก
    • ชัก
    • รู้สึกคล้ายจะหมดสติ
    • ตัวซีดมาก
    • หมดสติ

    ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

    ปฏิกิริยาของยา

    ปฏิกิริยากับยาอื่น

    ยาอินซูลินอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่าง ๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใด ๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

    ยาบางชนิดเมื่อใช้ร่วมกับยาอินซูลินอาจทำให้เกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำจนอันตรายพร้อมกับอาการ เช่น วิงเวียน หิว หรือเหงื่อออก ได้แก่

    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • ยาในกลุ่มเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE inhibitors) เช่น ลิซิโนพริล (Lisinopril) ควินาพริล (Quinadril) แคปโตพริล (Captopril) อีนาลาพริล (Enalapril)
    • ยาในกลุ่มเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta-blocker medications) เช่น เมโทโพรลอล (Metoprolol) โพรพราโนลอล (Propranolol) ยาหยอดตาสำหรับรักษาโรคต้อหิน เช่น ทิโมลอล (Timolol)
    • ยาไดโซไพราไมด์ (Disopyramide)
    • ยาสำหรับคอเลสเตอรอล อย่างไฟเบรต (Fibrate)
    • ยาปฏิชีวนะซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamide antibiotics) เช่น ซัลฟาไดอะซีน (Sulfadiazine) ซัลฟาเมโทซาโซล (Sulfamethoxazole)
    • ยาซาลิไซเลต (Salicylates) เช่น แอสไพริน
    • ยาในกลุ่มเอ็มเอโอ อินฮิบิเตอร์ (MAOIs) เช่น ไอโซคาร์บอกซาซิด (Isocarboxazid) ฟีเนลซีน (Phenelzine)
    • ยาอื่น ๆ เช่น ยาออกทรีโอไทด์ (Octreotide) ยารักษาโรคเบาหวานแบบรับประทาน ยาโพรพอกซิฟีน (Propoxyphene) ยารีเซอร์พีน (Reserpine)

    ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    ยาอินซูลินอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

    ยาอินซูลินอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    ขนาดยาอินซูลินสำหรับผู้ใหญ่

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว (อินซูลิน กลูลิซีน [Insulin glulisine])

    ช่วงขนาดยาปกติคือ 0.5-1 หน่วย/กก./วัน

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปกติ (ฮูมูลิน อาร์)

    โรคเบาหวานประเภทที่ 1

    • ขนาดยาเริ่มต้น 0.2-0.4 หน่วย/กก./วัน
    • ขนาดยาปกติ 0.5-1 หน่วย/กก./วัน สำหรับผู้ป่วยที่ดื้อต่อยาอินซูลิน (เช่น เนื่องจากโรคอ้วน) อาจต้องใช้ยาอินซูลินในขนาดยาต่อวันที่สูงกว่า

    โรคเบาหวานประเภทที่ 2

    ขนาดยาเริ่มต้นที่แนะนำคือ 10 หน่วย/วัน (หรือ 0.1-0.2 หน่วย/กก./วัน)

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปานกลาง (ฮูมูลิน เอ็น)

    โรคเบาหวานประเภทที่ 1

    • แนวทางที่แนะนำสำหรับขนาดยาเริ่มต้น
    • ช่วงขนาดยาปกติต่อวันคือ 0.5-1 หน่วย/กก./วัน ผู้ที่ไม่อ้วนอาจต้องการยาในขนาด 0.4-0.6 หน่วย/กก./วัน ผู้ที่อ้วนอาจต้องการยาในขนาด 0.8-1.2 หน่วย/กก./วัน

    โรคเบาหวานประเภทที่ 2

    • แนวทางที่แนะนำสำหรับขนาดยาเริ่มต้นคือ 0.2 หน่วย/กก./วัน
    • ตอนเช้า ให้ยาอินซูลินสองในสามของขนาดยาต่อวันและอัตราปกติของยาอินซูลินต่อเอ็นพีเอช 1:2
    • ตอนเย็น ให้ยาอินซูลินหนึ่งในสามของขนาดยาต่อวันและอัตราปกติของยาอินซูลินต่อเอ็นพีเอช 1:1

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์นาน (ยาอินซูลิน ดีเทเมียร์)

    โรคเบาหวานประเภทที่ 1

    ขนาดยาเริ่มต้น

    • โรคเบาหวานประเภทที่ 1 ต้องการยาอินซูลินในขนาดประมาณหนึ่งในสามของขนาดยาทั้งหมดต่อวัน ควรใช้ยาอินซูลินก่อนมื้ออาหารแบบออกฤทธิ์เร็วหรือออกฤทธิ์ปกติเพื่อให้ตรงกับความต้องการของขนาดยาที่เหลืออยู่ที่น่าพึงพอใจ
    • ช่วงขนาดยาปกติต่อวันคือ 0.5-1 หน่วย/กก./วัน โดยแบ่งให้ยา ผู้ที่ไม่อ้วนอาจต้องการยาในขนาด 0.4-0.6 หน่วย/กก./วัน ผู้ที่อ้วนอาจต้องการยาในขนาด 0.6-1.2 หน่วย/กก./วัน

    โรคเบาหวานประเภทที่ 2

    • โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ที่การรับประทานยานั้นไม่สามารถควบคุมได้อย่างเพียงพอ 10 หน่วย/วัน (หรือ 0.1-0.2 unit/kg/day)
    • โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ที่การใช้ยาจีแอลพี-1 รีเซปเตอร์ แอนตาโกนิสต์ (GLP-1 receptor agonist) นั้นไม่สามารถควบคุมได้อย่างเพียงพอ 10 หน่วย/วัน

    ขนาดยาอินซูลินสำหรับเด็ก

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว (อินซูลิน กลูลิซีน)

    • อายุน้อยกว่า 4 ปี ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
    • อายุ 4-17 ปี อาจต้องการยาในขนาด 0.8-1.2 หน่วย/กก./วัน ในช่วงวัยเจริญเติบโต ไม่เช่นนั้นก็อาจจะใช้ยาในขนาดสำหรับผู้ใหญ่ (0.5-1 หน่วย/กก./วัน)

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปกติ (ฮูมูลิน อาร์)

    โรคเบาหวานประเภทที่ 1

    • ขนาดยาเริ่มต้น 0.2-0.4 หน่วย/กก./วัน
    • ขนาดยาปกติ 0.5-1 หน่วย/กก./วัน สำหรับผู้ป่วยที่ดื้อต่ออินซูลิน (เช่น เนื่องจากโรคอ้วน) อาจต้องใช้ยาอินซูลินในขนาดยาต่อวันที่สูงกว่า

    วัยรุ่น อาจต้องการยาในขนาดสูงถึง 1.5 มก./กก./วัน ในช่วงวัยเจริญเติบโต

    ความต้องการอินซูลินรวมต่อวันโดยเฉลี่ยสำหรับเด็กวัยก่อนเรียนอาจจะแตกต่างจาก 0.7-1 หน่วย/กก./วัน แต่อาจต่ำกว่านี้มาก

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปานกลาง (ฮูมูลิน เอ็น)

    โรคเบาหวานประเภทที่ 1

    • อายุน้อยกว่า 12 ปี ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
    • อายุมากกว่า 12 ปี ขนาดยาที่แนะนำคือ 0.5-1 หน่วย/กก./วัน ช่วงขนาดยาปกติต่อวันของวัยรุ่นคือ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.2 ในช่วงวัยเจริญเติบโต

    ยาอินซูลินชนิดออกฤทธิ์นาน (ยาอินซูลิน ดีเทเมียร์)

    โรคเบาหวานประเภทที่ 1

    • อายุน้อยกว่า 2 ปี ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
    • อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี ต้องการยาอินซูลินในขนาดประมาณหนึ่งในสามของขนาดยาทั้งหมดต่อวัน ควรใช้ยาอินซูลินก่อนมื้ออาหารแบบออกฤทธิ์เร็วหรือออกฤทธิ์ปกติเพื่อให้ตรงกับความต้องการของขนาดยาที่เหลืออยู่ที่น่าพึงพอใจ ช่วงขนาดยาปกติของวัยรุ่นคือ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.2 หน่วย/กก./วัน ในช่วงวัยเจริญเติบโต

    รูปแบบของยา

    ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

    • กระบอกฉีดยา
    • ปากกาฉีดยา
    • อินซูลิน ปั๊ม
    • ยาพ่น
    • อินเจ็คชั่น พอร์ต (Injection port)
    • หัวเจ็ทสำหรับฉีด (Jet injector)

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณจำได้ว่าต้องใช้ยาก่อนหรือไม่นานหลังจากมื้ออาหาร ให้รีบใช้ยาทันที หากผ่านไปนานแล้วหลังจากมื้ออาหาร ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือติดต่อแพทย์เพื่อรับทราบว่าคุณควรฉีดยาที่ลืมใช้ไปหรือไม่ อย่าฉีดยาสำหรับ 2 ครั้งเพื่อชดเชยยาที่ลืมใช้ไป

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 05/11/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา