การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน
เมื่อทราบว่าคนในครอบครัวป่วยเป็นเบาหวาน อาจทำให้สมาชิกที่เหลือรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ทั้งเรื่องการรับประทาน การจัดการเรื่องอาหาร การรับประทานยา การไปพบแพทย์ตามนัด โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังมีข้อควรระวังในการปฏิบัติตัวต่อผู้ป่วยเบาหวาน ดังนี้
- เมื่อทราบว่าคนในครอบครัวป่วยเป็นเบาหวาน ไม่ควรบ่น ดุ หรือตำหนิผู้ป่วยเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินหรือการใช้ชีวิตจนทำให้ผู้ป่วยเบาหวานรู้สึกผิด และอย่าพูดอวดอ้างถึงสิ่งที่ตนเองรู้เกี่ยวกับเบาหวาน พยายามให้กำลังใจ พูดคุย หรือปฏิบัติตนตามปกติ
- รู้จักที่จะปล่อยให้ผู้ป่วยทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่าการเข้าไปจัดการแทนทั้งหมด แต่แสดงออกให้ผู้ป่วยรู้ว่า ยังมีคนในครอบครัวที่อยู่ข้าง ๆ เสมอ และพร้อมให้ความช่วยเหลือหากต้องการ
- ศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ยาที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน และหมั่นสังเกตอาการ อารมณ์ หรือสัญญาณเตือนเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อาจเข้าไปสอบถามและช่วยเหลือเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติ
- ผู้ป่วยเบาหวานอาจมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ รวมทั้งความเครียด ความวิตกกังวล ควรพยายามเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้ป่วยที่ต้องจัดการกับปัญหาสุขภาพ การรับประทานยา การฉีดอินซูลิน ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับตัวยอมรับกับโรคที่เกิดขึ้นว่าเบาหวานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แตไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
- แม้ว่าผู้ป่วยอาจจะไม่ค่อยอยากทำอะไร แต่อย่าให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับที่มากเกินไป อาจออกอุบายหรือวางแผนเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ชวนกันไปซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ ออกไปเดินเล่นด้วยกัน เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและรู้สึกสดชื่น
ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยเบาหวาน
เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่นอกจากจะต้องรับประทานยาแก้เบาหวานแล้ว มักมียาลดความดันโลหิตสูง ยาลดไขมันในเลือดสูง ซึ่งทำให้มียาหลายชนิดที่ต้องรับประทานให้ถูกต้องตามที่คุณหมอสั่ง ผู้ป่วยอาจหลงลืมหรือรับประทานยาผิดได้ สมาชิกในบ้านจำเป็นต้องช่วยดูแลเรื่องตารางการรับประทานยาให้ตรงเวลาและครบถ้วน รวมทั้งทำความรู้จักชนิดของกลุ่มยารับประทานที่ใช้รักษาเบาหวานและอาการอื่น ๆ
- กลุ่มยาซัลโฟนีลยูเรีย เช่น ยาไกลพิไซด์ (Glipizide) ยาไกลเมพิไรด์ (Glimepiride) โดยยาในกลุ่มนี้เป็นยารับประทานที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนในร่างกายโดยเฉพาะ
- กลุ่มยาที่ไม่ใช่ซัลโฟนีลยูเรีย เช่น ยาเมทฟอร์มิน (Metformin) ยาอินโวคานา (Invokana) ยาเหล่านี้จะออกฤทธิ์ต้านการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลให้อยู่ในภาวะปกติ นอกจากนั้น ยังมียากลุ่มฮอร์โมนอย่าง DPP-4 inhibitor มีคุณสมบัติช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล โดยออกฤทธิ์ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนกลูคากอนซึ่งผลิตจากตับอ่อน SGLT-2 inhibitor เป็นยารักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มักใช้เสริมร่วมกับยาในกลุ่มอื่น และ GLP-1 สำหรับช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มักใช้ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีหรือยาอื่น ๆ
- กลุ่มยาลดไขมันในเลือดกลุ่มสแตติน เช่น ยาซิมวาสแตติน (Simvastatin) ยาฟลูวาสแตติน (Fluvastatin) ยาอะทอร์วาสแตติน (Atorvastatin) มีฤทธิ์ในการช่วยลดไขมันในเลือด ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากไขมันในเลือดสูง ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตคอเลสเตอรอลชนิดเลว เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี
- กลุ่มยาลดความดันโลหิต โดยปกติแพทย์จะใช้ยามากกว่า 2 ชนิดในการช่วยลดความดันโลหิต เช่น กลุ่มยาเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE inhibitors) เป็นกลุ่มยาที่ใช้รักษา ป้องกัน และบรรเทาภาวะโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะหัวใจวาย กลุ่มยาขับปัสสาวะไธอะไซด์ไดยูเรติก (Thiazide-like diuretics) เป็นกลุ่มยาที่เข้าไปออกฤทธิ์กับไตโดยตรง ยาลดความดันส่วนใหญ่ที่แพทย์จ่ายมักมุ่งเน้นในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย